เชื้อรา
ราวิทยาเบื้องต้น
ผลของเชื้อราต่อสิ่งมีชีวิต
โรคที่เกิดจากเชื้อรา
เชื้อราที่เกิดกับร่างกาย
การเรียกชื่อเชื้อรา
ลักษณะสำคัญ
ลักษณะของเชื้อรา
เนื้อเยื่อของเชื้อรา
โครงสร้างของเชื้อรา
การดำรงชีวิต
การดำรงชีวิตของเชื้อรา
การเจริญของเส้นใย
สัณฐานวิทยา
การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
การจัดกลุ่ม
การจัดหมวดหมู่เชื้อรา
Ascomycota
Basidiomycota
Deuteromycota
Zygomycota
การวินิจฉัย
การตรวจวินิจฉัย
ความปลอดภัยในการตรวจวินิจฉัย
การตรวจวินิจฉัยในห้องปฏิบัติการ
การเก็บวัตถุตัวอย่าง
การดำเนินการตรวจ
การรักษาและทำลาย
การทำลายและฆ่าเชื้อรา
รูปภาพ
เชื้อราทั่วไป
ภาพขยายจากกล้องจุลทรรศน์
ภาพเชื้อราที่เกิดกับร่างกาย
ศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลลำพูน
ภาคผนวก
ชนิดอาหารเลี้ยงเชื้อ
เชื้อราที่พบในสิ่งส่งตรวจต่างๆ
เชื้อรากับบิ๊ก
D2B
|
|
|
taxonomy
คือการจัดจำแนกหมวดหมู่ของเชื้อรา
หรือสิ่งมีชีวิตให้เข้าตาม
Class, Order, Family ,
Genus, Species ต่างๆ
โดยอาศัยลักษณะรูปร่าง
โครงสร้าง
จุดมุ่งหมายของ taxonomy
- เพื่อสะดวกในการศึกษา
เมื่อจัดเป็นหมวดหมู่
ความสับสนก็น้อยลง
- จัดตาม
natural arrangement
ซึ่งแต่ละกลุ่มมีความสัมพันธ์กันทางพันธุศาสตร์
|
|
-
nomenclsture หมายถึงการพิจารณาให้ชื่อสบีซี่
(species) ที่ถูกต้องแก่เชื้อนั้นๆ จัดเป็นส่วนหนึ่งของ
taxonomy
- สปีซี่
หมายถึงหน่วยที่ใช้ เรียกหรือแทนชื่อสิ่งมีชีวิต
แต่ละอย่างที่ค้นพบ การตั้ง สปีซี่ต้องอธิบาย
ลักษณะสิ่งมีชีวิตนั้นโดยละเอียด ชื่อสปีซี่ประกอบ
ด้วย 2 ส่วนคือ generic name และ specific epithet
ซึ่งเรียกว่าระบบ binomial
- binomial
nomenclature เป็นการเรียกชื่อทางวิทยาศาสตร์
(scientific หรือชื่อทาง taxonomy ของสิ่งมีชีวิต
ซึ่ง Linnaeus เป็นผู้ริเริ่มนำระบบนี้มาใช้เป็นครั้งแรก
|
|
|
|
ในทางพฤกษศาสตร์นั้น
การตั้งชื่อพืชต่าง ๆ จะตั้งตาม
International Code of Botanical Nomenclature
ซึ่งชื่อที่ใช้ต้องเป็นภาษาละติน หรือทำให้เป็นภาษาละติน
และต้องมีชื่อผู้ตั้งชื่อหรือผู้ค้นพบตามหลัง
เป็น
author citation จึงจะถือว่าเป็นชื่อที่ถูกต้อง |
|
สำหรับการเรียกชื่อเชื้อรานั้น
แต่เดิมยังไม่มีปัญหาอะไร
เพราะมีพบอยู่เป็นจำนวนน้อย
การตั้งชื่อเชื้อรา เริ่มใช้หลังจาก
ปี ค.ศ. 1753 โดยแบ่งออกเป็นสองระยะคือ
1.
ระยะแรกยึดหลักตามหนังสือ Synopsis Methodica Fungorum
ซึ่งเขียนโดย Persoon พิมพ์เผยแพร่ในปี 1801
ราในขณะนั้นมี 3 กลุ่ม คือ
1.1 Uridinales
- rust
1.2 Ustilayginales
- smut
1.3 Gasteromycetes
- puffball
2. ระยะที่สองนั้นได้แก่พวกราอื่นๆ
ยึดหลักตามหนังสือ
Systema Mycologicum ของ Fries ซึ่งพิมพ์เผยแพร่
ในปี ค.ศ. 1821-1832 หนังสือดังกล่าวนี้ถือได้ว่า เป็น
รากฐานทางการจำแนกหมวดหมู่ที่สำคัญของเชื้อรา
|
|
|
|