<% CurrentDay=Now CurrentDay=DatePart("d", currentday) CurrentWeekday=Weekday(Now) temp=CurrentDay mod 7 FirstWeekday=CurrentWeekday-temp If (FirstWeekday) >= 0 Then FirstWeekday=FirstWeekday+1 Else FirstWeekday=FirstWeekday+8 End If CurrentMonth=Month(Now) CurrentYear=Year(Now) %>

รูปโลโก้การผลิตกระดาษจากธูปฤาษีและผักตบชวา

ค้นหาคำว่า :  
     หน้าแรก   |   ธูปฤาษี   |   ผักตบชวา   |   การผลิตกระดาษ   |   ติดต่อเรา   |   แหล่งข้อมูล
ธูปฤาษี
- ถิ่นกำเนิด
- การสืบพันธุ์
- ผลเสีย
- การป้องกัน,ควบคมและกำจัด
- การนำไปใช้ประโยชน์
ผักตบชวา
- ถิ่นกำเนิด
- ลักษณะทางพฤษศาสตร์
- การสืบพันธุ์
- ผลเสีย
- การป้องกัน
- สาเหตุ, การป้องกันการระบาด
- การกำจัด
- ประโยชน์
- การนำมาใช้ประโยชน์
การผลิตกระดาษ
- กระดาษจากธูปฤาษี
- กระดาษจากผักตบชวา
- การฟอกขาววิธีต่างๆ
- ปัญหาในการทำ
- วัสดุอุปกรณ์

การใช้ประโยชน์

      การที่ผักตบชวาเป็นพืชที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและเกิดขึ้นอย่างเดียวล้วนๆ ทำให้ลู่ทางในการนำไปใช้ประโยชน์มีมาขึ้น เพราะมีปริมาณมาก และเกิดทดแทนส่วนที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างรวดเร็ว การลอยน้ำได้ของผักตบชวา ช่วยให้การเก็บเกี่ยวง่ายขึ้นโดยเฉพาะถ้ามีลม หรือกระแสน้ำ ช่วยพัดพามายังสถานที่ที่ตั้งอุปกรณ์การเก็บเกี่ยว หากเป็นในแม่น้ำลำคลอง การขึงลวดสลิงติดทุนลอยขวางลำน้ำให้เป็นมุมลู่มาทางที่ตั้งเครื่องเก็บเกี่ยว ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวไปได้มาก อีกทั้งยังเป็นการป้องกันมิให้ผักตบชวาลอยต่อไปยังอ่างเก็บน้ำหรือแหล่างอื่น แล้วไปขยายพันธุ์ในที่ซึ่งกว้างขวางยากแก่การกำจัด
เราอาจจะนำผักตบชวามาใช้ประโยชน์ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

 

อาหารสัตว์
ปุ๋ย
เพาะเห็ด
เครื่องถักสาน
ทำก๊าซหุงต้ม
ช่วยแก้น้ำเสีย
ทำแท่งเพาะชำ

     อาหารสัตว์ โดยปกติ ปศุสัตว์หลายชนิดกินผักตบชวาอยู่แล้ว กล่าวคือ วัว ควาย แพะ แกะ หินผักตบชวาที่ขึ้นอยู่ริมฝั่งตามธรรมชาติ ปลาบางชนิดกินผักตบชวาในน้ำ หมูกินผักตบชวาที่ผู้เลี้ยงเก็บมาต้มให้กิน สัตว์เหล่านี้ จะช่วยกำจัดผักตบชวาให้ลดน้อยลงได้ และเรายังได้ประโยชน์จากสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าของสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ไม่ควรปลูกเลี้ยงผักตบชวาในที่สาธารณะ เพราะเป็นการช่วยส่งเสริมการแพร่กระจายของผักตบชวาไปในที่ต่างๆ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายตาม พรบ. สำหรับกำจัดผักตบชวาอีกด้วย ในปัจจุบัน ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มีการนำผักตบชวาไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์โดยการบดเอาน้ำออก อบให้แห้ง แล้วอัดเป็นเม็ดแบบเดียวกับมันสำปะหลังเม็ด ผักตบชวาแห้งมีโปรตีน 11.15% ซึ่งนำว่าสูงพอสมควร
     ปุ๋ย ผักตบชวามาตุโปแตสเซียมอยู่มากเป็นพิเศษ ส่วนธาตุในโตรเจนและฟอสฟอรัส ก็มีพอสมควรและขึ้นอยู่กับสภาพของน้ำที่มันขึ้นอยู่กับสภาพของน้ำที่มันขึ้นอยู่ เราอาจจะนำผักตบชวาไปทำปุ๋ยได้ 32 วิธี คือ
(1) ปล่อยให้แห้ง แล้วเผาเพื่อเก็บขี้เถ้าซึ่งมีโปแตสเซียมอยู่ถึง 20% เอาไปใส่ให้แก่พืชปลูก ซึ่งมีข้อได้เปรียบตรงที่ไม้ต้องขนหนัก แต่ก็ได้เผาอินทรียวัตถุที่พืชต้องการไปหมด
(2) ทำเป็นปุ๋ยหมักโดยกองสลับชั้นกับดิน ปุ๋ยคอก ขยะ ฯลฯ ซึ่งจะเน่าเปื่อยเป็นปุ๋ยหมัก นำไปใช้ได้ภายใน 2 เดือน ระหว่างหมัก ควรกลับกองปุ๋ยหมักทุกๆ 15 วัน โดยเอาส่วนบนลงล่างและส่วนล่างขึ้นบน กลับกองปุ๋ยหมักสัก 2 ครั้ง จากนั้นก็ปล่อยให้ค่อยๆ กลายเป็นปุ๋ยหมักซึ่งจะมีสีดำคล้ำ ปุ๋ยหมักจากผักตบชวา (ผสมดิน) มีองค์ประกอบคือ ไนโตรเจน 2.05% ฟอสฟอรัส 1.1% โปแตสเซียม 2.5% ธาตุทั้งสามอย่างน้ำเป็นอาหารธาตุที่จำเป็นแก่การเจริญเติบโตของพืชทุกชนิดในดิน ป้องกันไม่ให้วัชพืชขึ้น และเมื่อสลายตัว ก็กลายเป็นอินทรียวัตถุและปุ๋ยให้แก่พืชปลูก
(3) ทำวัสดุคลุมดิน โดยกานำผักตบชวาไปคลุมพืชปลูก เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นไว้ในดิน ป้องกันไม่ให้วัชพืชขึ้น และเมื่อสลายตัว ก็กลายเป็นอินทรียวัตถุและปุ๋ยให้แก่พืชปลูก
     เพาะเห็ด ผักตบชวาที่ตากแดดจนแห้งดีแล้ว สามารถนำมาเพาะเห็ดฟางได้ดี วิธีที่เหมาะที่สุดก็คือ ใช้ผักตบชวาแห้ง 1 ส่วน สลับกับฟางข้าว 1 ส่วน ควรใช้ลังไม้เป็นแบบในการกองเห็ด ขนาดของลังประมาณ 30 x 30 x 50 ซม. เพื่อความสะดวกในการยกกองเห็ดออกจากลัง ควรทำลังไม้เป็น 2 ส่วน ไม่มีฝาบนและล่าง แล้วประกอบเข้าด้วยกัน โดยใช้สายยูเกี่ยว วางลังที่ประกอบแล้วลงบนแผ่นไม้ วางผักตบชวาแห้งที่แช่น้ำให้ชุ่มลงในลัง เป็นชั้นสูงประมาณ 10 ซม. แล้วกดให้แน่น โรยเชื้อเห็ดตามริม (ลึกเข้าไปประมาณ 2-3 ซม.) วางฟางข้าวที่แช่น้ำให้ชุ่มเป็นชั้น แบบเดียวกับชั้นผักตบชวา แล้วโรยเชื้อเห็ดด้วยวิธีเดียวกัน วางผักตบชวาและฟางข้าวสลับชั้นเช่นนี้จนกระทั่งถึงปากลัง ด้านบนโรยเชื้อเห็ดทั้งหมด กองหนึ่งใช้เชื้อเห็ดประมาณครึ่งกระป๋อง (กระป๋องละ 3 บาท) จากนั้นก็แกะไม้แบบลังออก ยกกองเห็ดเข้าไปไว้ในที่อับลมและชื้น เช่นใต้ถุนบ้าน เพื่อช่วยให้เห็ดมีความชื้นมากๆ ควรทำที่กำบังลมโดยใช้แผงจาก แฝก หรือแผ่นพลาสติกกั้น รักษาให้ความชื้นอยู่เสมอ จะเกิดดอกเห็ดทั้งด้านข้าสี่ด้านและด้านบนประมาณวันที่ 7 ปริมาณเห็ดที่เกิดบนได้ประมาณกองละ 1 กิโลกรัม ซากผักตบชวาและฟางข้าวที่เก็บเห็ดไปหมดแล้ว ใช้เป็นปุ๋ยหมักหรือวัสดุคลุมดินได้เป็นอย่างดี การกองเห็ดกองขนาดนี้จะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที หากสามารถทำได้ทุกวันๆ ละกองจะมีเห็ดฟางรับประทานวันละ 1 กิโลกรัม ถ้าหากรับประทานไม่หมด ก็สามารถนำไปจำหน่ายได้ในราคาเฉลี่ยประมาณกิโลกรัม 15 บาท โดยลงทุนค่าเชื้อเห็ดเพียง 1.510 บาท หรือได้กำไรถึง 10 เท่า

กระทรวงต่างๆ ที่ควรรู้
- กระทรวงกลาโหม -
www.mod.go.th

- กระทรวงการคลัง -
www.mof.go.th

- กระทรวงการต่างประเทศ -
www.mfa.go.th

- กระทรวงการท่องเทียวและกีฬา -
www.mots.go.th

- กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ -
www.m-society.go.th

- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ -
www.moac.go.th

- กระทรวงคมนาคม -
www.mot.go.th

- กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม -
www.monre.go.th

- กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร -
www.mict.go.th

- กระทรวงพลังงาน -
www.energy.go.th

- กระทรวงพาณิชย์ -
www.moc.go.th

- กระทรวงมหาดไทย -
www.moi.go.th

- กระทรวงยุติธรรม -
www.moj.go.th

- กระทรวงแรงงาน -
www.mol.go.th

- กระทรวงวัฒนธรรม -
www.culture.go.th

- กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี -
www.most.go.th

- กระทรวงศึกษาธิการ -
www.moe.go.th

- กระทรวงสาธารณสุข -
www.moph.go.th

- กระทรวงอุตสาหกรรม -
www.industry.go.th

  หน้าแรก   |   ธูปฤาษี   |   ผักตบชวา   |   การผลิตกระดาษ   |   ติดต่อเรา   |   แหล่งข้อมูล
Copyright 2004. All rights reserved