นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผอ. อพท. กล่าวว่า อพท. เชื่อเสมอว่า “ทำท่องเที่ยว เก่งคนเดียวไม่ได้” เราจึงมุ่งเน้นประสานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนให้มาร่วมกันขับเคลื่อนเดินหน้าการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนในฐานะเจ้าของทรัพยากรของการท่องเที่ยวให้มีศักยภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
การลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ อพท. เพื่อเป็นการปูทางไปสู่การสร้างประโยชน์จากการใช้นวัตกรรมมายกระดับการท่องเที่ยวในระดับชุมชน จนถึงระดับแหล่งท่องเที่ยว ไปสู่ภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาครัฐ ทั้งทางตรงและทางอ้อม นำไปสู่การต่อยอดและพัฒนา เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของชุมชนและแหล่งท่องเที่ยว โดยการนำร่องในระยะแรก อพท. และ NECTEC ได้คัดเลือก 10 ชุมชนนำร่องซึ่งล้วนเป็นชุมชนที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่ทำงานร่วมกับ อพท. จนมีความเข้มแข็ง ซึ่งการทำงานร่วมกับ NECTEC ในครั้งนี้ช่วยส่งเสริมให้ชุมชนได้รับประโยชน์จากการบูรณาการข้อมูลทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมดิจิทัลให้สามารถเชื่อมโยงไปสู่การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ในการสื่อความหมายนำเที่ยวได้ในระยะยาว
ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า สืบเนื่องจากการดำเนินงาน “โครงการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อยกระดับและฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยหลังภาวะโควิด19” ซึ่ง เนคเทค สวทช. ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก แผนงานกลุ่มดิจิทัลแพลตฟอร์ม หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) เพื่อการพัฒนาต่อยอดแพลตฟอร์มต้นแบบที่เนคเทคพัฒนาขึ้นในชื่อว่า “นวนุรักษ์” โดยเน้นไปที่การบูรณาการข้อมูลวัฒนธรรมดิจิทัลให้สามารถเชื่อมโยงและใช้งานในรูปแบบเปิด (linked data and open data) และพัฒนาโมดูลต่างๆ เพื่อขยายแพลตฟอร์มดิจิทัลให้รองรับการนำไปใช้ประโยชน์เพื่อตอบโจทย์บริบทการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นำร่องทดลองกับพื้นที่ในการดูแล และได้รับคำแนะนำจาก อพท. จำนวน 10 พื้นที่ 10 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่
- ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านท่าดินแดง จังหวัดพังงา
- ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน ชุมชนบ่อสวก จังหวัดน่าน
- ชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
- ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทยเบิ้ง บ้านโคกสลุง จังหวัดลพบุรี
- ชุมชนท่องเที่ยวบ้านโคกเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
- ชุมชนเมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
- ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวหนองอ้อ-ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
- หมู่บ้านวัฒนธรรมไทญ้อบ้านโพน จังหวัดนครพนม
- วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านท่าระแนะ จังหวัดตราด
- กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำมูลบ้านสุขสมบูรณ์ จังหวัดนครราชสีมา
เนคเทค สวทช. ได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ เพื่อเข้ามาช่วยเป็นสื่อกลางซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการนำเทคโนโลยีจากหน่วยงานวิจัยและพัฒนาในส่วนกลางอย่าง เนคเทค ไปขยายผลถ่ายทอดสู่ชุมชนซึ่งเป็นผู้ใช้ประโยชน์จริง เนคเทคต้องขอขอบคุณ
1) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต
2) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
3) มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่
4) วิทยาลัยชุมชนน่าน
5) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร
6) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
7) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี
และ 8) มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
เนคเทคมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรมพร้อมใช้และปัญญาประดิษฐ์ ที่ศูนย์ฯ วิจัยและพัฒนาอย่างทุ่มเทตลอดมา ได้เข้าไปมีส่วนช่วยบูรณาการข้อมูลในการพัฒนาและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว และหวังว่าจะได้มีความร่วมมือกันพัฒนางานวิจัยใหม่ ๆ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
รองศาสตราจารย์ ดร. สิรี ชัยเสรี ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กล่าวว่า
บพข. หรือ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ภายใต้การกำกับของ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) มีภารกิจในการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ โดยผลักดันให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้งานวิจัยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและภาคบริการ รวมถึงสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยี การสร้างตลาดนวัตกรรม การส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์
กรอบการให้ทุนเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมดังกล่าว มุ่งเน้นการสนับสนุนแผนงานที่มีความร่วมมือหรือการร่วมลงทุนกับผู้ใช้ประโยชน์ อาทิ SMEs และภาคอุตสาหกรรม แบ่งออกเป็น 7 กลุ่ม หลัก ได้แก่ 1) อาหารมูลค่าสูง 2) สุขภาพและการแพทย์ 3) พลังงาน เคมีและวัสดุชีวภาพ 4) ท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 5) ดิจิทัลแพลตฟอร์ม 6) เศรษฐกิจหมุนเวียน และ 7) ระบบคมนาคมแห่งอนาคต อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ
บพข. ในนามผู้ให้ทุนสนับสนุนทุนในการดำเนิน “โครงการการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อยกระดับและฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยหลังภาวะโควิด19” ภายใต้กลุ่มแผนงานกลุ่มดิจิทัลแพลตฟอร์ม บพข. เล็งเห็นว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันมีการพัฒนา ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว เราต้องตามให้ทัน จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ก้าวไปสู่โลกเมทาเวิร์ส และจะก้าวล้ำหน้าไปอีกมากในอนาคต การพัฒนาแพลตฟอร์มระบบริหารจัดการคลังข้อมูลดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูล เชื่อมโยงข้อมูล แสดงผลข้อมูล และการให้บริการข้อมูล สำหรับต่อยอดการนำข้อมูลจากคลังข้อมูลไปสร้างมูลค่าส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยนำร่องทดลองกับเครือข่ายที่มีความพร้อม และขยายเครือข่ายหน่วยงานให้บริการข้อมูลวัฒนธรรมดิจิทัลผ่านบริการที่พัฒนาขึ้นภายใต้โครงการนี้
บพข. ยินดีที่ได้เห็นถึงความร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งของทั้งสองหน่วยงาน (เนคเทค สวทช. และ อพท.) ที่นำมาสู่การลงนาม MOU ในวันนี้ รวมไปถึงความร่วมมือในการประสานงานวิจัยกับชุมชนท่องเที่ยวทั้ง 10 แห่ง ใน 10 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร่างเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาร่วมกับสถาบันการศึกษาในส่วนภูมิภาคทั้ง 8 แห่ง