วันที่ 27-29 สิงหาคม 2559 ดร.ชัย วุฒิวิวัฒนชัย ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยวิทยาการสารสนเทศ เยี่ยมชมการถ่ายทำสื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการบริหารจัดการน้ำและเยี่ยมโครงการการทำเกษตรกรรมตามแนวคิด “โคก หนอง นา โมเดล” ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติสุรินทร์ บ้านดู่/หนองบอน ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์
ดร.ชัย วุฒิวิวัฒนชัย กล่าวถึงที่มาของการสร้างสื่อการเรียนรู้ภายใต้โครงการ What2Grow ว่า “นอกจาก What2Grow จะเป็นระบบบูรณาการข้อมูลเกี่ยวกับการกำหนดพื้นที่เพาะปลูกแล้ว ยังมีสื่อการเรียนรู้ด้านการเกษตรไว้ให้บริการแก่ผู้ที่สนใจ จากปัญหาภัยแล้งทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบอย่างมาก ซึ่งถือเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศ โครงการ What2Grow จึงเลือกเนื้อหาเกี่ยวกับ การบริหารจัดการที่ดินและน้ำ ด้วย โคก หนอง นา โมเดล มาสร้างสื่อการเรียนรู้โดยเล็งเห็นว่าเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน”
สื่อการเรียนรู้ดังกล่าวจะถูกนำเสนอในรูปแบบสารคดี ยาว 60 นาที แบ่งเป็น 6 ตอน สอดแทรกสาระและความบันเทิงด้วยการให้ชาวบ้านที่ร่วมโครงการ เป็นผู้ถ่ายทอดเนื้อหาจากประสบการณ์จริงอย่างเป็นกันเองและเข้าใจได้ง่าย พร้อมกันนี้ยังมี บอย-พิษณุ นิ่มสกุล และ แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ สองนักแสดงเจ้าของพื้นที่การเกษตรตัวอย่าง ได้สละเวลามาร่วมถ่ายทำสื่อการเรียนรู้ดังกล่าวอีกด้วย
“โคก หนอง นา โมเดล” เป็นแนวคิดที่นำหลัก “เกษตรทฤษฎีใหม่” ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งเป็นแนวทาง ในการบริหารจัดการที่ดินและน้ำ เพื่อการเกษตรในที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ สาเหตุที่เรียกว่า “โคก หนอง นา โมเดล” นั้นเพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจหลักการดังกล่าวง่ายขึ้น โดย “โคก หนอง นา โมเดล” แบ่งพื้นที่เพื่อทำเกษตรกรรมเป็น 4 ส่วน ตามอัตราส่วน 30:30:30:10 ดังนี้
- 30% เป็นแหล่งน้ำ โดยทำการขุดสระน้ำ หนองน้ำ หรือคลองไส้ไก่เพื่อกักเก็บน้ำ
- 30% สำหรับทำนาข้าว
- 30% สำหรับทำโคกปลูกป่าและพืชอื่นๆ ตามแนวคิด ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง คือปลูกไม้ใช้สอย ไม้กินได้ และไม้เศรษฐกิจ เพื่อให้ พอกิน พออยู่ พอใช้ และประโยชน์ต่อระบบนิเวศน์ (ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง)
- 10 % เป็นที่อยู่อาศัย และอื่นๆ เช่น โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ยุ้งฉางเก็บผลผลิต และสิ่งก่อสร้างอื่น
บอย-พิษณุ นิ่มสกุล เผยความรู้สึกที่ได้ร่วมโครงการทำการเกษตรพอเพียงพลิกฟื้นพื้นที่แล้งด้วย โคก หนอง นา โมเดล ว่า “รู้สึกภูมิใจที่ได้ทดแทนคุณแผ่นดินคืนไป เพราะว่าการทำเกษตรกรรมแบบนี้ไม่ใช่วิถีชีวิตของผม ซึ่งปกติแล้วจะเป็นการทำงานที่ต่างจากนี้โดยสิ้นเชิง แต่เมื่อเราได้มีโอกาสมาเรียนรู้ ได้เข้าโครงการตามรอยพ่อของแผ่นดิน ได้เจออาจารย์ยักษ์ ได้เจอพระราชดำรัสของในหลวงและหลักคำสอนของท่านแล้วเรารู้สึกซาบซึ้งและคล้อยตาม รู้สึกถึงผลที่เราจะได้รับกลับมา บางทีปัญหาใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นมันมีทางแก้ไขและมีวิธีแก้ แต่วิธีที่ว่าไม่ได้ทำวันนี้แล้วพรุ่งนี้เห็นผล มันต้องใช้เวลากับความอดทนและทุกคนต้องช่วยกัน คนหนึ่งคนกับปัญหาใหญ่ระดับประเทศแบบนี้ไม่มีทางแก้ได้ แต่ต้องเป็นคนไทยทุกคนที่ช่วยกันเพราะเป็นผืนแผ่นดินไทย” และยังกล่าวเสริมว่า “เราใช้ความเป็นนักแสดงซึ่งเป็นคนที่ทุกคนรู้จักเป็นกระบอกเสียงบอกต่อ นี่เป็นสิ่งที่เราทำได้ พื้นที่ตรงนี้เป็นจุดที่เริ่มต้นจากเราแล้วต่อยอดด้วยชาวบ้านในท้องที่ ให้เค้าได้มีโอกาสมาพัฒนาที่ของตัวเอง เรานำพื้นที่ของตัวเองให้ชาวบ้านแถวนี้ได้เรียนรู้ แล้วเค้าก็ได้นำไปทำต่อแค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว เหมือนเราได้แทนคุณแผ่นดินคืนบ้างแล้ว”
นอกจากจะได้สัมผัสอีกด้านของ บอย-พิษณุ นิ่มสกุล แล้วยังมี แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ ร่วมสมทบในสารคดีดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวดีใจที่ได้โอกาสมาเยี่ยมที่นี่อีกครั้ง เผยว่าพื้นที่แห่งนี้มีแหล่งน้ำไว้ใช้ตลอดไม่เคยแล้ง ทั้งนาข้าว พืชสวนผสมและ ต้นไม้ที่ปลูกไว้อย่าง มะฮอกกานี ยางนา และสะเดา เติบโตขึ้นมากจากเมื่อครั้งก่อน รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ทำประโยชน์ให้ชาวบ้านได้เห็นความสำคัญของสิ่งที่ตัวเองมี และอยากปรับที่ดินของตนเองให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
โอกาสนี้ ดร.ชัย วุฒิวิวัฒนชัย ได้ถวายของที่ระลึกแด่พระอาจารย์สังคม ธนปัญโญ ผู้มีบทบาทในการพัฒนาเกษตรกรรมในท้องที่ด้วย โคก หนอง นา โมเดล ภายใต้การดูแลของศูนย์กสิกรรมธรรมชาติสุรินทร์ และได้พูดคุยกับศิลปินพร้อมมอบของที่ระลึกเพื่อเป็นการขอบคุณที่สละเวลา มาถ่ายทำสารคดีร่วมกับชาวบ้าน ถึง อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์
สามารถติดตามชมสื่อการเรียนรู้เรื่อง “การบริหารจัดการน้ำด้วย โคก หนอง นา โมเดล” ทาง https://www.what2grow.in.th หรือ https://www.facebook.com/what2grow เร็วๆ นี้