|
กลไกการเปล่งแสงของหิ่งห้อย |
อวัยวะที่ทำให้เกิดแสงของหิ่งห้อย
อยู่ด้านใต้ของปล้องท้อง สองปล้องสุดท้ายในตัวผู้ และ สามปล้องสุดท้ายในตัวเมีย
ภายในปล้องมีเชลล์ขนาดใหญ่เรียกว่า โฟโตไรด์ ( photocytes ) อยู่จำนวน 7000-8000
เชลล์เรียงกันอยู่เป็นกลุ่มรูปทรงกระบอก หลายกลุ่มภายใต้ผนังลำไส้ใส เซลล์โฟโตไซต์จะเป็นที่ทำให้เกิดแสง
มีท่ออากาศและเส้นประสาท เข้าไปหล่อเลี้ยงจำนวนมาก ถัดเข้าไป ภายในเป็นชั้นของผลึกพวกสาร
ยูเรต ขนาดเล็กละเอียด ทำหน้าที่เป็นตัวสะท้อนแสง การให้กำเนิดแสงเป็นผลจากปฏิกิริยาชีวเคมีภายในเชลล์
มีการผลิตแสง โดยการไม่ใช้พลังงานความร้อน ภายใต้การควบคุมงานของ สารที่เรียกว่า
เอ็นไซม์ มีผลสำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสารในเชลล์ และการหมุนเวียนพลังงาน
เอ็นไซม์ที่เกี่ยวข้องคือ ลูซิเฟอรัส จะทำปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงสาร ลูซิเฟอริน
ปฏิกิริยานี้เป็นปฏิกิริยา ที่ต้องการแก๊ซออกซิเจน ไปทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบปฏิกิริยาการเผาไหม้ภายในเชลล์
อวัยวะที่ทำให้เกิดแสงของหิ่งห้อย อยู่ด้านใต้ของปล้องท้องสองปล้องสุดท้ายในตัวผู้
และ สามปล้องสุดท้ายในตัวเมีย ภายในปล้องมีเชลล์ขนาดใหญ่เรียกว่า โฟโตไรด์
( photocytes ) อยู่จำนวน 7000-8000 เชลล์เรียงกันอยู่เป็นกลุ่มรูปทรงกระบอกหลายกลุ่มภายใต้ผนังลำไส้ใส
เซลล์โฟโตไซต์จะเป็นที่ทำให้เกิดแสง มีท่ออากาศและเส้นประสาท เข้าไปหล่อเลี้ยงจำนวนมาก
ถัดเข้าไปภายในเป็นชั้นของผลึกพวกสาร ยูเรต ขนาดเล็กละเอียด ทำหน้าที่เป็นตัวสะท้อนแสง
การให้กำเนิดแสงเป็นผลจากปฏิกิริยาชีวเคมีภายในเชลล์ มีการผลิตแสงโดยการไม่ใช้พลังงานความร้อน
ภายใต้การควบคุมงานของ สารที่เรียกว่าเอ็นไซม์ มีผลสำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสารในเชลล์
และการหมุนเวียนพลังงาน เอ็นไซม์ที่เกี่ยวข้องคือ ลูซิเฟอรัส จะทำปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงสาร
ลูซิเฟอริน ปฏิกิริยานี้เป็นปฏิกิริยาที่ต้องการแก๊ซออกซิเจน ไปทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบปฏิกิริยาการเผาไหม้ภายในเชลล์
|
|
|