เรื่อง กลองเส็ง
          ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีภิกษุ ๒ รูป เดินทางไปเฝ้าพระพุทธองค์ แต่ทางที่เดินไปนั้นต้องผ่านถ้ำของยักษ์ ๒ ตน ซึ่งเป็นพ่อลูกกัน ยักษ์ที่เป็นพ่อมีนิสัยดุร้ายชอบกินเนื้อคนเป็นอาหาร ส่วนยักษ์ลูกสาวเป็นยักษ์ที่มีนิสัยสุภาพเรียบร้อย มีจิตใจเมตตากรุณา เมื่อเห็นพระภิกษุเดินทางมา ยักษ์ผู้เป็นลูกสาวจึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา และนิมนต์ให้แวะพักเพื่อฉันอาหาร แต่มีข้อแม้ว่าจะไม่เดินไปหลังถ้ำเป็นอันขาด แล้วนางยักษ์จึงลงมือปรุงอาหารถวายพระสงฆ์ บังเอิญเหลือเกินที่ภิกษุรูปหนึ่งเดินเข้าไปหลังถ้ำ พระรูปนั้นได้พูดขึ้นว่า "เอ!…หลังถ้ำนี้มีอะไรนะ ขอเข้าไปดูหน่อย" และภิกษุรูปนั้นก็กลายเป็นอาหารของยักษ์ไป เรื่องนี้รู้ถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์จึงหาทางปราบยักษ์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงปาฏิหาริย์ ให้ศรไปปักตรึงอกของยักษ์ตนนั้น พระพุทธเจ้าตรัสว่า ตราบใดที่ศาสนาพุทธยังคงสถิตอยู่ในโลกนี้ ยักษ์ตนนั้นต้องตกอยู่ในสภาพนี้ไปนาน ๕,๐๐๐ ปี ยักษ์ถามว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าพระพุทธศาสนายังคงสถิตอยู่ พระพุทธเจ้าตรัสว่า
จะบอกให้รู้โดยจะตีกลองเส็ง พระพุทธเจ้าจึงชวนพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย สร้างกลองขึ้นมาใช้สำหรับตี เพื่อให้ยักษ์ได้ยิน เรียกกันว่า "กลองเส็ง" เมื่อมีประเพณีตีกลองเส็ง เจ้ายักษ์ก็จะคิดว่ายังไม่ครบ ๕,๐๐๐ ปี ต้องให้ศรปักอกไม่ออกมากินคนต่อไป ในปัจจุบันคนจึงไม่เห็นยักษ์ และชาวบ้านก็จะมีประเพณีกลองเส็งทุกปี ยักษ์ก็รู้ว่าสัญญาณยังไม่ครบตลอดไป

แหล่งที่มา : นางประภาศรี อ่อนตา





-------------------------------------------------------------------------
หน้าหลัก
| กลองเส็งสัญญาณรวมพลัง | ภูมิหลัง | การเส็งกลอง |
ขั้นตอนการทำกลองเส็ง | กลองเส็งกับการปรับเปลี่ยนทางสังคม |
กลองเส็งกับภูมิปัญญาชาวบ้าน | ความเชื่อเกี่ยวกับกลอง |
การเก็บรักษากลองเส็ง
| ประเพณีการเส็งกลอง | นิทานที่เกี่ยวข้อง |
โฉลกกลอง
| การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม | นิยามศัพท์เฉพาะ | แหล่งข้อมูล |
-------------------------------------------------------------------------