- ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
…เป็นคำคมที่เราต่างได้ยินกันมานานจนมันเริ่มจะไม่คม แต่สำหรับ ฤทธิ์ ลาวพนม หนุ่มไฟแรงผู้ก่อตั้งบริษัท ซอฟต์ชั่น จำกัด เราเห็นว่าไม่มีคำคมไหนจะบ่งบอกคุณสมบัติความเป็นเขาได้ตรงไปมากกว่าคำคมข้างต้นอีกแล้ว อยากให้ลองอ่านบทสัมภาษณ์ของเขา แล้วจะพบว่าไม่ใช่แค่คำนะที่คม แต่ความคิดและเป้าหมายชีวิตของเขาก็ชัดเจนและคมกริบเช่นเดียวกัน
ชอบแล้วต้องไปให้สุด!
จุดเริ่มต้นของผมก็น่าจะเหมือนเด็กหลายๆ คนที่มาจากวงการเกมคือติดเกมมาก่อน ผมเล่นเกมหนักมาก ด้วยความที่เล่นเกมมากทำให้เราสนใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมันก็เชื่อมโยงมาถึงว่าถ้าจบ ม.ปลายแล้วต้องเรียนคอมพิวเตอร์และตั้งใจจะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผมไล่สอบมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สอบติดประมาณ 11 แห่งแต่ไม่ได้ ม.ขอนแก่น (หัวเราะ) รอบแอดมิชชันก็ไม่ได้ มาได้ตอนรอบที่เปิดโครงการพิเศษของคณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งค่าเทอมค่อนข้างแพง แต่ด้วยความชอบและตั้งใจจะเข้าที่นี่ให้ได้ก็ทำได้ในที่สุด
ดอกผลของความพยายาม
แรกเริ่มผมเขียนโปรแกรมไม่เป็นเลย พอเข้ามาเรียนมีทั้งเพื่อนและอาจารย์ช่วยสอน พอเริ่มทำเป็นก็ช่วยเพื่อนทำโปรเจกต์เพื่อพัฒนาฝีมือ จนเริ่มทำโปรเจกต์จบการศึกษาตั้งแต่ขึ้นปี 4 พออาจารย์เห็นว่าน่าจะเอาไปแข่งขันได้เราก็เตรียมข้อมูล เตรียมโปรแกรม ทำโปสเตอร์ แล้วลองส่งเข้าแข่งขัน เป็นผลงานเกี่ยวกับวิดีโอออนดีมานด์ (Video on Demand) เชื่อมโยงสไลด์ Power Point ที่ต้องเล่นคู่กัน ตอนนั้นได้โจทย์จากท่านอาจารย์ เนื่องจากเราหัดเขียนโปรแกรมด้านเว็บแอปพลิเคชันมา อาจารย์บอกว่าลองเทียบกับวิดีโอดู ก็ค่อนข้างเครียด เพราะเราไม่ได้เก่งเรื่องอื่นนอกจากเขียนเว็บฯ พอมาประยุกต์ใช้กับวิดีโอออนดีมานด์เราเริ่มไม่ไหวแต่ก็พยายาม ในที่สุดผลงานออกมาค่อนข้างดี ตอนนั้นน่าจะผ่านแค่รอบคัดเลือก ด้วยความที่เป็นโปรแกรมเมอร์ทำ หน้าตาก็ไม่ได้ดูดีมาก เน้นใช้งานได้ แต่ได้อะไรเยอะจากการแข่งขันครั้งนั้น ทั้งเรื่องเอกสาร การเขียนโค้ดที่กรรมการให้ความเห็นกลับมา และนำมาปรับกับโปรเจกต์ที่ใช้สอบจบ ซึ่งผลที่ได้ก็คือสอบรอบเดียวผ่านเลย
จากบัณทิต…สู่เถ้าแก่น้อย
คุณค่าที่ได้รับคือเราได้มีแรงกระตุ้นกับอุตสาหกรรมไอที เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นจุดหนึ่งที่ทำให้ผมเลือกตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ เพราะเราเห็นผลงานของหลายทีมที่เข้าแข่งขันมันสามารถทำอะไรได้อีกเยอะ อีกอย่างด้วยตัวเราเองมีภาวะผู้นำค่อนข้างสูง ค่อนข้างเชื่อมั่นในตัวเอง จบมาก็ตั้งใจว่าจะไม่เป็นลูกน้องใคร ซึ่งตอนเรียนจบผมก็เรียนต่อปริญญาโททันที และได้เข้าไปปรึกษาอาจารย์ท่านหนึ่งว่าอยากเปิดบริษัทต้องทำอย่างไร อาจารย์แนะนำให้เข้าไปที่อีสานซอฟต์แวร์ปาร์คที่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ ได้เข้าโครงการเถ้าแก่น้อยที่เป็นเหมือนโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ ชนะได้เงินทุนหนึ่งแสนบาทมาตั้งบริษัท ซอฟต์ชั่น จำกัด เมื่อปี 2556 ครับ บริษัทเราทำทุกอย่างที่เป็นไอที แต่หัวใจหลักจะทำระบบเว็บเซอร์วิสเป็นส่วนใหญ่
เป็นป๋าที่ให้โอกาสเด็ก
ในการรับพนักงานของบริษัทผมจะไม่ประกาศรับสมัคร แต่จะบ่มเพาะจากนักศึกษาที่เราเลือกแล้ว หรือพนักงานแนะนำมา ผมมองว่าในเมื่อบริษัทเราเก่งด้านนี้ เราควรบ่มเพาะน้องๆ เอง ตอนนี้บริษัทผมกำลังสร้างตึกใหม่ ตรงนั้นจะเป็น co-working space มีออฟฟิศเล็กๆ สำหรับน้องๆ ที่อยากทำสตาร์ทอัพและเราบ่มเพาะอยู่ภายใต้บริษัท โดยจะมีการให้ทุนสนับสนุนต่างๆ เราเอาโมเดลมาจากซิลิคอนวัลเล่ย์ ถ้าเด็กเรียนรู้ได้เร็วแค่ไหนจะยิ่งมีโอกาสพัฒนาให้เขาสามารถจบออกมาแล้วทำงานได้เลยมากเท่านั้น เพราะสิ่งที่เรียนในห้องเรียนกับสิ่งที่เราทำงานส่งลูกค้ามันคนละเรื่องกันเลย ไหนต้องทำงานร่วมกับทีม ไหนต้องมาอยู่กับวัฒนธรรมของแต่ละบริษัทอีก มันต้องเรียนรู้ให้ได้เร็วที่สุด
อยากไปสู่แสงสว่าง…อย่าลืมศึกษาด้านมืด
ในการทำธุรกิจอยากให้น้องๆ ศึกษาจากตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง แน่นอนว่าทุกคนต้องบอกสิ่งที่ดี แต่การทำสตาร์ทอัพมีด้านที่ไม่ได้สวยงามค่อนข้างเยอะ แม้ตัวเราจะจบคอมพิวเตอร์ เขียนโปรแกรมเก่ง แต่ไม่ใช่ว่าเราจะบริหารเก่ง ทำให้หลายคนที่ผ่านจุดล้มเหลวมาพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อ ซึ่งทางลัดสำคัญที่จะทำให้เราประกอบธุรกิจสำเร็จได้คือการศึกษาจากผู้ประกอบการที่ผ่านจุดนั้นมาแล้ว อยากให้ลองศึกษามุมที่ไม่ดีของสตาร์ทอัพด้วย แน่นอนว่าใจเรามี ไฟมา แต่ถ้าเจอปัญหาเราจะสู้ต่อไหม ตอนเลือกเส้นทางเราเลือกถูกแล้วหรือยัง เพราะบางคนมองว่าทำสตาร์ทอัพโคตรเท่ แต่จริงๆ มันเป็นเส้นทางที่มีมีดวางอยู่ทุกกิโลเมตรที่เราจะเหยียบเข้าไป
เคลื่อนวงการด้วยการดันเด็ก
ปัจจุบันผมเป็นกรรมการของ NSC มา 3 ปีแล้ว เราจะไปสอดส่องเด็กตามบูธที่มาแข่งรอบสองรอบสาม คนไหนที่ถูกตาต้องใจเราจะชวนมาร่วมงาน แม้ตอนนี้ยังไม่มีเด็กจาก NSC มาโดยตรง จะมีแค่อาจารย์แนะนำรุ่นน้องเข้ามา เราก็พยายามปั้นและผลักดันให้เขาตั้งบริษัทเข้าสู่สตาร์ทอัพให้ได้ ซึ่งจะมีการแบ่งคลาสเด็ก โดยเริ่มแรกต้องเทรนวิชาโปรแกรมมิ่งให้เก่ง สามารถทำงานได้ พอเก่งแล้วระดับต่อไปต้องคิดสร้างสรรค์ คิดนวัตกรรม คิดโปรเจกต์ต่างๆ ทดลองศึกษาค้นคว้า เป็นการ Research & Development พอพัฒนาอะไรเจ๋งๆ ได้แล้วก็ข้ามขั้นไปเรียนรู้เรื่องการบริหาร วางแผนการจัดการ เด็กในทีมที่อยู่ระดับที่หนึ่งก็ได้ฝึกบริหารไปในตัว ถ้าไม่มั่นใจในการบริหาร เราก็จะเข้าไปถือหุ้นและบริหารช่วย แต่ถ้าพร้อมแล้วเราก็จะปล่อยให้เขาไปสู้กับโลกข้างนอก เราจะสอนให้เขามองอนาคต เพราะเขาอยู่กับเราก็จริงแต่อย่างไรเขาก็ต้องออกไปตามความฝันของชีวิต หน้าที่เราคือดูแลและสร้างเป้าหมายให้เด็ก
บ่มเพาะให้รู้ ก่อนสู้เวทีใหญ่
ในส่วนของ NSC สิ่งแรกต้องขอชมเชยก่อนว่า NSC เป็นเวทีที่ให้น้องๆ ได้แสดงฝีมือ ได้รับความเห็นจริง ได้รับความกดดันจากสภาพแวดล้อมจริงก่อนไปแข่งเวทีใหญ่ๆ แต่ผมอยากให้มีโมเดลที่เกิดขึ้นก่อนหน้าคือการบ่มเพาะ เพราะสังเกตหลายๆ ปีเวลาแข่งขันค่อนข้างบีบ ในแต่ละช่วงบางครั้งการเขียนโปรแกรมไม่น่าทำจนจบได้ มันอาจจะโทษที่ตัว NSC ไม่ได้ แต่อาจมาจากความพร้อมของเด็กด้วย เวลาเขาส่งโครงการมันเป็นแค่ร่างไอเดีย พอโครงการผ่านเหลือเวลาแค่นั้นก็ทำไม่ทัน จึงควรเตรียมสกรีนมาก่อน ให้เด็กโชว์ของก่อนคัดเลือกด้วยเอกสาร จนมาสู่รอบที่เป็นการนำเสนอจริง ถ้ามีการบ่มเพาะเด็กก่อนน่าจะช่วยได้
พื้นที่ต่าง…สตาร์ทอัพย่อมต่าง
เด็ก NSC ที่ส่งผลงานมาแข่งขัน ใจเขาต้องถึงในระดับหนึ่ง นั่นแปลว่าเด็กพวกนี้น่าจะมีประสิทธิภาพพอ แต่ความรู้อาจจะไม่เยอะพอ อยากให้เน้นเรื่องการบ่มเพาะ พอรวมเด็กได้แล้วเรามาบ่มเพาะ มาสร้างความรู้ ทั้งเรื่องการทำการตลาด การพัฒนาโปรแกรม การวางแผนต่างๆ จะทำให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน อาจเกิดบริษัทใหม่ๆ ในตอนนั้นเลยก็ได้ แต่การจะเดินให้ดีเราต้องเข้าใจวัฒนธรรมของแต่ละที่ก่อน เราจะทำสตาร์ทอัพเหมือนต่างประเทศหรือกรุงเทพฯ ไม่ได้เพราะคนกรุงเทพฯ เขาพร้อม ซึ่งการทำสตาร์ทอัพของต้องพร้อมแล้ว คุณมาหาโอกาสที่จะขายหรือขยายตลาด มาหาเวทีที่จะแสดงของ ผมว่าแบบนี้น่าจะเกิดประสิทธิภาพสูง ถ้าคนในพื้นที่บริหารคนในพื้นที่เองมันจะมีกลิ่นอายและความโดดเด่นของที่นั่นออกมา
ภาษาคือหัวใจของการค้นคว้า
ทักษะสำคัญสำหรับเด็กไอทียุคนี้คือการใช้ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับโปรแกรมมิ่งโดยตรง ซึ่งเด็กทุกวันนี้ยังค้นคว้าไม่ค่อยชำนาญ หลายคนติดการค้นหาเป็นภาษาไทย ทำให้สิ่งที่ได้จะไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้ารู้จักใช้คำค้นหาภาษาอังกฤษเราจะเจอทางเลือกมากมาย ซึ่งวงการพัฒนาโปรแกรมค่อนข้างขยับไปไกล ปัจจุบันมี Social Community ต่างๆ ที่สามารถศึกษาได้
โอกาสเปิดกว้างสำหรับคนปรับตัวเร็ว
จุดหนึ่งเด็กๆ มักมองว่าสิ่งที่เรียนในห้องเรียนสามารถเอามาทำงานได้จริง หรือมองว่าตัวเองเก่งแล้ว แต่การทำงานจริงมีปัจจัยอื่นอีกมาก อย่างเช่น การทำงานเป็นทีม แม้เด็กทุกคนจะผ่านการทำงานเป็นทีม มีคู่โปรเจกต์ แต่แทบจะ 90% คนหนึ่งเขียนโปรแกรม คนหนึ่งทำเอกสาร นั่นหมายถึงคุณทำคนเดียวอยู่ดี แต่ในการทำงานจริงชิ้นงานมันใหญ่ขึ้น มีโปรแกรมที่ต้องดูแลต่อ หากคนนี้ไม่อยู่คนนั้นต้องแทนได้ คนนี้คิดอย่างนี้คนนั้นคิดอย่างนี้มันต้องเอามาผสมผสานกันได้ แต่เด็กวันนี้ค่อนข้างมั่นใจตัวเองมาก ถ้าลองเปิดมุมมองใหม่ๆ มากขึ้นจะเป็นโอกาสที่ดี เรียนรู้เครื่องมือใหม่ๆ ที่หลายบริษัทใช้กัน ซึ่งคนที่ปรับตัวไม่ทันจะช้ากว่าคนอื่น ถ้าคนไหนปรับตัวได้เร็ว แน่นอนว่าจะมีโอกาสมากกว่าคนอื่น
ยอมแพ้ได้ไง…ยังไปไม่ถึงฝัน
ผมมายืนจุดนี้ได้ด้วยคติที่ว่า ถ้าพ่อแม่ไม่สบายผมก็ต้องสู้ต่อ ตอนนี้ผมทำตรงนั้นได้เรียบร้อยแล้ว ต่อไปอนาคตทำอย่างไรจะสบายกว่านี้ ผมมองว่าความอดทน ขยัน ไม่ท้อถอย จะช่วยได้เยอะ เพราะตัวผมเองไม่ใช่ไม่เคยล้ม แต่ด้วยนิสัยไม่ยอมแพ้ เราแพ้ไม่ได้ พ่อแม่เรายังไม่สบายทำให้เราต้องสู้ต่อจนมาถึงตอนนี้ ภาระที่เราแบกไม่ใช่เฉพาะของเราแต่เป็นของเด็กที่เราทำงานด้วย ซึ่งทุกอย่างมาจากความมุ่งมั่น อุตสาหะ ไม่ยอมแพ้ นอกจากนี้ เราต้องศึกษาพฤติกรรมของเด็กด้วย อย่างที่บอกเราไม่ได้ชำนาญการบริหาร เราเจ๋งในการเขียนโปรแกรม แต่ไม่เจ๋งในการบริหารคน เป็นสิ่งที่ยังต้องเพิ่มเติม
ถอยเพื่อสู้ต่อ…ไม่ใช่ถอยเพื่อยอมแพ้
งานที่ทำถ้าเราเชื่อว่ามันเจ๋งมันดีแล้ว ให้ทำไปให้สุดทาง แต่อย่าฝืนเกินตัว ถ้าถึงจุดที่เรารับแรงกดดันไม่ไหวให้ถอย น้องหลายคนโดนคอมเมนท์ นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เราถอย แต่เป็นสิ่งที่เราต้องไปศึกษาค้นคว้าต่อว่าเราต้องแก้ปัญหาอย่างไร เราจะสร้างจุดแข็งด้วยอะไร พอไปถึงจุดที่ไม่สามารถทำต่อได้ ลองถอยออกมานั่งดูโปรเจกต์เราดีๆ ว่า ถ้าเราเป็นลูกค้าจะซื้อมันอยู่ไหม ไม่อยากให้ทุกคนวางมันลง ถ้าเชื่อมั่นในงานตัวเอง ทำให้สุด ไปให้สุด เพราะอะไรที่มันสุดมักจะเจ๋งเสมอ
นิยามตัวเอง ณ วันนี้
ทุกวันนี้ผมได้ฉายาว่าเทพธอว์ แต่เป็นเทพธอว์ที่ไม่มีค้อน เพราะด้วยพละกำลังที่มี ความอดทนที่มี ความสุขุมที่มี มันเหมือนลักษณะของธอว์ ส่วนภรรยาผมเป็นค้อนธอว์ที่เป็นอาวุธในการฟันฝ่าต่อสู้ เรามีพละกำลังเป็นตัวเดินหมาก เด็กๆ คือสมาชิกต่างๆ ที่อยู่ในเอเวนเจอร์ที่ช่วยกันครับ…
ความคมของหนุ่มฤทธิ์อาจไม่ได้อยู่ที่การหล่นวลีแบบใบมีดกรีดน้ำผึ้ง หากแต่อยู่ที่ความชัดเจนในตัวเองมาตั้งแต่วัยเด็ก ตั้งแต่ความชอบ การมีเป้าหมายในชีวิต และพร้อมที่จะบุกตะลุยฝ่าทุกอุปสรรคเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้นอย่างมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ เป็นความคมในการใช้ชีวิต…ที่ทำให้เขาสามารถก้าวมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ในวันนี้
ข้อมูลการศึกษา
- 2555 ปริญญาตรี สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- 2560 ปริญญาโท สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
การเข้าร่วมเวทีการประกวด/แข่งขัน ของเนคเทค/สวทช.
- เข้าร่วมการแข่งขัน “การพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย: NSC” ตั้งแต่ปี 2011
ความสำเร็จ (ผลงานที่สร้างชื่อเสียง/รางวัลที่ได้รับ)
- 2557
- LED X+ : โปรแกรมบริหารจัดการและแสดงผลจอ LED (ท่าอากาศยานไทย ทุกสนามบิน)
- Nokia business partners
- Microsoft business partners
- 2558
- 9 Entertain : Mobile Application สำหรับช่อง 9 Entertain บน Windows Mobile
- DekDee : Mobile Application สำหรับนิยายเด็กดี บน Windows Mobile
- 2559
- Web Filtering : ระบบคัดกรองเว็บไซต์ (CAT และ TOT)
- Ar-bro Cloud : บริการระบบคลาว
- 2560
- ERP : ระบบบริหารจัดการองค์กร บริษัท เคซีเมทอลชีท จำกัด มหาชน
- ERPs : ระบบบริหารจัดการโรงงานผลิตแก๊ส บริษัท วีไอจี ประเทศลาว
- POSs : ระบบขายสินค้าหน้าร้าน
- HRMm : ระบบบริหารจัดการบุคลากร ตำรวจภาค 4
- HRMs : ระบบบริหารจัดการบุคลากร องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไผ่
- DMS : ระบบบริหารจัดการงานเอกสาร คณะวิทยาการจัดการ
- TMS : ระบบบริหารจัดการตั๋วรถตู้
ปัจจุบัน
- กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซอฟต์ชั่น จำกัด
ความเชี่ยวชาญ
- การพัฒนาและออกแบบระบบ Web application, Mobile application, Windows application
- การออกแบบและใช้งานฐานข้อมูล (MySQL SQL Sever, PostgreSql, Oracle, No SQL)
- การออกแบบระบบเครือข่าย, โครงสร้างระบบเครือข่าย, ความปลอดภัยของระบบเครือข่ายและระบบเครือข่ายที่รองรับการใช้งานเป็นจำนวนมาก
- การพัฒนาและใช้งานระบบคลาว (Cloud computing)
- การใช้งานระบบปฎิบัติการ Unix, Windows และ Windows server
- การพัฒนาโปรแกรมด้วยภาษา C#, Python, PHP, HTML, CSS, JavaScript, SQL, JAVA, Objective C, Swift, XML, JSON