แนะนำรุ่นพี่ NSC : นายสุรศักดิ์ วาจี (NSC2014)

Facebook
Twitter
บทสัมภาษณ์ | เดือนพฤษภาคม 2561
เรื่อง | มณฑลี เนื้อทอง, กิติคุณ คัมภิรานนท์
ภาพ | ปิ่นพงศ์ เนียมมะณี

 

การจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ ขั้นแรกคือเราต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง…นั่นคือสิ่งที่ ‘หนุ่ม’ สุรศักดิ์ วาจี โปรแกรมเมอร์หนุ่มไฟแรง เจ้าของบริษัท Make Well Tech Solution Co., Ltd. ยืนยันหนักแน่นจากประสบการณ์ในชีวิต เพราะเมื่อเราซื่อสัตย์กับตัวตน และเลือกเดินไปในเส้นทางที่เป็นเรา เราย่อมมีต้นทุนสำคัญนั่นคือความรักที่จะลงมือทำ และเป็นความรักนี้เองที่จะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จได้ ถ้าไม่เชื่อ…ลองหาคำตอบจากคำสัมภาษณ์ของหนุ่มไฟแรงคนนี้ …

แนะนำรุ่นพี่ NSC

 

เมื่อเด็กติดคอมฯ จะไปเรียนบริหาร

ตอนมัธยมผมชอบอยู่กับคอมพิวเตอร์มาก ถ้าไม่ได้ออกไปไหนวันๆ จะมีแต่คอมพิวเตอร์อย่างเดียว ช่วง ม.6 ผมพยายามสอบตรงเข้าคณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ แต่สอบไม่ติด เลยคิดว่าตัวเองอาจจะไม่ใช่ทางนี้ เป็นเพราะผมไม่เก่งคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษด้วย พอแอดมิชชั่นผมเลยเลือกอันดับหนึ่งเป็นวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่วนอันดับสอง สาม สี่ เป็นบริหารธุรกิจทั้งหมด แต่ดันติดคณะบริหารธุรกิจที่เลือกไว้อันดับสอง ที่มหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งครับ

กลับสู่สิ่งที่ชอบ แล้วชีวิตจะใช่!

พอเรียนบริหารธุรกิจมาได้ครึ่งเทอม รู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ตัวเอง เราเคยอยู่กับคอมพิวเตอร์ แล้ววันหนึ่งไม่มีคอมฯ คิดว่าถ้าอยู่ที่นั่นนานๆ เราอาจจะลืมสิ่งที่เคยทำได้มาก่อน ซึ่งตอนมัธยมฯ ผมเคยเขียนเว็บไซต์ด้วย กลัวว่าตรงนี้จะหายไป ก็เลยตัดสินใจกลับมาเรียนด้านคอมพิวเตอร์ดีกว่า จำได้ว่าเป็นช่วงน้ำท่วมกรุงเทพฯ พอดี พอได้กลับมาอยู่กรุงเทพฯ รู้สึกว่าไม่อยากกลับไปเรียนบริหารฯ แล้ว แม้ยังหาตัวเองไม่เจอว่าอยากจะเรียนอะไรกันแน่ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แต่ก็ตัดสินใจเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ตอนแรกคิดว่าจะเรียนบริหารคอมพิวเตอร์ดีไหม โชคดีอาจารย์ที่นั่นให้คำแนะนำว่าควรจะไปทางวิทยาการคอมพิวเตอร์มากกว่า สุดท้ายผมตัดสินใจเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ครับ

แนะนำรุ่นพี่ NSC

 

ถ้าผลงานตอบโจทย์ ก็ไปได้ไกล!

ตอนปี 3 มีอาจารย์ชวนไปแข่งขัน NSC ตอนนั้นทำโปรเจกต์เกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กออทิสติกครับ โดยพัฒนาผลงานที่ให้เด็กออทิสติกได้เรียนรู้ผ่านแอปพลิเคชัน และได้เอาไปใช้จริงที่โรงเรียนสอนเด็กออทิสติกด้วย ตอนนั้นได้เข้ารอบแต่ไม่ใช่รอบลึกๆ ครับ

หลังจากนั้นแข่งขันอีกครั้งตอนปี 4 แต่เปลี่ยนหัวข้อโปรเจกต์ไปหมวดโปรแกรมเพื่อช่วยคนพิการและผู้สูงอายุแทน โดยเน้นที่ผู้สูงอายุเพราะเล็งเห็นว่าในอนาคตประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เลยอยากเอาเทคโนโลยีมาช่วยผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยเจาะไปที่ผู้สูงอายุที่เป็นอัลไซเมอร์ซึ่งมักหลงทาง แล้วพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันติดตามตัว ตอนนั้นได้รางวัลที่ 1 มาครับ

แนะนำรุ่นพี่ NSC

 

เรียนรู้จากการแข่งขัน รางวัลคือบทพิสูจน์ “ฝีมือ”

ผมรู้สึกดีใจและไม่ผิดหวังเลยที่ได้แข่งขัน NSC เพราะได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างขณะที่ทำโปรเจกต์ครับ รวมทั้งมีเพื่อนที่ดี มีคนรอบข้างที่ดี มีทีมที่ดี และมีอาจารย์ที่ดีคอยผลักดัน ผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่ร่วมทำโปรเจกต์และแข่งขันด้วยกันกับผมทั้งสองปี ซึ่งเราแบ่งงานกันทำอย่างลงตัว ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน จนโปรเจกต์ประสบความสำเร็จได้รางวัลที่ 1 มา ซึ่งนอกจากรางวัลแล้ว มันมีคุณค่าในตัวเอง คือ สามารถการันตีตัวเราเองว่าเราทำได้ จากสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้จนสุดท้ายเราก็ทำมันได้ครับ ไม่ใช่แค่แข่งขัน NSC เท่านั้น แต่มีหลายโครงการที่เราเข้าร่วม เช่น โครงการ SIC (The selection of Thailand representative present at Student Innovation Challenge World 2015) ที่เอาโปรเจกต์ที่ชนะไปโชว์ที่สิงคโปร์ด้วยครับ

โฟกัสชีวิตจากโลกการทำงาน

ผมเรียนด้านคอมพิวเตอร์มาก็จริง แต่ตอนเรียนยังไม่รู้ว่าตัวเองจะไปทางไหน ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นอะไร โชคดีตอนปี 3 มีพี่คนหนึ่งชวนมาทำงานที่บริษัท เจริญทัศน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตซอฟท์แวร์ คือผมได้งานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ และทำงานที่นี่จนถึงตอนนี้ก็ 4 ปีแล้วครับ โดยเริ่มจากการเป็นเทสเตอร์ (tester) ก่อน หลังจากนั้นพี่เขาให้โอกาสเป็นโปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรม เราก็โตขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาคุมทีม เป็น Lead of Developer ครับ ซึ่งพี่เขาเปิดโอกาสให้เราทำทุกอย่าง ให้เรียนรู้ตั้งแต่เก็บ requirement จนถึงออกไปใช้งาน ทำให้ผมเห็นภาพรวมของซอฟท์แวร์ทั้งหมด จนกระทั่งปัจจุบันได้มาดูภาพรวมและได้เอาความรู้ที่เรียนรู้มาสอนน้องๆ ว่าตรงนี้ควรจะทำอย่างไร ควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งตอนทำงานมันคือของจริงเลยครับ มีหลายเรื่องที่เข้ามากระทบกับโปรเจกต์ เช่น การส่งมอบงาน หรือ requirement ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ตราบยังมีไฟ ก็ไปให้สุดทาง!

ตอนที่ผมทำงานผมก็รับงานเขียนโปรแกรมด้วย เลยมีความคิดว่าถ้าเราเปิดบริษัทน่าจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าเป็นฟรีแลนซ์ เลยตัดสินใจเปิดบริษัทของตัวเองเมื่อปีที่แล้วครับ เป็นบริษัทที่เขียนซอฟท์แวร์เป็นหลัก ดูแลทั้ง life cycle ของซอฟท์แวร์เลย ซึ่งที่บริษัทก็สนับสนุนนะครับ เพราะตอนที่พี่เขาชวนมาทำงานเขาจะพูดเสมอว่า อยากให้เรามีธุรกิจของตัวเอง เขาจะสนับสนุนให้เราตั้งบริษัทตลอดเวลา (หัวเราะ) เพราะงานด้านนี้มันเยอะ แต่ลูกค้าจะเป็นคนละกลุ่มกันครับ ซึ่งความเชี่ยวชาญของผมจริงๆ คือเขียนโปรแกรมเว็บแอปพลิเคชัน แต่ส่วนใหญ่ผมจะดูภาพรวมและดูแลลูกค้าครับ

เติบโตจากลูกน้อง สู่เจ้าของบริษัท

พอมาเป็นเจ้าของบริษัททำให้รู้ว่ามันเหนื่อยกว่าเดิมเยอะเลยครับ (หัวเราะ) เพราะต้องรับผิดชอบน้องๆ ด้วย งานก็ต้องเสร็จตามกำหนด แถมมีเรื่องการทำบัญชีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งในการทำงานเราจะให้ requirement กับน้อง เมื่อน้องทำเสร็จเราจะเป็นคนตรวจว่าตรงตามที่ต้องการไหม

ทุกวันนี้ช่วงเช้าผมจะเข้าทำงานที่บริษัทเดิม แต่ตอนเย็นจะมาทำงานที่บริษัทตัวเองถึงห้าทุ่มเที่ยงคืน มีสองเดือนที่แล้วที่เลิกตีสองทุกวัน แต่คิดว่ามันหนักเกินไป หลังจากนี้ตั้งใจว่าจะรับงานโดยดูระยะเวลาที่ไม่หนักทีมงานมากนัก ตอนนี้มีลูกน้องที่ช่วยงานครบทุกหน้าที่ ซึ่งเขาจะทำงานที่ไหนก็ได้ ขอให้งานเสร็จก็พอ เราพยายามรักษาน้องๆ ทุกคนไว้ เพราะมันเป็นเรื่องการเข้ากันในทีมด้วยครับ อย่างเด็กในทีมเราเคยร่วมงานมาหมดแล้ว จะรู้ว่าใครเป็นอย่างไร ถึงได้เลือกเข้ามาทำงาน ซึ่งหลักในการรับคนทำงานของผมมีอย่างเดียวคือ ทำได้ก็คือทำได้ ทำไม่ได้ก็คือจบ เท่านั้นเอง

โลกใบกว้างของเด็กไอที

ปัจจุบันเราหาเด็กที่เขียนโค้ดได้จริงยากมาก เพราะเด็กมักคิดว่าเขาโค้ดไม่ได้หรือเป็นเรื่องยากสำหรับเขา ซึ่งน่าจะเป็นข้อจำกัดในการพัฒนาด้านไอทีครับ แต่โอกาสคือทุกวันนี้รอบด้านเราเต็มไปด้วยเทคโนโลยี ต่อไปเราต้องขาดบุคลากรด้านไอทีอย่างแน่นอน น่าจะเป็นโอกาสดีสำหรับเยาวชนที่จะพัฒนาตัวเองเข้าสู่วงการไอทีครับ

แนะนำรุ่นพี่ NSC

 

ค้นหาตัวเองได้ผ่าน NSC

โครงการ NSC เป็นโครงการที่สร้างบุคลากรไอที สร้างโอกาสให้กับเด็กๆ เยาวชนได้มีโอกาสแสดงความสามารถของตัวเอง ถ้าอยากให้เพิ่มเติมก็คงเป็นเรื่องของการเพิ่มเติมหมวดหมู่ใหม่ๆ การส่งเสริมให้เยาวชนเข้าร่วมการแข่งขัน เช่น การจัดอบรมการเขียนโปรแกรม หรือการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์ เพื่อให้น้องๆ มาลองเรียนรู้ว่าสิ่งที่เขาอยากรู้นั้น เขาสามารถทำได้ไหม หรือมันเป็นอย่างไร หรืออาจให้พี่ๆ ที่เคยผ่านเวที NSC มาก่อนช่วยแชร์ประสบการณ์ให้น้องๆ ฟังว่าเคยผ่านอะไรมาบ้าง เพราะในช่วงมหาวิทยาลัยหลายคนอาจจะกำลังค้นหาตัวเอง หลายคนยังไม่รู้ว่าจบไปจะมองภาพตัวเองอย่างไร โครงการ NSC ถือเป็นอีกโครงการที่ให้โอกาสน้องๆ ได้ลองค้นหาตัวเองครับ

เขียนเว็บฯ คือพื้นฐาน ต่อยอดงานในอนาคต

สำหรับน้องๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร อยากให้ลองเขียนเว็บไซต์ดูก่อน เพราะการเขียนเว็บฯ น่าจะเป็นพื้นฐานสำหรับทุกคน ลองดูว่าเราทำได้ขั้นไหน แล้วค่อยๆ พัฒนาเป็นภาษาอื่นเรื่อยๆ ครับ เพราะว่าเทคโนโลยีตอนนี้มันวิ่งไวอยู่แล้ว เราตามไม่ทันแน่นอน แต่ถ้าเราจับภาษาใดภาษาหนึ่งได้ก็จะดี หรือจะเรียนรู้ภาพรวมก็ได้ ซึ่งถ้าเริ่มต้นเขียนเว็บฯ ได้น่าจะต่อยอดได้ดีครับ

แนะนำรุ่นพี่ NSC

 

 

จงแตกต่าง แต่เป็นที่ต้องการ

ตอนนี้มีแต่คนอยากเปิด Startup ผมมองว่าการจะเป็น Startup ที่ประสบความสำเร็จได้ ต้องมีจุดต่าง ต้องมีสิ่งที่คนยังไม่มี แต่เป็นสิ่งที่คนต้องการ และสามารถแก้ปัญหาอะไรบางอย่างให้คนใช้ได้ ซึ่งในช่วงแรกอาจจะค่อนข้างยากในการหาไอเดีย แต่พอได้เริ่มทำแล้วมันก็จะเริ่มสนุกไปกับไอเดียที่เราคิด และมันจะสนุกขึ้นไปอีกถ้าเราทำ product ออกมาแล้วมีคนเอาไปใช้งาน สามารถตอบโจทย์และแก้ปัญหาสิ่งที่คนใช้ต้องการได้ ซึ่งบริษัทผมจะเน้นไปทาง digital transform คือการเน้นหา solution ให้กับลูกค้าในการเปลี่ยนแรงงานคน เป็นแรงงานดิจิทัล หรือการปรับเปลี่ยน workflow ที่มีความซับซ้อนให้ง่ายต่อการทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้น ลดต้นทุน ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจครับ

ตัวเราคือหัว(ใจ) ครอบครัวคือแรงเสริม

สิ่งที่ผลักดันให้ผมมาถึงทุกวันนี้ก็น่าจะเป็นตัวผมเองที่อยากจะไปให้ถึงจุดสูงสุดในสายอาชีพของตัวเอง มันเป็นความฝันที่เด็กคนหนึ่งอยากมีธุกิจของตัวเอง ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตอนเด็กๆ ที่ผมฝันอยากมีธุรกิจของตัวเอง มันจะกลายเป็นธุรกิจซอฟต์แวร์ วันนี้เรามีโอกาสได้ทำตามฝัน มีหน่วยสนับสนุนที่ดี ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทำให้ผมได้ก้าวไวกว่าเดิม และไกลกว่าเดิม ถ้าถามว่าอยากจะก้าวไปถึงจุดไหน ผมก็ยังมองหาจุดสิ้นสุดไม่เจอเหมือนกัน เพราะเมื่อไหร่ที่ผมเจอ มันก็คงหยุดแค่นั้นครับ

นิยามตัวเอง ณ ตอนนี้

ถ้าให้นิยามตัวเอง มองว่าตัวเองเป็นนักวางแผนครับ คือผมชอบวางแผน ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม จะทำงานหรือไปเที่ยวผมจะเป็นตัวตั้งตัวตีตลอด ชอบวางแผนว่าเราจะเริ่มจากไหน จะเริ่มทำอะไร และชอบออกแบบโน่นนี่ เช่น ออกแบบ workflow ออกแบบ layout ว่าจะออกมาแบบไหน และอยากให้มันเป็นแบบนั้นด้วยครับ

แนะนำรุ่นพี่ NSC

 

 

ให้ความมหัศจรรย์นำทางชีวิต

สำหรับอนาคตผมก็คงต้องโตขึ้นเรื่อยๆ ผมอยากมีโปรเจกต์หรือแอปพลิเคชันอะไรสักอย่างที่เผยแพร่ให้ทุกคนได้ใช้สักแอปฯ หนึ่งที่ประสบความสำเร็จจริงๆ เพราะสำหรับคนที่เขียนโปรแกรม ผมรู้สึกว่ามันมหัศจรรย์ที่เราเขียนโค้ดแล้วมันทำงานได้ แล้วจะดีกว่านี้คือเขียนแล้วมีคนเอาไปใช้และมันใช้ได้จริงด้วย รวมทั้งสามารถช่วยให้เขาดำเนินชีวิตได้ง่ายขึ้นหรือว่าสามารถช่วยเหลือเขาได้ครับ…

นอกจากซื่อสัตย์กับตัวเองแล้ว สิ่งสำคัญที่นำพาให้หนุ่มพุ่งชนความสำเร็จได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ก็คือการวางแผนและทุ่มหัวใจให้กับสิ่งที่ตนทำ และมากกว่านั้นคือวิสัยทัศน์ในการเลือกเฟ้นและนำเสนอสิ่งที่แตกต่าง ตอบโจทย์ผู้ใช้ และที่สำคัญคือไม่หนีไปจากตัวตนของตัวเอง

แน่นอนว่านั่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เชื่อเถอะว่าถ้าคุณกำลังทำสิ่งที่ตนรักอยู่ละก็ คุณจะมีไฟที่พร้อมจะลุยและฝ่าฟันทุกอุปสรรคไปจนถึงความสำเร็จได้เอง…

แนะนำรุ่นพี่ NSC

 

 
ข้อมูลการศึกษา
  • Bachelor’s Degree in Science and Technology. Field of Study Computer Science. University of the Thai chamber of commerce
การเข้าร่วมเวทีการประกวด/แข่งขัน ของเนคเทค/สวทช.
  • เข้าร่วมการแข่งขัน “การพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย: NSC” ตั้งแต่ปี 2014
ความสำเร็จ (ผลงานที่สร้างชื่อเสียง/รางวัลที่ได้รับ)
  • 2015: The selection of Thailand representative present at Student Innovation Challenge 2015 in Singapore.
  • 2014: 1st prize from National Software Contest 2015, Project “I’m wandering”. Awardees by H.R.H. Princess Maha Chakri Sirindhorn Padma Bhushan.
  • 2013: President Volunteer Camp “Com for kids 2013” at Bantharua School, Prachuapkhirikhan.
  • 2013: Contested National Software Contest 2014, Project “DaliSkill”.
  • 2012: Head of Training Volunteer Camp “Com for kids 2012” at Pattaya City 11 School, Chonburi.
ปัจจุบัน
  • Managing Director, Make Well Tech Solution Co., Ltd.
ความเชี่ยวชาญ
  • Programming language: Java, PHP, Node.js, HTML5, CS3, SQL, Shell.
  • Skills in Laravel Framework, Bootstrap Framework.
  • Knowledge of Line message API.
  • Database: MySQL, Oracle, Firebase.