เกวียน

        เกียน  หรือ เกวียน  เป็นยานพาหนะใช้บรรทุกสิ่งของต่าง ๆ หรือเดินทางไกลรอนแรมไปตามเมืองต่างๆ ชาวอีสานรู้จักใช้รู้จักเกวียนกันมาตั้งแต่สมัยใดนั้นกำหนดไม้ได้เกวียนเป็นยานพาหนะล้อเลื่อนที่ใช้วัว  หรือควายลากจูง ทำจากไม้ประกอบเป็นเกวียน

        เกวียนใช้เป็นยานพาหนะบรรทุกข้าว  สิ่งของไปจำหน่ายที่ตลาด  หรือขนย้ายหรือใช้เป็นยานพาหนะโดยสารในสมัยโบราณที่ยังไม่มีรถยนต์  รถไฟ  เหมือนในปัจจุบัน  ในหัวเมืองภาคอีสานก่อนรัชกาลที่ 5  นั้นจะมีเส้นทางเกวียนติดต่อกันระหว่างหมู่บ้าน  หรือระหว่างเมืองสู่เมืองดังที่สมเด็จมหาวีรวงศ์ ( อ้วน ติสโส )  สมัยดำรงสมณศักดิ์เป็นพระโพธิวงศาจารย์เจ้าคณะมณฑล  อุบลราชธานี  ได้เขียนไว้ในกรมศิลปากร, ลัทธิธรรมเนียมต่างๆ (โรงพิมพ์รุ่งเรืองรัตน์,พ.ศ. 2515  หน้า 392 ) ว่า “…ส่วนทาง ( ทางเกวียน ) ที่ใช้กันอยู่เวลานี้ ( สมัยรัชกาลที่ 6 ) เดินได้ถึงกัน เช่น  มณฑลร้อยเอ็ดไปนครราชสีมา  อุดรธานี  อุบลราชธานี  เกวียนนี้เป็นยานพาหนะที่ใช้บรรทุกสินค้าสำคัญกว่ายานพาหนะชนิดอื่นติดต่อกันในมณฑลภาคอีสาน  การบรรทุกถ้าเดินทางไกลตั้งแต่ 10 วันขึ้นไปบรรทุกน้ำหนักราว 3-4 หาบ ( หาบหนึ่งมีน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ) ถ้าเดินทางวันเดียวหรือ 2 วัน บรรทุก 5 หาบ ขนาดเกวียนสูงจากพื้นดินประมาณ 2 ศอกเศษ  ตัวเกวียนกว้าง 1 ศอกเศษ  ยาวประมาณ 3 ศอกเศษ  ราคาซื้อขายกันตามราคา ตั้งแต่  20 บาทขึ้นไปถึง 50 บาท  ประทุนที่ใช้ประกอบราคาหลังละ 7-8 บาท ถ้าซื้อทั้งประทุนด้วยราคาก็เพิ่มขึ้นตามส่วน …”

เกวียนที่ใช้กันอยู่ในภาคอีสานนั้นมี 2 ชนิด คือ

        1)  เกวียนโกง  คือเกวียนที่มีแต่พื้นเกวียนวางแน่นอยู่บนวงล้อ  เทียมวัวควายลากเลื่อนไปได้  ครั้นเมื่อจะบรรทุกสิ่งของต้องมีกระบะสานด้วยไม้ไผ่ขนาดใหญ่วางบนพื้นเกวียนสำหรับบรรจุสิ่งของ

        2)  เกวียนประทุน  คือเกวียนที่มีส่วนประกอบต่าง ๆ เหมือนเกวียนภาคกลางและเพิ่มประทุนวางครอบเพื่อกันแดดกับฝน  สำหรับให้ผู้นั่งโดยสารเดินทางไกล ๆ ประทุนเกวียนภาษาถิ่นอีสานเรียนกว่า “ พวง “