ประวัติ

วิธีสร้าง

ทฤษฎี

ข้อสอบ

เฉลย

ครกกระเดื่อง

        เป็นอีกภูมิปัญญาหนึ่งของชาวอีสาน  เพราะสมัยก่อนไม่มีโรงสี  ชาวบ้านต้องตำข้าวกิน  ปัจจุบันเราใช้โรงสี  ซึ่งข้าวที่ได้จากการสีและการตำจะมีคุณค่าทางอาหารต่างกันมาก  และคนส่วนใหญ่ได้หันมานิยมบริโภคข้าวซ้อมมือ  จะได้วิตามินมาก  ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวขอนแก่นมาแต่อดีต

        การตำข้าวด้วยครกมอง  เป็นความฉลาดของคนอีสานมาเป็นเวลานานซึ่งจะเห็นคุณค่าทางปัญญาอยู่ 3 ประการคือ

1. แสดงถึงความขยัน  หมายความว่า  ลูกสาวใครขยันตำข้าวแต่เช้าและได้ยินเสียงตำข้าวถี่ ๆ  ซึ่ง

เขาเรียกว่าเสียง  “สักกะลัน” แสดงว่าลูกสาวบ้านนั้นขยันตำข้าวเก่ง

2. เป็นการปลุกชาวบ้านให้รีบลุกมาทำงานตั้งแต่เช้า  ฉะนั้นคนขอนแก่นและคนชนบทอีสาน พอได้

ยินเสียงเขาตำข้าว  ทุกบ้านก็จะพากันลุกมาตำข้าวแข่งกัน  เช้า ๆ  จึงได้ยินเสียง “สักกะลัน” ดังก้องสนั่นไปทั่วทุกหมู่บ้าน

3. การตำให้ได้เมล็ดข้าวงาม  จะต้องตำด้วยสาก 3 ชนิด และใช้ในวาระต่างกัน  ดังนี้

สากตำ  เป็นสากแรกที่ทำให้ข้าวเปลือกกะเทาะเปลือกออกบางส่วน  “สากตำ” เป็นสากที่มีขนาดเล็กที่

สุด  ข้าวที่ได้จากการตำเรียกว่า “ข้าวก้อง”

        สากต่าว  เป็นสากที่มีขนาดใหญ่ปานกลาง  ใช้ตำหลังจากสากตำเพื่อตำข้าวก้องให้มีเมล็ดข้าวสารมากกว่าข้าวเปลือก

        สากซ้อม  เป็นสากสุดท้าย  เพื่อตำข้าวก้องให้เป็นข้าวสาร  สากซ้อมเป็นสากที่มีขนาดใหญ่ที่สุด  มีน้ำหนักมากจึงตำข้าวก้อง  เป็นข้าวสารได้ทั้งหมด  

        ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคในการตำข้าว  ซึ่งพร้อมไปด้วยภูมิปัญญา  จิตวิทยา  และวัฒนธรรมซึ่งชาวขอนแก่นยังเก็บรักษาไว้  แม้นปัจจุบันอาจจะไม่ค่อยเห็นสาว ๆ  ตำข้าวกันมากนัก  แต่ภูมิปัญญานี้ก็ต้องถูกบันทึกไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม