หน้าแรก
|
กิตติกรรมประกาศ
|
วัตถุประสงค์
| บทคัดย่อ |
ขั้นรวบรวมข้อมูล
|
ที่มาและความสำคัญ
|
อัตชีวประวัติสุนทรภู่
| ผลการศึกษา |
สรุปผลการศึกษา
|
ทีมงาน
นิราศพระบาท
1-10
11-20
21-30
31-40
41-50
โอ้อาลัยใจหายไม่วายห่วง
ดังศรศักดิ์ปักซ้ำระกำทรวง
เสียดายดวงจันทราพงางาม
เจ้าคุมแค้นแสนโกรธพิโรธพี่
แต่เดือนยี่จนย่างเข้าเดือนสาม
จนพระหน่อสุริยวงศ์ทรงพระนาม
จากอารามแรมร้างทางกันดาร
ด้วยเรียมรองมุลิกาเป็นข้าบาท
จำนิราศร้างนุชสุดสงสาร
ตามเสด็จโดยแดนแสนกันดาร
นมัสการรอยบาทพระศาสดา
วันจะจรจากน้องสิบสองค่ำ
พอจวนย่ำรุ่งเร่งออกจากท่า
จากบทร้อยกรองนี้ทำให้ได้รับความรู้ว่า สุนทรภู่เดินทางไปนมัสการพระพุทธบาท โดยตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ เมื่อปีพุทธศักราช 2351 ตรงกับเวลา 12 ค่ำ เดือนยี่ เวลาเช้าตรู่ ออกเดินทางจากวัดระฆังโฆสิตาราม ซึ่งพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ทรงผนวชอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตารามแห่งนี้ และสุนทรภู่เป็นมหาดเล็กในขณะนั้น
สำหรับประวัติวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เดิมเรียกวัดบางหว้าใหญ่ เป็นวัดโบราญสร่างในสมัยกรุงศรีอยุธยา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดและได้ทรงถวายหอพระไตรปิฎกและมีคนรียกกันว่าตำหนักจันทร์ และที่เรียกว่าวัดระฆังเพราะมีการขุดพบระฆังที่มีเสียงไพเราะที่วัดนี้ ในภายหลังรัชกาลที่1ได้ทรงขอระฆังเสียงดีลูกนี้ไปวัดที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และทรงสร้างหอระฆังมีจัตุรมุขพร้อมระฆังอีก5ลูก เพราะเหตุนี้จึงได้ชื่อตามที่ประชาชนเรียกว่าวัดระฆัง