หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลโครงการ
SchoolNet@1509 สามารถสอบถามได้ที่ webmaster@school.net.th
- ทำไม SchoolNet ต้องจำกัดจำนวนผู้ใช้
ประเภทบัญชีการใช้งาน จำกัดเวลา
และจำกัดจำนวนชั่วโมงการใช้งานต่อเดือน
?
- ทำไม SchoolNet ไม่ครอบคลุมทั้งโรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ
- ทำไมบัญชีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตของ
SchoolNet จึงใช้งานได้เพียง40 ชั่งโมงต่อเดือน
- โครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
(SchoolNet)คัดเลือกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการอย่างไร
มีเกณฑ์การคัดเลือกโรงเรียนอย่างไร
- โรงเรียนจะเข้าร่วมโครงการจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
?
- สำหรับโรงเรียนที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ
SchoolNetโดยที่โรงเรียนไม่อยู่ในรายชื่อโรงเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการคัดเลือก
ให้เข้าร่วมโครงการจะต้องดำเนินการอย่างไร?
- สมาชิกจะต่ออายุบัญชีเดิมได้อย่างไร?
- สมาชิกสามารถช่วยประชาสัมพันธ์โครงการ
SchoolNet@1509 และ NECTEC ได้อย่างไร?
- จะทำอย่างไรเมื่อ
Web Browser ไม่สามารถแสดง web page รายงานผลการใช้งาน,ตรวจสอบ
status ,แก้ไขเปลี่ยนแปลง password หรือต่ออายุสมาชิก
SchoolNet ได้ ?
- โรงเรียนจะขอเพิ่มบัญชี
SchoolNet จะต้องทำอะไรบ้าง ?
- สมาชิกต้องการเปลี่ยนผู้รับผิดชอบบัญชี,เปลี่ยนประเภทบัญชี
หรือเปลี่ยนตารางเวลาจะต้องทำอย่างไร
?
- จะเริ่มต้นสร้างโฮมเพจได้อย่างไร?
|
1. ทำไม SchoolNet ต้องจำกัดจำนวนผู้ใช้
ประเภทบัญชีการใช้งาน จำกัดเวลา
และจำกัดจำนวนชั่วโมงการใช้งานต่อเดือน
? |
SchoolNet มีทรัพยากรค่อนข้างน้อย
จึงจำเป็นต้องบริหารทรัพยากรที่มีจำนวนจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ
ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อโรงเรียน
ทรัพยากรที่มีจำกัดนั้น ได้แก่
เบอร์โมเด็มติดตั้ง ณ 20 จังหวัดทั่วประเทศครอบคลุมทุกรหัสทางไกล
จังหวัดละ 15 หมายเลข ติดตั้งในกรุงเทพฯ
อีก 120 หมายเลข รวมทั้งสิ้น 420 หมายเลข
ซึ่งหากต้องการรักษาคุณภาพการให้บริการในสัดส่วนที่ดี
เช่น เบอร์โมเด็ม 1 เบอร์ ต่อผู้ใช้
10 คน ระบบของ SchoolNet นี้ ก็สามารถรองรับผู้ใช้ได้
4,200 คน การจำกัดประเภทบัญชีการใช้งานและช่วงเวลาใช้งานโดยเน้นใช้งานเวลากลางวัน
ก็เพื่อให้ครูได้ใช้งานบัญชีอินเทอร์เน็ตร่วมกับนักเรียนที่โรงเรียนส่วนการจำกัดจำนวนชั่วโมงการใช้งานต่อเดือนก็wbr
> อรักษาคุณภาพการให้บริการเป็นการรับประกันว่าสมาชิกสามารถติดต่อเข้าสู่ระบบได้ตลอดเวลาอย่างง่ายดาย
การให้บริการโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพการให้บริการ
ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้ให้เหมาะสมกับขนาดของระบบ
ย่อมไม่เกิดประโยชน์ต่อครูและนักเรียนอย่างเต็มที่
|
2. ทำไม SchoolNet ไม่ครอบคลุมทั้งโรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ
และให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบเต็มรูปแบบ
? |
เนคเทค เป็นองค์กรที่มีบทบาทหลักในการสนับสนุนงานวิจัย
พัฒนา และวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์
ดังนั้นการขยายการให้บริการ SchoolNet
ให้ครอบคลุมทุกโรงเรียนทั่วประเทศจึงไม่อยู่ในขอบเขตความสามารถที่เนคเทคจะดำเนินการได้
เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับเป็นงบประมาณเพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเป็นส่วนใหญ่
แม้ว่า เนคเทค ได้วางโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายเพื่อการศึกษาและวิจัยของประเทศไทยแล้วในโครงการ
ThaiSarn และ SchoolNet แต่การที่จะพัฒนาโครงการให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดและคุ้มค่ากับการลงทุนนั้นจำเป็นต้องพิจารณาถึงปัจจัยอื่นๆ
ได้เแก่ การพัฒนาด้านบุคลากร การพัฒนาด้านเนื้อหาข้อมูล
ซึ่งต้องอาศัยงบประมาณและกำลังคนมหาศาล
อีกทั้งต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ
ปัจจัยที่สำคัญที่สุดอีกประการหนึ่งก็คือความพร้อมของโรงเรียน
ความพร้อมในที่นี้ได้แก่ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม
อุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ ตลอดจนความพร้อมด้านบุคลากร
ในระยะยาว การที่จะขยายโครงการออกไปครอบคลุมทุกโรงเรียนทั่วประเทศก็ควรอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานที่ด
ูแลเรื่องการจัดการศึกษาของประเทศอย่างกระทรวงศึกษาธิการและ
ทบวงมหาวิทยาลัย มากกว่าเนคเทคซึ่งเป็นหน่วยงานทางด้านเทคโนโลยี
|
3. ทำไมบัญชีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตของ
SchoolNet จึงใช้งานได้เพียง40 ชั่งโมงต่อเดือน?
|
ตามที่ได้กล่าวแล้วว่า
โครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทยมีทรัพยากรค่อนข้างจำกัดคือมีเลขหมายเพื่อโทรเข้าระบบได้จาก
76 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 420 เลขหมาย
ซึ่งเปิดให้บริการแก่โรงเรียนในโครงการได้ติดต่อเข้าสู่ระบบตลอด
24 ชม. จะเห็นว่า ด้วยจำนวนเลขหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ไม่สามารถให้บริการแก่โรงเรียนทั้งหมดในประเทศได้
หากพิจารณาในแง่ของการให้บริการแก่โรงเรียน
จะเห็นว่าโรงเรียนมีช่วงเวลาทำการตั้งแต่
6:00 น. - 18:00 น. (12 ชั่วโมง) ในวันจันทร์ -
ศุกร์ คำถามก็มีอยู่ว่า เลขหมายจำนวน
420 เลขหมายที่มี ควรจะจัดบริการให้โรงเรียนอย่างไร
กรณีแรก
หากให้บริการแบบไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนชั่วโมงการใช้งาน
ไม่จำกัดเวลาในการเข้าใช้ระบบ
สิ่งที่เกิดขึ้นคืออาจให้บริการได้เพียง
420 โรงเรียน และปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
คือ การใช้งานส่วนตัว การแชร์กันใช้
และการใช้งานที่ไม่เกิดประโยชน์
อย่างการพูดคุยสนทนา หรือ การดึงข้อมูลด้านบันเทิง
ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์
อีกประการหนึ่งคือการใช้งานของโรงเรียนเป็นการเรียกใช้งานพร้อมๆกันในช่วงเวลาเดียวกัน
ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการโทรไม่ติดในเวลาทำการหากมีจำนวนผู้ใช้มากเกินไป
ทางออกที่ดีกว่า
คือการเกลี่ยให้โรงเรียนได้มีโอกาสเท่าๆ
กันในการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตของ
SchoolNet โดยในแต่ละโรงเรียนจะถูกกำหนดให้สามารถใช้งานบัญชีอินเทอร์เน็ตได้
40 ชม.ต่อเดือน และใช้งานตามช่วงเวลาที่ได้กำหนดไว้
ตัวเลข 40 ชั่วโมง มาจากการคำนวนโดยอาศัยตัวเลขจำนวนชั่วโมงที่โรงเรียนสามารถใช้งานได้ใน
1 วันคือ 12 ชม. (เป็นเวลาที่ครูและนักเรียนอยู่ที่โรงเรียน)
จำนวนวันที่ใช้ได้ใน 1 เดือน (20 วัน)
ดังนั้นจะได้ว่า จำนวนชั่วโมงรวมที่สามารถใช้งานได้คือ
240 ชม./เดือน ซึ่งเมื่อนำจำนวนชั่วโมงรวม
(240 ชม./เดือน) และอัตราส่วนการใช้งาน
6 โรงเรียนต่อ 1 เลขหมาย (มาจากการตั้งเป้าไว้
2,500 โรงเรียน เปรียบเทียบกับจำนวนเลขหมาย
420 เลขหมาย จะได้ ตัวเลข6 โรงเรียนต่อ
1 เลขหมาย) มาเฉลี่ยจะได้ว่าแต่ละโรงเรียน
จะได้รับบัญชีอินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าสู่ระบบ
SchoolNetได้จำนวน40ชม./เดือนจะเห็นว่าการออกแบบการให้บริการ
ดังกล่าวสามารถจัดบริการให้โรงเรียนได้จำนวนมากขึ้นคือ
2,500โรงเรียนซึ่งเป็นบริการที่มีคุณค่ากว่าเพราะการจำกัดเวลาการใช้งานควบ
คู่กับนโยบายการติดตามและประเมินผลการนำไปใช้งาน
เป็นการส่งเสริมให้โรงเรียนนำบัญชีที่ได้ไปทำประโยชน์ในด้านการเรียนการสอนมากกว่า
อินเทอร์เน็ตเป็นเพียงสื่อการเรียนการสอนชนิดหนึ่ง
ที่เรียกได้ว่าเป็น "สื่อชนิดเสริม"
เช่นเดียวกับโทรทัศน์ ไม่ใช่สื่อหลัก
ดังนั้นการที่โรงเรียนรู้จักนำอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้งาน
ในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
ย่อมเกิดประโยชน์มากกว่าการได้รับจำนวนชั่วโมงการใช้งานมากแต่ไม่รู้จักวิธีการนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
|
4. โครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
(SchoolNet)คัดเลือกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการอย่างไร
มีเกณฑ์การคัดเลือกโรงเรียนอย่างไร?
|
กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้คัดเลือกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ
ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาของรัฐ
สังกัดกรมสามัญศึกษาจำนวน 1,200 โรงเรียน
โรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน
จำนวน 300 โรงเรียน และโรงเรียนประถมศึกษา
(ขยายถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น)สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ
จำนวน 100 โรงเรียน นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครให้เข้าร่วมโครงการอีก
10 โรงเรียน ซึ่งรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ
แสดงไว้ที่ http://www.school.net.th/about/schools/
เกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครใช้คัดเลือกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการคือ
เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมโมเด็มที่เตรียมไว้สำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างน้อย
1 เครื่อง และ โทรศัพท์สายตรง 1 เลขหมาย
นอกจากนี้โรงเรียนยังไม่ได้เชื่อมต่อเป็นอินเทอร์เน็ตโหนดมาก่อน
|
5. โรงเรียนจะเข้าร่วมโครงการจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
? |
หากโรงเรียนได้รับคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการ
หรือสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครให้เข้าร่วมโครงการ
(สามารถตรวจสอบได้ที่ รายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ) สามารถดำเนินการ
ดังนี้
(1)
ติดต่อขอรับแบบเข้าร่วมโครงการฯ
ได้ที่
- สำนักงานสามัญศึกษาจังหวัดทุกจังหวัด
- สำนักเลขานุการคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
โทรศัพท์ : (02) 6448150 โทรสาร : (02) 6446653 อินเทอร์เน็ต
: info@school.net.th
- แบบขอเข้าร่วมโครงการฯ จากเว็บไซด์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
http://www.school.net.th/schoolnet1509/k12_form.pdf กรุณาติดตั้งโปรแกรม
Acrobat Reader
(2) ส่งแบบขอเข้าร่วมโครงการฯ
พร้อมหลักฐาน ได้ที่ สำนักเลขานุการคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
73/1 ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี
กรุงเทพฯ 10400 โทรสาร : (02) 6446653 |
6. สำหรับโรงเรียนที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ
SchoolNetโดยที่โรงเรียนไม่อยู่ในรายชื่อโรงเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการคัดเลือก
ให้เข้าร่วมโครงการจะต้องดำเนินการอย่างไร?
|
โรงเรียนที่ไม่อยู่ในรายชื่อโรงเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการคัดเลือกให้เข้าร่วม
แต่มีความประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะนำอินเทอร์เน็ตมาใช้งานในโรงเรียน
สามารถเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องมีเงื่อนไขขั้นต่ำ
3 ข้อคือ
(1) โรงเรียนมีความพร้อมในการใช้งานอินเทอร์เน็ต
กล่าวคือ โรงเรียนมีโทรศัพท์สายตรง
และเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมโมเด็ม
ที่เตรียมไว้ใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ
(2) โรงเรียนมีแผนการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในโรงเรียนที่ชัดเจน
(3) โรงเรียนมีไฟฟ้าใช้ โรงเรียนจะต้องทำหนังสือขอเข้าร่วมโครงการฯ
พร้อมแนบเอกสารแผนการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในโรงเรียน
มาที่ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
73/1 ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี
กรุงเทพฯ 10400 โทรสาร : (02) 6446653 |
7. สมาชิกจะต่ออายุบัญชีเดิมได้อย่างไร?
|
ท่านสามารถต่ออายุบัญชีเดิมผ่านทางอินเทอร์เน็ตดังนี้
1. เปิดที่ http://www.school.net.th/renewal/
2. ใส่ชื่อบัญชี(Login) ในช่องชื่อ
3. ใส่รหัสผ่าน(Password)ในช่องรหัสผ่าน
4. คลิกปุ่ม Submit จะแสดงหน้าถัดไป
5. กรุณาตรวจสอบข้อมูลโรงเรียนและข้อมูลครูผู้รับผิดชอบบัญชีอินเทอร์เน็ต
หากมีข้อมูลผิดพลาดกรุณาส่งรายละเอียดข้อมูลที่ต้องการแก้ไขมายัง
helpdesk@school.net.th
6. จากนั้นท่านสามารถต่ออายุสมาชิก
โปรดคลิกที่"ท่านสามารถต่ออายุสมาชิก
โปรดคลิกที่นี่"
จะแสดงหน้าถัดไปซึ่งแสดงว่าท่านได้รับการต่ออายุชั่วคราว
15 วัน
7. กรุณาส่งคำรับรองมายังศูนย์บริการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
108 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ชั้น 11
ถนนรางน้ำ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
8. อีก 2 สัปดาห์หลังจากท่านส่งคำรับรอง
กรุณาตรวจดูผลการต่ออายุสมาชิก
ได้ที่ http://www.school.net.th/status/ |
8. สมาชิกสามารถช่วยประชาสัมพันธ์โครงการ
SchoolNet@1509 และ NECTEC ได้อย่างไร? |
โครงการ SchoolNet
ขอความร่วมมือจากโรงเรียนช่วยประชาสัมพันธ์โครงการ
SchoolNet (http://www.school.net.th) และศูนย์เทคโนโลยี
อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
(http://www.nectec.or.th) โดยการเพิ่มสัญลักษณ์ของ
SchoolNet และ NECTEC เข้าเป็นส่วนหนึ่งของหน้า
Homepage ข้อมูลโรงเรียน ในบริเวณที่เหมาะสมเพื่อเชื่อมโยงข้อมูล
มายัง Homepage ของ SchoolNet และ NECTEC
วิธีการใส่สัญลักษณ์ของ
SchoolNet และ NECTEC เข้าสู่ Homepage ได้โดยการเพิ่ม
html tag ดังนี้
1.
เพิ่ม html tag
สัญลักษณ์ของ SchoolNet
<a
href="http://www.school.net.th/">
<img
src="http://www.nectec.or.th/images/schoolnetlogo.gif">
</a>
2. เพิ่ม html tag สัญลักษณ์ของ NECTEC
<a
href="http://www.nectec.or.th/">
<img
src="http://www.nectec.or.th/images/nectec-logo.gif">
</a>
|
9. จะทำอย่างไรเมื่อ Web Browser ไม่สามารถแสดง
web page รายงานผลการใช้งาน,ตรวจสอบ status
,แก้ไขเปลี่ยนแปลง password หรือต่ออายุสมาชิก
SchoolNet ได้ ? |
เนื่องจาก web
page
http://www.school.net.th/reports (รายงานผลการใช้งาน)
,
http://www.school.net.th/status (ตรวจสอบสถานะการใช้งาน),
http://www.school.net.th/password (แก้ไขเปลี่ยนแปลง
password) มี ระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลของ
SchoolNet อยู่ ดังนั้นเมื่อ Browser เรียก web
page เพื่อแสดงจะมีการเตือนเรื่องความปลอดภัยข้อมูลขึ้น
เพื่อให้ Browser ยอมรับระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลนั้น
ปัญหาการ แสดง web page เหล่านี้ ไม่ได้
จะมีอยู่ 2 ลักษณะ คือ
- สำหรับ Browser Internet Explorer version
3 จะไม่ยอมรับระบบรักษาความ
ปลอดภัยของ SchoolNet จึงไม่สามารถเปิด
web page เหล่านี้ได้ วิธีแก้ไข คือ การ
Update Browser เป็น Internet Explorer version
4 ขึ้นไป หรือเป็น
Netscape Communicator
- สำหรับ Browser Netscape เมื่อทำการยอมรับระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว
จะสามารถเปิด web page ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง
การยอมรับระบบรักษา ความปลอดภัยนั้นจะหมดอายุลง
ทำให้ไม่สามารถแสดง web page ได้ วิธีแก้ไข
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.school.net.th/about/password.html#security
|
10. โรงเรียนจะขอเพิ่มบัญชี SchoolNet
จะต้องทำอะไรบ้าง? |
- โรงเรียนมีสิทธิ์ได้รับ
3 บัญชี คือ บัญชีประเภทค้นหาข้อมูล
1 บัญชี และบัญชีประเภทเผยแพร่ข้อมูล
2 บัญชี
- โรงเรียนที่ได้บัญชีไม่ครบ
3 บัญชี สามารถขอเพิ่มบัญชี SchoolNet
ได้ โดยจัดหาครูผู้รับผิดชอบ (
ไม่ซ้ำกับครูผู้รับผิดชอบเดิม )
สามารถ download ใบสมัครได้ที่ http://www.school.net.th/about/index.html
พร้อมหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการ
ส่งมาที่ ศูนย์บริการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
108 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ ชั้น 11
ถนนรางน้ำ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่
helpdesk@school.net.th
|
11.สมาชิกต้องการเปลี่ยนผู้รับผิดชอบบัญชี,เปลี่ยนประเภทบัญชี
หรือ เปลี่ยนตารางเวลาจะต้องทำอย่างไร? |
สมาชิกที่ต้องการเปลี่ยนผู้รับผิดชอบบัญชี
สามารถทำได้ดังนี้
จัดทำเป็นหนังสือราชการ
แจ้งรายละเอียดของผู้ที่รับผิดชอบบัญชีเดิม
คือ ชื่อ-นามสกุลของเจ้าของบัญชีเดิม
หมายเลขบัญชี (id), ชื่อบัญชี (username)
และชื่อ-นามสกุลของผู้ที่จะมารับผิดชอบบัญชีใหม่
พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการ
และเหตุผลในการขอเปลี่ยนชื่อผู้รับผิดชอบบัญชี
ทั้งนี้ชื่อผู้ที่จะมารับผิดชอบบัญชีใหม่จะต้องไม่มีราชชื่อในการรับผิดชอบบัญชีที่โรงเรียนมีอยู่เดิม
สมาชิกที่ต้องการจะเปลี่ยนประเภทบัญชี
สามารถทำได้ดังนี้
จัดทำเป็นหนังสือราชการ
แจ้งรายละเอียดของประเภทบัญชีที่จะขอเปลี่ยนพร้อมทั้งชื่อ-นามสกุลของเจ้าของบัญชี
หมายเลยบัญชี (id)เดิม, ชื่อบัญชี
(username) เหตุผลในการขอเปลี่ยนประเภทบัญชี
จากนั้นทำการสมัครใหม่โดยกรอกข้อมูลลงในใบสมัคร
ข (ค้นหาข้อมูล ประเภทบัญชี A) หรือใบสมัคร
ค (เผยแพร่ข้อมูล ประเภทบัญชี B)
และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการ
สมาชิกที่ต้องการจะเปลี่ยนตารางเวลาในการเข้าใช้งาน
สามารถทำได้ดังนี้
เนื่องจาก SchoolNet ได้ทำการจัดสรรตารางเวลาในการเข้าใช้งานของสมาชิกทุกท่าน
ให้สามารถใช้งานได้ดีไม่เกิดความล่าช้าในการเข้าถึงข้อมูล
ดังนั้น จึงได้จัดความสัมพันธ์ระหว่างตารางประเภทค้นข้อมูลแบบ
A กับตารางประเภทเผยแพร่ข้อมูลแบบ
B
กรณีที่สมาชิกต้องการจะเปลี่ยนตารางเวลา
ขอให้เลือกตารางเวลาการใช้งานประเภทค้นข้อมูลแบบ
A (A1,A2,A3) เป็นหลัก จากนั้นจึงทำหนังสือราชการ
แจ้งรายละเอียดของประเภทบัญชีที่ต้องการจะเปลี่ยนตารางเวลาการเข้าใช้งาน
พร้อมทั้งชื่อ-นามสกุลของเจ้าของบัญชี
หมายเลยบัญชี (id)เดิม, ชื่อบัญชี
(username) เหตุผลในการขอเปลี่ยนตารางเวลา
และแจ้งตารางเวลาใหม่ที่ต้องการใช้งาน
พร้อมทั้งแนบเอกสารการสมัครใหม่โดยกรอกข้อมูลลงในใบสมัคร
ข (ค้นหาข้อมูล ประเภทบัญชี A) หรือใบสมัคร
ค (เผยแพร่ข้อมูล ประเภทบัญชี B)
และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการ
หมายเหตุุ
กรณีที่โรงเรียนของสมาชิกมีบัญชีครบทั้ง
3 บัญชีแล้ว หากต้องการจะเปลี่ยนตารางเวลาการใช้งานบัญชีใดบัญชีหนึ่ง
อีก 2 บัญชีที่เหลือจะต้องทำการเปลี่ยนตารางเวลาการใช้งานด้วย
ดังนั้นสมาชิกจึงต้องทำการสมัครใหม่ทั้ง
3 บัญชี โดยจัดทำเป็นหนังสือราชการแจ้ง
ชื่อ-นามสกุลของเจ้าของบัญชี
หมายเลยบัญชี (id)เดิม, ชื่อบัญชี
(username) ประเภทของบัญชีที่ใช้งานอยู่
พร้อมทั้งแนนเอกสารการสมัครใหม่โดยกรอกข้อมูลลงในใบสมัคร
ข (ค้นหาข้อมูล ประเภทบัญชี A) หรือใบสมัคร
ค (เผยแพร่ข้อมูล ประเภทบัญชี B)
และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการ
ส่งเอกสารทั้งหมดมายัง
ศูนย์บริการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
หน่วยปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เลขที่ 108 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์
ชั้น 11
ถนน รางน้ำ แขวงพญาไทฃ
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
helpdesk@school.net.th
|
12.
จะเริ่มต้นสร้างโฮมเพจได้อย่างไร? |
- ศึกษาคู่มือการสร้าง
Web Page ด้วย HTML Tag ทั่วไป และคู่มือการสร้าง
web page ภาษาไทยที่
http://www.school.net.th/web-guide/
- บัญชีที่จะฝากข้อมูลยังเครื่องบริการของ
SchoolNet ได้
ต้องเป็นบัญชีประเภทเผยแพร่ข้อมูล
(B)
ศึกษาคู่มือการฝากข้อมูลบนเครื่องบริการ
SchoolNet โดยใช้โปรแกรม Cute FTP ที่
http://www.school.net.th/support/cuteftp.php3
- ตรวจสอบผลการฝากข้อมูลที่เครื่องบริการ
user.school.net.th ได้โดยโปรแกรม Browser พิมพ์
URL
เป็น http://user.school.net.th/~<username
ของผู้ใช้ประเภทเผยแพร่ข้อมูล>
หากพบปัญหาการแสดงผล font ภาษาไทย
การแสดงรูปภาพ
และการเชื่อมโยงระหว่าง web page
ศึกษาวิธีการแก้ปัญหาได้ที่
http://www.school.net.th/web-guide/#netscape-prob
|