ง. จ๊อย
			จ๊อย (บางคนเรียกช้อย)
     คือ การขับลำนำ หรือทำนองเสนาะ คำประพันธ์ที่ใช้ในการจ๊อยก็คือ ค่าว ท่วงทำนองการจ๊อยเรียกว่า  ระบำ  อาจมีลีลาทอดเสียงยาว เช่น ทำนองโก่งเฮียวบง 
     ทำนองวิงวอน หรืออาจมีลีลากระชั้นขึ้นลง เช่น ทำนองม้าย่ำไฟ นอกจากนี้ก็ยังมีลักษณะทำนองตามแบบที่นิยมในท้องถิ่นต่างๆ เช่น ทำนองเมืองเถิน
     ทำนองเชียงแสน เป็นต้น
              บทจ๊อย มิได้เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมความเชื่อโดยตรง ในอดีตชายหนุ่มจะนิยมจ๊อยในเวลาไปแอ่วสาวตอนกลางคืน      โดยอาจจะสีสะล้อ ดีดซึงหรือเปี๊ยะ 
    (พิณเพียะ) คลอกับเสียงจ๊อยไปด้วย ประเพณีการเล่นดนตรีและจ๊อยไปตามทางในการไปแอ่วสาวนี้   นอกจากจะมีจุดประสงค์เพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว
    ยังมีลักษณะเป็นการส่งสัญญาณให้ผู้อื่นรู้ว่า    ผู้ที่กำลังเดินทางในยามค่ำคืนเช่นนี้ เป็นผู้เดินทางมาอย่างมิตรมิใช่ศัตรูหรือคนร้าย     และยังเป็นการส่งสัญญาณบอก
    ให้สาวซึ่งกำลังนั่ง อยู่นอก อยู่บนเติ๋นบ้าน ได้รู้ตัวก่อนที่หนุ่มๆ จะมาถึงเรือนอีกด้วย(ทรงศักดิ์ ปรางค์วัฒนากุล, 2531 : 4)
   
                            	 บทจ๊อย ตอนที่ชายหนุ่มเดินทางกลับจากบ้านสาว
    	 เดิ้กมามะม้อย  น้ำย้อยตีนกลอน		เดิ้กมาออนซอน   ดาวหมองหม่นฝ้า
                                                            	 		(ดึกแล้วดาวสลัว ในกลีบเมฆ)
  	 เงียบเหงาใจ  ไปทุกหย่อมหญ้า		 วิเวกวังเวง  เงียบพัก
    	 มนุสส์ทังหลาย  นอนในสำนัก		 ดักเงียบปิ้งเย็นวอย (เงียบสงัดไปหมด)
  	 ลมก็บ่พัด  สงัดหายสอย			 แสงเดือนมอย  ลอดลายกิ่งก้าน
    	 หันวุยวาย  ไปผับทั่วบ้าน 			หนาวเย็นคิง   สะท้าน
     	ง่อมงันใจ  ดวงธัยเหี่ยวม้าน 		บ่มีคู่ป้อง  นอนพิง
    	 (อุดม รุ่งเรืองศรี,2527 : 431)
ฟังจ๊อย