|
ผงซักฟอก
คือ สินค้าอุปโภคชนิดหนึ่งใช้สำหรับชำระล้างสิ่งสกปรกให้ออกจากเสื้อผ้า
เครื่องนุ่งห่ม ตลอดจนสามารถใช้ชำระล้างทำความสะอาดเครื่องใช้ต่างๆ ได้อีกด้วย |
ผงซักฟอกผลิตขึ้นมาใช้แทนสบู่ครั้งแรกในระหว่างสงครามโลกครั้งที่
1 และต่อมาได้ปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบันผงซักฟอกได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดค่อนข้างสูง
ผู้ผลิตจึงต้องปรับปรุงคุณภาพและรูปลักษณ์อยู่เสมอๆ จึงทำให้ในปัจจุบันได้มีผงซักฟอกสูตรต่างๆ
วางขายกันตามท้องตลาดมากมาย |
|
ผงซักฟอก มีส่วนประกอบของสารประกอบด้วยสารประกอบใหญ่ๆ
อยู่ 2 ชนิด คือ สารประกอบหลักและสารประกอบรอง |
สารประกอบหลักมี 5 ชนิดคือ
|
1. สารลดแรงตึงผิว
เป็นหัวใจของผงซักฟอก เพราะเป็นตัวที่ทำให้คราบสกปรกที่ติดอยู่กับเนื้อผ้าหลุดออกได้ง่าย
ปัจจุบันผู้ผลิตได้ใช้สารลิเนียอัลคีลเบนซีนซัลโฟเนท (Linear Alkylbenzensulfonate
หรือ LAS) |
สารลดความตึงผิวสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ
คือ
1.
สารลดความตึงผิวประเภทแอนไอออน (anionic surfactants)
สารลดความตึงผิวประเภทนี้มีประจุไฟฟ้าลบ (-) มีความสามารถในการชำระล้างคราบสกปรกประเภทดินโคลน
ออกจากผ้าฝ้ายและเส้นใยธรรมชาติอื่นๆได้ดีเป็นพิเศษ มีฟองมาก และจะทำงานได้ดีในน้ำที่มีอุณหภูมิสูง
แต่จะใช้ได้ไม่ดีในน้ำกระด้าง
2.
สารลดความตึงผิวประเภทนอนไอออน (nonionic sufactants)
สารลดความตึงผิวนี้ไม่มีประจุไฟฟ้า มีฟองน้อย ทำงานได้ดีในทุกสภาพน้ำ
ไม่จำเป็นต้องเติมสารที่ทำให้น้ำอ่อน ดังเช่น ประเภทแอนไอออน สารประเภทนอนไออนนี้จะมีความสามารถในการชำระคราบไขมันออกจากพอลิเอสเตอร์และเส้นใยสังเคราะห์อื่นๆ
ได้ดีเป็นพิเศษ
3.
สารลดความตึงผิวประเภทแคตไอออน (cationic surfactants) สารลดความตึงผิวประเภทนี้มีประจุไฟฟ้าบวก
(+) นิยมผสมในน้ำยาปรับผ้านุ่ม (fabric softeners) มากกว่าสารซักฟอกเพราะ
ประจุไฟฟ้าบวกจะไปช่วยทำให้เกิดความสมดุลหลังจากเสื้อผ้าได้รับประจุไฟฟ้าลบในระหว่างการซัก
|
2.
สารลดความกระด้างของน้ำ สารนี้ไม่ได้ช่วยให้สิ่งสกปรกหลุดออกจากเนื้อผ้าโดยตรง
แต่จะช่วยให้สารลดแรงตึงผิวมีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยจะรักษาสมดุลความเป็นกรดด่างของน้ำ
และช่วยทำให้น้ำลดความกระด้างลง จึงทำให้สิ่งสกปรกหลุดออกจากเนื้อผ้าได้โดยง่าย
สารที่ผู้ผลิตนิยมใช้กันมากที่สุดก็คือ โซเดียมไทรโพลิฟอสเฟต
(Sodium Tripolyphosphate : STPP)
|
Sodium Tripolyphosphate
: STPP |
สารนี้ใส่เพื่อลดความกระด้างของน้ำ เป็นตัวช่วยให้น้ำเป็นด่างเพื่อให้ผงซักฟอกทำงานดีขึ้น
และเป็นตัวกันสิ่งสกปรกที่หลุดออกไม่ให้กลับมาจับที่ผ้าอีก สารนี้ลดความกระด้างได้ผลเป็นอย่างดี
แต่เป็นสารที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยทำให้เกิดปรากฏการณ์ ยูโทรฟิเคชั่น
(Eutrophication) ในแหล่งน้ำ จึงได้มีการพัฒนาสารตัวใหม่ขึ้นมาแทนหลายชนิด
ได้แก่ |
- เกลือของกรดไนทริไทรแอซิติก (NTA)
|
|
- เกลือของกรดโพลิคาร์บอกซิลิก (Polucaboxulic
Acid : PAC)
|
|
- ซีโอไลต์ ผงซักฟอกในประเทศไทยบางสูตรนิยมใช้สารชนิดนี้แทนสาร
STPP
|
3. สารป้องกันการตกตะกอน
ใส่เพื่อมิให้เกิดตะกอนขึ้นระหว่างองค์ประกอบ ต่างๆปัจจุบันใช้โซเดียมคาร์บอกซิเมทิลเซลลูโลส
(Sodium carboxymethyl cellulose) |
4. สารที่ทำหน้าที่กันสนิมหรือรักษาความเป็นด่าง
สารนี้จะรักษาความเป็นด่างของผงซักฟอกตลอดการซักทำให้ ผงซักฟอกไม่กัดภาชนะที่ซัก
และช่วยทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสารลดแรงตึงผิว ได้แก่ โซเดียมซิลิเกตและโซเดียมคาร์บอร์เนต |
5. สารเพิ่มความสดใส
มีคุณสมบัติดูดกลืนรังสีอุลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ทำให้เกิดการเรืองแสงและสะท้อนเข้าตา
ทำให้ดูเหมือนผ้าขาวสดใส |
6.สารอื่นๆ |
|
|
|
|