10:30 - 16:00 - การนำเสนอและShowcase เรื่อง จุดประกายความคิด ต่อยอดสู่ธุรกิจด้วย IoT-NETPIE

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (Internet of Things หรือ IoT) กลายมาเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อการขยายตัวของอุปกรณ์ หรือ “things” ที่เชื่อมต่อเข้ากับระบบต่างๆ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม การพัฒนาเทคโนโลยี IoT บนแพลตฟอร์ม NETPIE ซึ่งเป็นระบบหลังบ้าน จะช่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย รวมถึงช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ การจัดหาและติดตั้งเซิฟเวอร์ การติดตั้งระบบสำรอง การสร้างระบบยืนยันตัวตน การบริหารจัดการสิทธิการใช้งาน การดูแลการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การดูแลระบบให้มีความเสถียร เป็นต้น ทำให้ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ลดขั้นตอนการดำเนินงานที่ยุ่งยากและสามารถนำสินค้าออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การนำเสนอและ Showcase ในครั้งนี้จะเป็นการให้มุมมองความคิดเห็น ตั้งแต่แนวทางการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ด้วย แพลตฟอร์ม NETPIE การประยุกต์ใช้งานสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงแนวทางการลงทุนต่อยอดสู่ธุรกิจ โดยได้แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้

ช่วง Special Talk “มุมมอง......การสร้างธุรกิจใหม่ ด้วยเทคโนโลยี IoT” ชี้ให้เห็นว่าในมุมมองGlobal Trend IoT ในเวทีต่างประเทศ IoT ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับ “Things” อย่างเดียวอีกต่อไป แต่ IoT ในปัจจุบันหมายถึงภาคบริการ มีการพูดถึงว่าควรจะมีการให้บริการอะไรบ้าง ที่จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ IoT ยังเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดัน Digital Transformation ซึ่งไม่ใช่แค่ในภาคครัวเรือน แต่หมายรวมถึงภาคอุตสาหกรรมระดับประเทศ ซึ่ง IoT จะช่วยทำให้เกิด Productivity มากยิ่งขึ้น

ส่วนในมุมมองของประเทศไทย หากจะมองถึงความพร้อมที่จะก้าวสู่ธุรกิจ IoT มองว่า ธุรกิจ IoT เป็นโอกาสสำหรับธุรกิจในหลายๆ ตัว ซึ่งประเทศไทยในปัจจุบันพร้อมแล้ว  แต่การจะดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จจะต้องมีบุคลากรที่ดี การสร้างเครือข่ายในกลุ่มที่มีความสนใจลักษณะเดียวกัน การแลกเปลี่ยน และนำมาสร้างผลิตภัณฑ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจเป็น First (ผู้นำรายแรกในตลาด) Best (ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด) Cheap (ราคาถูกที่สุด) หรือ Difference (แตกต่างจากเจ้าอื่น) ก็ได้ สุดท้ายจะต้องเข้าไปคลุกคลีในกลุ่มผู้ที่ผลิตสินค้าประเภทเดียวกันกับที่เราจะขาย เพื่อศึกษาการทำตลาด และบางครั้งทำผลิตภัณฑ์มาแล้วตลาดเมืองไทยไม่ใหญ่พอก็จะต้องไปขายในต่างประเทศด้วยจึงจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้

เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเริ่มทำธุรกิจแบบ Startup ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่าชีวิตของ Startup จะเสี่ยง บางช่วงอาจไม่มีรายได้ ต้องทำงานหนัก ต้องพร้อมที่จะผิดพลาด ในตอนเริ่มต้นไม่ควรเริ่มต้นที่ “Why” เพราะจะทำให้การคิดผลิตสินค้าตื้นเขินเพราะไม่มี Vertical Knowledge การทำ Startup ผู้ทำจะต้องมี Passion ในสิ่งที่จะทำ และจะต้องเน้นในส่วนที่สนใจทำตามมุมมองของทีม มีจุดเน้น ไม่กว้างจนเกินไป การวางแผนธุรกิจไม่ควรมองว่าจะเป็น Startup ตลอดไป ควรวางแผนในระยะยาวเผื่อไว้ด้วย

สำหรับการต่อยอดจากผลงานวิจัยสู่ก้าวใหม่ด้วย NETPIE จะช่วยลดขั้นตอนการพัฒนาสินค้า IoT จากการเปิดมา 1 ปี มีผู้สนใจเข้ามาใช้บริการมากกว่า 10,000 อุปกรณ์ สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ทั้งภาคครัวเรือน อุตสาหกรรม เกษตรกรรม ขนส่งและบริการ นอกจากการพัฒนา NETPIE ให้ระบบแข็งแกร่ง ทนต่อความผิดพลาด และมี Feature ใหม่ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีการขยายความรู้ด้าน IoT กับผู้ที่สนใจ โดยมีการจัดอบรม จัดค่ายสำหรับนักศึกษา จัดการ Train the Trainer เพื่อให้ไปต่อยอดให้ความรู้ด้าน IoT ต่อไป ก้าวต่อไป NETPIE คาดหมายจะขยายการใช้งานเพื่อเชื่อมโยงสิ่งของต่างๆ ในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น Smart home, Smart farm, Industry 4.0 รวมถึงช่วยยกระดับนักพัฒนาไปเป็นผู้ประกอบการ ภายใต้ระบบ NETPIE ที่มีความเสถียร  มั่นคง ปลอดภัย

ช่วง NETPIE Developer Fair : “Inspiration Talk” เป็นการให้แรงบันดาลใจสำหรับนักพัฒนาในการเข้าสู่ระดับสากลและเข้าสู่ภาคธุรกิจ

จากนวัตกรรมสู่โลกธุรกิจ “ความสำเร็จของธุรกิจ IoT ไทย” จากประสบการณ์ของ Drivebot ซึ่งมีความตั้งใจว่าตัวเองจะทำธุรกิจส่วนตัวให้ได้ ได้แนวคิดจากเจอปัญหารถเสีย จึงคิดว่าน่าจะมี Application ที่จะบอกว่ารถเสียเพราะอะไร จึงเริ่มหาทุน มีการทำแบบสำรวจ แล้วเลือก Feature ที่ผู้ใช้งานอยากใช้ 3 Feature หลัก หลังจากนั้นจึงไปทำ Cloud Funding เพื่อระดมทุน ได้ทุนมา แล้วก็เริ่มทำ App อุปกรณ์ติดที่รถยนต์ โดยไปหาโรงงานผลิตในจีน หา Certificate มีการ Redesign App ใหม่ และพัฒนายอดมาเรื่อยๆ ซึ่งการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาให้ประสบการณ์ว่าการที่จะทำธุรกิจจะต้องทำเรื่องการสำรวจความต้องการใช้งานให้ดีๆ ควรใส่ใจเรื่อง Software ให้ดีๆ มองว่าการจะสำเร็จในการทำธุรกิจ IoT ให้เริ่มต้นก่อน อยากทำอะไรให้ลองทำ แต่ต้องไม่ทุ่มทุนมากจนทำให้เกิดความเสียหายในระยะยาว

การที่ Maker จะทำธุรกิจได้ จะต้องมี 10 หัวใจหลักคือ
1) Make a profit ต้องวางราคาขายให้ครอบคลุมต้นทุนและกำไรที่อยากได้
2) Stay in Stock ควรมีเงินที่ใช้ในการ Stock 10% ของรายได้ และของควรมีของพอสำหรับใช้ได้ประมาณ 3 เดือน
3) Buy Smart หาข้อได้เปรียบในการซื้อให้ต้นทุนต่ำที่สุด
4) Basic Business Rules ตระหนักไว้ว่าการทำสินค้าต้องเสีย Vat ภาษีสังคม เป็นต้น อย่าคิดว่ามาทำขายเล่นๆ
5) No Leeway for maker ผู้ซื้อคาดหวังสินค้าและบริการที่ดีเสมอ 
6) Be Open ลองใช้ Open Source ในการผลิต จะมีคนสนใจมาช่วยกันสร้างมากขึ้น ไม่ต้องห่วงเรื่องการลอกเลียนแบบ ถ้าคุณภาพสินค้าดี
7) Create Community ที่ดีที่สุดคือ Forum จะมีคนที่เก่งๆ เข้ามาช่วยตอบคำถามจำนวนมาก เราไม่ต้องจ้างพนักงานมาคอยตอบคำถาม
8) Design for Manufacturability เพื่อให้สามารถใช้โรงงานผลิตได้ ลดต้นทุนการผลิต
9) Marketing is your job เจ้าของกิจการสามารถเป็น Marketing สินค้าได้
10) Package Carrier มีกลยุทธ์เรื่องการส่งของ เช่น สั่งจำนวนมากส่งฟรี เป็นต้น

NETPIE Developer Fair : Share & Vote มีการนำเสนอและแข่งขันผลงานการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ IoT ที่ใช้แพลตฟอร์ม NETPIE โดยมีทีมที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าแข่งขันจำนวน 8 ทีม ทีมโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เพชรบุรี เครื่องพิมพ์อักษรเบรลล์ระบบ Internet of Things ได้รับรางวัลความคิดสร้างสรรค์ ส่วนทีมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก แอปพลิเคชั่นแอนดรอยควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยเสียงผ่านระบบคลาวด์ ได้รับรางวัลผลงานน่าลงทุน

ดูเพิ่มเติมบน Youtube