phorum - SchoolNet Web board - ข่าวหรือนิยาย กรณีเรื่องครูสาว

ตั้งกระทู้ใหม่ | กลับไปหน้าแรก | กลับไปยังกระทู้หลัก | แสดงกระทู้แบบรายการ | ค้นหา

กระทู้ใหม่ | กระทู้เก่า

ข่าวหรือนิยาย กรณีเรื่องครูสาว

ชื่อผู้เขียน: อ.แสงเพชร (202.29.4.---) วันที่: 01-20-03 17:04 ผมเองตอนเรียนหนังสือได้ทำหน้าที่เป็นสื่อมวลชน แม้จะอยู่ในต่างจังหวัด หนือสือพิมพ์ที่ผมทำก้ไม่ได้นั่งเทียนเขียนเอาสำนวนนิยายมาใส่ เอามันเข้าว่าเหมือนสมัยนี้ ลองอ่านข่าว ตัดจากเวบ ของไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/thairath1/2546/page1/nov/20/p1_1.php แล้วผมจะลองติชมข่าว เอาที่สำนวนที่คิดว่าเว่อๆๆๆ ที่นักข่าวไม่ควรเขียน เพราะข่าว ควรจะเล่าเพียงว่า ใครทำอะไรที่ไหน เมื่อไหร่ กับใครบ้าง ทำนองนี้ แต่ ปัจจุบันนี้ สิ่งที่เรียกว่าจรรยาบรรณหายากขึ้นทุกที เขาขายให้ได้เงินมาก่อน ผิดถูกว่ากันทีหลัง บางครั้งเหมาะสม ไม่เหมาะสม ไม่ได้คิด เอาขึ้นหน้า 1 ทันที เช่นนางแบบเปลือยอก มันสะท้อนความรับผิดชอบ ในการนำเสนอ หรือหากมีผิดพลาด ก้หาข่าวมาแก้ไข หรือไม่กล่าวถึงที่ผิดพลาด อันเก่า แม้จะเป็นข่าวเดียวกันแต่ข้อมูลผิด .................. เนื้อข่าวข่างล่างนี้ผมจะลองใส่/// ปิดหน้าหลัง ในส่วนที่คิดว่า การเขียนข่าวไม่ควรจะมี สำนวนเหล่านี้ ควรอยู่ในนวนิยายมากกว่าข่าว เพราะข่าวคือข้อเท็จจริง ไม่ควรจะมีส่วนที่เป็นความคิดเห็น หรือความรู้สึกของคนเขียนใส่ลงไป-------------------------......... จากกรณีนางสร้อย (นามสมมติ) วัย 32 ปี ได้พา ด.ช.หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียน////ชื่อดัง////แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ เข้าแจ้ง พ.ต.ท.คเณศร์ ริ้ววิริยะ สวส.สภ.ย่อยบางปู อ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวหาว่า น.ส.หน่อย (นามสมมติ) วัย 23 ปี ครูอัตราจ้างสอนวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนเดียวกัน บังคับร่วมเพศ ในบ้านพักครูหลายครั้ง จนทำให้ลูกศิษย์/////วัยเอ๊าะ////ถึงกับซึมเศร้า เนื่องจากครูสาวออกอาการหึงหวง และบังคับร่วมเพศหลายครั้ง หลังรับแจ้งตำรวจจะประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำในรายละเอียด ส่วนครูสาว////ต้นตำรับสอนพิเศษนอกหลักสูตร////หลบหนีหน้าไปนั้น ต่อมาเมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 19 พ.ย. พ.ต.ท. คเณศร์ ริ้ววิริยะ สวส.สภ.ย่อยบางปู เจ้าของคดี ได้พา ด.ช.หนึ่งไปชี้จุดเกิดเหตุที่อ้างว่าถูกครูสาวบังคับร่วมเพศบริเวณห้องชั้น 3 ของอาคารเรียนที่จัดเป็นบ้านพักครูโดยมีนางสร้อย ผู้เป็นแม่ คอยเดินตามไม่ห่างกาย จากการตรวจสอบพบว่า ในห้องมีเพียงโต๊ะ เก้าอี้อย่างละ 1 ตัว กับเสื่อน้ำมัน 1 ผืน หลังการชี้จุด พ.ต.ท.คเณศร์ เปิดเผยว่า ตอนนี้กำลังรอผลการตรวจร่างกายของ ด.ช.หนึ่ง และผลสอบปากคำจากผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง สำหรับ น.ส.หน่อย ครูสาวตัวต้นเหตุ จะเรียกตัวมาสอบปากคำ หากไม่มาต้องขอหมายจับต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในตอนเช้าวันเดียวกันนางสร้อยได้เปิดเผยผ่านรายการทีวี "เก็บตกจากเนชั่น" ว่า หลังตกเป็นข่าวลูกชายสุขภาพจิตไม่ค่อยดี พร้อมกับเล่าถึงเบื้องหลังที่ลูกชายถูกบังคับร่วมเพศด้วยว่า วันไหนที่ถูกข่มขืนจะกลับบ้านดึก เนื่องจาก น.ส.หน่อยไม่ยอมให้กลับ เพราะกลัวคนเห็น ระยะหลังเห็นลูกชายพูดโทรศัพท์ดึกดื่น แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำยังไม่เว้น ด้วยความสงสัยจึงเค้นเอาความจริง โดยขู่ว่าหากไม่พูดความจริง ตนจะฆ่าตัวตาย ลูกชายจึงร้องไห้ ยอมคายความจริงทั้งหมดว่าครูสาว โทร.มาหาและถูกครูบังคับร่วมเพศ นางสร้อยกล่าวอีกว่า พอรุ่งขึ้นได้พาลูกชายไปพบอาจารย์ฝ่ายปกครองที่โรงเรียน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ลูกชายกลับถูกทางโรงเรียนสั่งพักการเรียน 1 เทอม ส่วนครูสาวยังคงสอนตามเดิม ลูกชายหวาดกลัวมาก ก่อนหน้านั้นครูสาวได้มาหาลูกชายที่บ้าน อ้างเป็นเพื่อน แต่ตนไม่อนุญาต ///เพราะหน้าแก่กว่ากันมาก/// ไม่เชื่อว่าเป็นเพื่อนกัน แถมยังแต่งตัวไม่สุภาพ สวมเสื้อเอวลอยจนเห็นกางเกงใน ///ไม่สวย ปากเจ่อ ตัวดำ ///อ้างว่าเก่งภาษาจะมาสอนวิชาภาษาอังกฤษให้ลูกชาย แต่เห็นลักษณะแล้วไม่ไว้ใจจึงปฏิเสธไป ///"หลังมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว ครูสาวยังพยายามติดต่อลูกชายเพื่อขอมีเพศสัมพันธ์อีก บางทีนัดกันไปดูหนัง แต่กว่าจะกลับบ้านก็ดึกดื่น ฉันเครียดมาก เพราะสามีโกรธที่พาลูกไปแจ้งความทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและพาลหาเรื่องทำร้าย" นางสร้อยกล่าวและบอกด้วยว่าหลังเกิดเหตุลูกชายเปลี่ยนไปเป็นคนละคน คอยจ้องแต่โทรศัพท์ทั้งวันคล้ายกับรอคนโทร.มาหา ก่อนหน้าครูสาวเคยชวนลูกชายไปอยู่หอพักด้วยกัน แต่ตนไม่ยอม อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายหญิงอยากเป็นลูกสะใภ้ต้องเข้ามาอยู่ในบ้าน แต่ต้องให้ลูกชายเรียนหนังสือด้วย/// ต่อมาเวลา 17.00 น. น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ เลขานุการ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ เดินทางไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สมุทรปราการ เขต 1 เพื่อสอบถาม ข้อเท็จจริงจากนายวิชัย จันทร์จำรูญ รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สมุทรปราการ เขต 1 ได้รับการชี้แจงว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า น.ส.หน่อยไม่ได้บังคับร่วมเพศกับ ด.ช.หนึ่ง ตามที่ถูกกล่าวหา แต่ทั้งคู่มีความสนิทสนมกันระดับหนึ่ง เนื่องจาก น.ส.หน่อยจะให้เบอร์โทรศัพท์ นักเรียน ในชั้นทุกคนสำหรับสอบถาม ปัญหาการเรียน และ ด.ช.หนึ่งเป็นเด็กที่โทร.ไปหา น.ส.หน่อยบ่อยที่สุดจนสนิทสนม วันเกิดเหตุ น.ส.หน่อยพักอยู่ในห้องพัก ด.ช.หนึ่งย่องมาหาด้านหลังแล้วกอดครูสาว จนทั้งสองฝ่ายมีการร่วมเพศ นายวิชัยกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุทั้งคู่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์บ่อยครั้ง และนานหลายชั่วโมงจนแม่ของเด็กสงสัย จึงเค้นเอาความจริงกับลูกชาย แล้วพาแจ้งตำรวจกล่าวหาครูสาว ขณะที่ฝ่ายหญิงได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นครูจ้างสอนแต่ตนระงับไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง คาดจะทราบผลในเร็วๆนี้ ส่วนเด็กนักเรียนคนนี้เท่าที่ทราบมีพฤติกรรมเจ้าชู้พอสมควร ควงนักเรียนสาวไม่ซ้ำหน้ากว่า 10 คน ต่อมาในตอนเย็นวันเดียวกัน น.ส.หน่อย ครูผู้ถูกกล่าวหาได้ให้สัมภาษณ์สดผ่านสถานีโทรทัศน์ไอทีวีว่า ข้อกล่าวหาข่มขืนเด็กไม่เป็นความจริง วันเกิดเหตุวันที่11 ต.ค. ที่ผ่านมา เป็นช่วงปิดเทอม หลังเข้าเวรเสร็จได้กลับห้องพัก ระหว่างนั้นมีคนมาเคาะประตู จึงถามกลับไปว่าใคร เด็กตอบว่า "ผมเองครับ" จึงเปิดประตูรับโดยไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กจะมาทำอะไรที่ไม่ดี คาดว่าคงมาหาครูตามปกติทั่วไป หลังเปิดประตูได้เดินไปล้างมือที่อ่างน้ำ เด็กถือโอกาสเข้ามากอดด้านหลังพยายามลวนลาม ตนพยายามขัดขืนแต่เด็กตัวโตกว่า สู้แรงไม่ไหวแต่ไม่ได้ร้องให้ใครช่วย เพราะเป็นช่วงปิดเทอม ไม่มีคนอยู่ พอบอกว่าอย่าทำเพราะกลัวตั้งท้อง เด็กบอกว่าไม่ต้องห่วง เพราะเขาใช้วิธีหลั่งข้างนอก สุดท้ายเลยมีเพศสัมพันธ์กัน ครั้งนั้นครั้งเดียวและไม่มีอีกเลย ครูสาวชี้แจงอีกว่า หลังจากนั้นเด็กเป็นฝ่ายโทร.มาหาตลอด แต่หลังเกิดเรื่องไม่ต้องการให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงพยายามหลบเลี่ยงไม่ยอมบอกใคร ส่วนกรณีที่แม่เด็กกล่าวหาว่าคุยโทรศัพท์กับเด็กถึงตี 2 นั้นไม่เป็นความจริง คุยไม่ถึงตี 2 และการพูดคุยครั้งนั้น ฝ่ายแม่เด็กบังคับให้เด็กโทร.มาหาตนเพื่อคาดคั้นเอาอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้พูดด้วย กระทั่งเรื่องถึงตำรวจและเป็นข่าวใหญ่โต เลยงงมากที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนเด็ก "ฉันเป็นผู้หญิงอายุน้อย ไม่ได้ข่มขืน แต่กลับได้รับผลกระทบทั้งที่ผู้ชายไม่ได้เสียหายตรงไหน หากแม่ของเด็กยังออกมากล่าวหาแบบนี้ ถ้าไม่สู้ปล่อยให้เลยตามเลยก็ไม่ได้ หากถึงที่สุดก็ต้องสู้ อาจจะแจ้งความกลับ หรือเรียกร้องค่าเสียหาย " ครูสาวกล่าว ++++++++++ ส่วนตรงอื่นก็เป็นการตัดตอน เอาคำพูดจากทีวี มาเรียบเรียงใหม่ ตามใจคนเขียนข่าว...โดยไม่ได้คิดว่าใครจะเสียหาบ้าง ขอให้ได้ขายได้วันละเยอะเป็นสำคัญ ท่านคิดว่าอย่างไรล่ะ