การเปรียบเทียบป่าชาเลนฟื้นฟูกับป่าชายเลนดั้งเดิม


โดย
 1. ด.ญ. สุกัญญา  เพชรเพ็ง ม. 3/1
 2. ด.ญ. รักชนก  ดวงจันทร์ ม. 3/1
3. ด.ช. ไพรัช    ศิริกุล    ม. 3/1


รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของชุมนุมนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2544
โรงเรียนดีบุกพังงาวิทยายน




                                      บทคัดย่อ
        ทรัพยากรป่าชายเลน ที่ลดลงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการถูกทำลาย จากมนุษย์เพื่อ
ประโยชน์ ในด้านต่าง ๆ จึงมีป่าชายเลนฟื้นฟูขึ้น จากการสำรวจ สิ่งมีชีวิตในป่าชายเลน
ฟื้นฟูและป่าชายเลนดั้งเดิม พบว่าป่าชายเลน สิ่งมีชีวิตในป่าชายเลนทั้ง สอง ประเภทมี
ความแตกต่างกันทั้งทางด้าน ปริมาณ คือ จำนวนและขนาด และชนิดของสิ่งมีชีวิต


                                       บทที่ 1
                                       บทนำ


ที่มาและความสำคัญ
        ด้วยจังหวัดพังงา มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะทรัพยากรป่าชายเลน ได ้
ชื่อว่ามีมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบ กับจังอื่น ๆแต่ถ้าเมื่อเทียบกับ
จังหวัดพังงาในอดีตแล้ว พบว่า พื้นที่ป่าชายเลนลดลงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมนุษย์เข้า
ไปทำลายป่าชายเลนเพื่อใช้ประโยชน์ในลักษณะต่าง ๆ กัน โดยไม่ได้วางแผนการจัดการ
ทรัพยากรธรรมชาติป่าชายเลน อย่างรอบคอบ เป็นเหตุให้ป่าเสื่อมโทรม จึงมีกลุ่มชาวบ้าน
รวมกันจัดทำโครงงานปลูกป่าชายเลน จึงเกิดป่าฟื้นฟูขึ้น ซึงกลุ่มของข้าพเจ้ามีส่วนร่วมของ
การปลูกป่า มีข้อสงสัยว่า ระหว่างป่าฟื้นฟูกับป่าดั้งเดิม ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต ระบบนิ
เวศน์แตกต่างกันอย่างไร เพื่อจะได้เป็นข้อมูล ในจัดทำแผนการจัดการทรัพยากรป่าชาย
เลนของจังหวัดพังงาในอนาคต จากเหตุผลดังกล่าว จึงทำให้เกิดโครงงาน การเปรียบเทียบ
ป่าชายเลนฟื้นฟูกับป่าชายเลนดั้งเดิม

ป่าชายเลนดั้งเดิม

ป่าชายเลนพื้นฟู

วัตถุประสงค์
1. เพื่อเปรียบสิ่งมีชีวิต และระบบนิเวศน์ ในป่าชายเลนดั้งเดิมกับป่าชายเลนฟื้นฟู
2. สังเกตพฤติกรรมของสัตว์ชนิดหนึ่งในป่าชายเลน นั้นคือ ปู

นิยามศัพท์เฉพาะ
1. สิ่งมีชีวิต คือ พืชที่เป็นพืชยืนต้น ส่วนสัตว์ที่ศึกษาเป็นสัตว์หน้าดิน
2. ระบบนิเวศ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต และสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม

ขอบเขตในการศึกษา
พื้นที่บริเวณที่เราจะศึกษาได้แก่
1. ป่าชายเลนดั้งเดิม คือ ป่าชายเลนอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา หมู่บ้านท่าด่าน ตำบลเกาะ
ปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา
2. ป่าชายเลนฟื้นฟู คือ ป่าชายเลนที่ปลูกใหม่ (ปลูกเมื่อปี พ.ศ. 2537) บริเวณหมู่ 6-8 ตำบล
บางเตย อำเภอเมือง จังหวัดพังงา



                                      บทที่ 3
                        วิธีการศึกษาและรวบรวมข้อมูล


ในการศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลได้ดำเนินการดังนี้
1.อุปกรณ์
1.ไม้หลัก 6.pH มิเตอร์
2.เชือกฟาง 7.เครื่องวัดความเค็ม
3.ไม้บรรทัด 8.ขวดเก็บตัวอย่างดิน
4.ตลับเมตร 9.ขวดเก็บตัวอย่างน้ำ
5.เทอร์โมมิเตอร์ 10.มีด

2.วิธีการศึกษา
การศึกษาแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ คือ
2.1 สำรวจลักษณะทั่วไปของพื้นที่การศึกษา
- บริเวณพื้นที่ป่าชายเลนดั้งเดิมคือ บริเวณป่าชายเลนแถบหมู่บ้านท่าด่าน ตำบล
เกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่เกดขึ้นเองตามธรรม
ชาติ เป็นเวลานานมาแล้ว
-พื้นที่ป่าชายเลนฟื้นฟู คือ ป่าชายเลนแถบหมู่บ้านบางพัฒน์ อำเภอ เมือง จังหวัดพังงา เป็นป่าเสื่อมโทรม แต่ชาวบ้านและคณะครู นักเรียน จากโรงเรียน ต่าง ๆ ได้ร่วมกันปลูก
เมื่อ ปี พ.ส. 2537 มีเนื้อที่ประมาณ 290 ไร่
2.2 การสำรวจทางชีวภาพของพื้นที่ศึกษา
การสำรวจทางชีวภาพ มีการสำรวจ ชนิด ปริมาณ ของพันธ์ไม้และสัตว์น้ำในพื้นที่ 2
แห่ง ที่ได้ไปศึกษา คือ พื้นที่ป่าดั้งเดิม และพื้นที่ป่าฟื้นฟู โดยการสุ่มตัวอย่างดังนี้
ในแต่ละพื้นที่ศึกษา จะกำหนดเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มให้มีเนื้อที่ประมาณ 25 ตาราง
เมตร ( กว้าง 5 เมตร ยาว 5 เมตร ) ในพื้นที่ 25 ตารางเมตร นั้นก็จะแบ่งออกเป็น 5 จุด ซึ่งแต่ละจุดจะแบ่งพื้นประมาณ 1 ตารางเมตรดังภาพ
        2.2.1 การสำรวจสัตว์น้ำบริเวณหน้าดิน จะสำรวจโดยการนับจำนวนของสัตว์น้ำที่
พบเห็น โดยสังเกตทุก 3 กลุ่ม และแต่ละกลุ่มจะแงเป็น 5 จุด ของพื้นที่ศึกษา เพื่อคอย
สังเกตจำนวนสัตว์ ชนิดพันธ์ของสัตว์ รวมไปถึงสังเกตพฤติกรรมของสัตว์ชนิดหนึ่งนั้น
ก็คือ ปูก้ามดาบ
การศึกษาปูก้ามดาบ จะศึกษา ลักษณะดังต่อไปนี้
1. สังเกตลักษณะทั่วไป
2. สังเกตลักษณะการเคลื่อนที่
3. สังเกตลักษณะการกิน
       2.2.2 การสำรวจพืช และพันธ์ไม้ ได้ทำการสำรวจดังนี้
- การนับจำนวน ชนิดของพันธ์พืช ในแต่ละจุดของพื้นที่สำรวจ ในแต่ละจุดของพื้นที่สำรวจ และหาค่าเฉลี่ย
- การวัดความสูงของต้นไม้ โดยการวัดจากพื้นดินถึงยอดสูงสุดและหาค่าเฉลี่ย
2.3 การเก็บข้อมูลทางกายภาพ
เป็นลักษณะการเก็บข้อมูล โดยการสังเกตแสง อุณหภูมิน้ำ อุณหภูมิอากาศ
อุณหภูมิดิน และรวมไปถึง การสังเกตลักษณะของดิน
       2.3.1 ในการสังเกตแสง ใช้เกณฑ์สามระดับดังนี้ คือ แสงมาก แสงน้อย
แสงปานกลาง โดยถือว่าแสงในห้องเรียนวันที่อากาศแจ่มใสเป็นแสงปานกลาง
       2.3.2 การวัดอุณหภูมิน้ำ ใช้เทอร์มอมิเตอร์วัดน้ำ โดยวัดในจุดย่อยทั้ง 5 จุด
ของพื้นที่สำรวจ ในพื้นที่ป่าชายเลนดั้งเดิม และพื้นที่ป่าชายเลนดั้งเดิม และพื้นที่
ป่าชายเลนฟื้นฟู ซึงเวลาในการวัด จับเวลา 2 นาที แล้วหาค่าเฉลี่ยโดยประมาณ
       2.3.3 การวัดอุณหภูมิอากาศ ทำได้โดยการใช้เทอร์มอมิเตอร์วัดตามปกติ โดย
วัดจาก ระยะห่างระหว่างพื้น ดิน ประมาณ 1 เมตร ซึ่งในการวัดจับเวลา 2 นาที แล้วหาค่าเฉลี่ยนอกจากการวัดอุณหภูมิของดินแล้ว ยังมีการสังเกตลักษณะเมล็ดดิน
และสีของดิน ลักษณะเมล็ดดิน โดยใช้มือสัมผัส
2.4 การทดสอบทางเคมี
       2.4.1 ตรวจความเป็นกรด-เบส ของน้ำ โดยเก็บตัวอย่างน้ำ ใต้ดินลึกประมาณ
15 เซนติเมตร ในบริเวณ ของแต่ละจุด ของป่าชายเลนดังเดิม และป่าชายเลนฟื้นฟู
มาหาค่า ความเป็นกรดเบส ของน้ำ ด้วย pH มิเตอร์
       2.4.2 ความเค็มของน้ำ หาได้โดย การเก็บตัวอย่างน้ำ ในดินลึกประมาณ 15 ซม. ในบริเวณของแต่ละจุด ของพื้นที่ป่าชายเลนดั้งเดิม และป่าชายเลนที่ได้รับการฟื้นฟูมา
หาค่าความเค็มของน้ำ ด้วยเครื่องมือวัดความเค็ม



                                   บทที่ 5
                               สรุปผลและอภิปลายผล

สรุป
จากการที่ได้ไปสำรวจศึกษา เปรียบเทียบป่าชายเลนฟื้นฟูกับป่าชายเลนดั้งเดิม พอสรุปได้ดังนี้
1. สิ่งมีชีวิต และระบบนิเวศ ในป่าดั้งเดิมและป่าฟื้นฟู พืช ในป่าฟื้นฟูจะมีจำนวนของต้นไม ้
มากกว่า ป่าดั้งเดิมแต่มีขนาดเล็กกว่าสัตว์ ในป่าฟื้นฟูจะมีจำนวนของสัตว์ มากกว่าป่าดั้งเดิม
ลักษณะทางกาย ในป่าดั้งเดิมมีอุณหภูมิของน้ำ ของดินและของอากาศ ต่ำกว่าบริเวณป่าฟื้นฟู ดินในป่าดั้งเดิมมีลักษณะแข็งคล้ายดินเหนียว ส่วนในป่าฟื้นฟูดินมีเมล็ดดินละเอียด
เหลวในป่าดั้งเดิมจะมีปริมาณแสงน้อยกว่าฟื้นฟู ซึ่งจะสัมพันธ์กับลักษณะสัตว์ที่ปรับตัว
ให้มีสีเข้มและคล้ำกว่าสัตว์ในป่าฟื้นฟูลักษณะทางเคมี น้ำในป่าดั้งเดิมมี ค่า pH สูงกว่า
ในป่าฟื้นฟู
2. พฤติกรรมของปูก้ามดาบ ในเพศผู้และเพศเมียจะต่างกันในเรื่องการใช้ประโยชน์จาก
ก้ามที่มีลักษณะแตกต่างกัน

อภิปรายผลการดำเนินงาน
จากการศึกษาสำรวจป่าชายเลน ทั้งป่าชายเลนดั้งเดิมละป่าชายเลนฟื้นฟู เมื่อพิจารณาแล้วมีข้อสังเกตดังนี้
1. ป่าชายเลนมีสิ่งมีชีวิต ทั้งพืชและสัตว์ ที่แตกต่างจากป่าชายเลนดั้งเดิม ทั้งด้านปริมาณ
และขนาด โดยบริเวณ ป่าดั้งเดิมมีพืชขนาดใหญ่ สูงและไม่ค่อยหนาแน่น เพราะเนื้อที่ส่วน
ใหญ่จะมีรากของโกงกาง รากของตะบูน พืชในป่าชายเลนดั้งเดิมส่วนใหญ่จะพบ ต้นตะบูน โกงกางใบเล็ก ลำพู ซึ่งมีขนาดใหญ่เพราะมีอายุมาก ส่วนป่าฟื้นฟู มีพืชขนาดเล็ก เนื่องจาก
เป็นป่า ป่าปลูกใหม่ ที่มีอายุ เพียง 7 ปีเท่านั้น ชนิดของต้นไม้ที่ปลูกมี โกงกางใบใหญ่ โกง
กางใบเล็ก แสม ส่วนต้นลำพู- ลำแพน ซึ่งเป็นไม้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จะมีขนาดใหญ่ กว่าไม้โกงกางและไม้แสมที่นำมาปลูก ซึ่งชาวบ้านอธิบายว่า เพราะไม้ลำพู -ลำแพน เป็นไม้
เนื้ออ่อน และมันเกิดเองตามธรรมชาติ จะมีขนาดใหญ่กว่าธรรมดานอกจากนั้นในช่วงที่ไป
สำรวจเป็นช่วงที่ไปสำรวจเป็นช่วง ที่ไม้ป่าชายเลนกำลังออกดอก
2. สัตว์ที่พบในป่าชายเลนดั้งเดิม จะมีปูแสมเป็นจำนวนมาก มีสีเข้ม ส่วนหอยน้ำพริก และหอยจุ๊บแจง จะเกาะอยู่ตามต้นไม้ มีขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับปลาตีน จะมีสีเขียวเข้ม
กว่า ที่พบในป่าชายเลนฟื้นฟู เนื่องจากการปรับตัว ให้เข้ากับประเทศชาติเป็นการอำพราง
ศัตรูนั้นเอง ส่วนที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ ของอาหารที่เกิด จากการทับถมของเศษใบไม้ ที่เน่าเปื่อย ทับถมกันอยู่ เป็นจำนวนมาก ส่วนการที่ป่าดั้งเดิม จะพบเห็นสัตว์น้อยกว่า ที่พบในป่าฟื้นฟู ส่วนหนึ่งอาจเกิดจาก ในป่าดั้งเดิมรกด้วย รากไม้ สัตว์หลบซ่อนได้ง่าย จึงไม่พบเห็น นอกจากสัตว์หน้าดินแล้ว ยังพบเห็นสัตว์อื่น ๆ เช่นในป่า
ฟื้นฟู มีนกส่งเสียงร้องเป็นจำนวนมาก และพบว่าในป่าดั้งเดิม มียุงเป็นจำนวนมาก ส่วนใน ป่าฟื้นฟูมีเพียงเล็กน้อย ซึงเป็นเพราะว่าในป่าฟื้นฟูมีอากาศโปร่ง แสงมากกว่า ลมก็พัดผ่าน
ยุงจึงน้อย
3. ลักษณะอากาศที่พบ ในป่าฟื้นฟูมีอุณหภูมิ ของอากาศ ของน้ำ และของดินสูงกว่า ป่าดั้ง
เดิม อธิบายได้ว่า เพราะป่าฟื้นฟูโปร่ง แสงสามารถส่งผ่านได้อย่างได้อย่างทั่วถึง ทำให้อุณ
หภูมิสูง กว่าในป่าดั้งเดิม
4. จากการสำรวจพบว่า สิ่งมีชีวิตแต่ละบริเวณ สัมพันธ์กับสภาพอากาศ และลักษณะของพื้นที่ ในแต่ละบริเวณ ที่แตกต่างกันไป ดังที่กล่าวแล้วว่า สัตว์ในป่าดั้งเดิม มีสีคล้ำ คล้ายกับสีของดิน ซึ่งมีสีดำกว่าป่าฟื้นฟูนั้นแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของระบบนิเวศในป่าชายเลนดั้งเดิม
กับระบบนิเวศในป่าฟื้นฟู ซึ่งสามรถแสดงในลักษณะ ของห่วงโซ่อาหารได้ดังนี้
5. จากการศึกษา เกี่ยวกับป่าชายเลน พบว่าข้อมูล เกี่ยวกับป่าชายเลน ในจังหวัดพังงา ยังมี
น้อยกว่า ในจังหวัดอื่น เช่น ระนอง สมุทรปราการ เพชรบุรี เป็นต้น ดังนั้น ข้อมูลนี้ อาจเป็น
ส่วนหนึ่ง ที่จะนำไปใช้ในการกำหนดแผนการ ทรัพยากรป่าชายเลนต่อไป

ข้อเสนอแนะ
1. อาจมีการศึกษา สำรวจชนิดของสัตว์ ที่พบป่าชายเลนในบริเวณอื่น ๆ และศึกษาถึง
ความหลากหลาย ของสัตว์ในแต่ละบริเวณ
2. อาจมีการศึกษาปัจจัย ที่มีผลต่อลักษณะ ของป่าชายเลน ในจังหวัดพังงา เช่น สภาพ
ลม น้ำขึ้นน้ำลง ความเค็ม ปริมาณออกซิเจนเป็นต้น

ปัญหาและอุปสรรค
1. ในป่าชายเลน มียุงและลิ้นเป็นจำนวนมาก