ความรู้เกี่ยวกับคู่ต่อสู้ (Opponent Conciousness)

ความรู้เกี่ยวกับคู่ต่อสู้นี้ ถือว่าเป็นพื้นฐานอันดับที่สามของเทนนิส

      1.  การคาดคะเน (Anticipation) นักเทนนิสหลายๆคนหลังจากที่ตีลูกไปแล้วมักจะนึกถึงท่าทางการตีของตัวเองว่าสวยหรือไม่ หรือไม่ก็นึกถึง ความรู้สึกของตัวเองว่า มีความรู้สึกที่ดีในการตีลูกหรือไม่ แทนที่จะดูว่าลูกบอลมีผลการเคลื่อนที่ การกระดอนอย่างไรในแดนคู่ต่อสู้ และคู่ต่อสู้จะตี ลูกบอลมาด้วยวิธีการใด ตีมาในทิศทางไหน สิ่งเหล่านี้คือการคาดคะเน คุณอาจจะคิดว่าการคาดคะเนนี้เป็นความรู้ที่ใช้กับผู้เล่นที่ตีเป็นแล้ว หรือกับ นักเทนนิส  แต่ผมจะสอนผู้เล่นหัดใหม่ให้รู้ถึงวิธีการฝึกดู ฝึกการคาดคะเน ซึ่งการคาดคะเนลูกบอลนี้จะช่วยให้คุณสามารถ ทายเหตุการณ์ก่อนที่จะ เกิดขึ้นอย่างมีหลักเกณฑ์ว่าคู่ต่อสู้จะตีด้วยลูกอะไร สูงระดับไหนเหนือตาข่าย ซึ่งจะส่งผลให้คุณสามารถยืนในตำแหน่งที่ถูกต้องและออกตัววิ่งไปรับลูก ได้ทันเวลา

      2.การอ่านหน้าไม้คู่ต่อสู้ โดยปกติแล้วลักษณะการวิ่งของลูกบอลนั้นขึ้นอยู่กับว่าหน้าไม้ทำมุมอย่างไรในขณะที่ปะทะกับลูกบอล เมื่อเข้าใจเช่นนี้ แล้วต่อไปคุณก็จะสามารถพัฒนาการคาดคะเนได้ 

            ในขั้นแรกของการฝึกคาดคะเนท่าทางของคู่ต่อสู้นั้น คุณควรจะฝึกมองการสวิงไม้ของคู่ต่อสู้ เช่นการสวิงไม้กว้างไปข้างหลัง คุณก็จะรู้ได้ทันทีว่า คู่ต่อสู้ของคุณต้องการที่จะตีลูกแรง หรือการสวิงไม้ไปแค่ด้านข้างตัว หรือไม่สวิงไม้เลยจะเป็นการตีลูกที่ไม่แรงหรือเป็นการตีลูกวางทาง ในขณะ เดียวกันนี้ ก็สามารถฝึกมองว่าหน้าไม้เปิดหรือปิด ถ้าหน้าไม้เปิดคุณก็สามารถบอกได้ว่าคู่ต่อสู้ของคุณจะตีด้วยลูกอันเดอร์สปิน และรู้ว่าลูกบอลตกแล้ว จะกระดอนต่ำ รู้ว่าลูกบอลจะลอยบนอากาศนานและเคลื่อนที่มาช้า และถ้าหน้าไม้ปิด(คว่ำ)คุณคุณจะรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้เตรียมตัวตีลูกท็อปสปิน รู้ว่าวิถีลูกบอล จะโค้ง เมื่อลูกบอลตกพื้นจะกระดอนสูงและรู้ว่าลูกบอลจะเคลื่อนที่มาเร็ว ฉะนั้นในการเตรียมสวิงไม้ก็ควรที่จะเตรียมในท่าทางที่หน้าไม้คว่ำ เพียง  เล็กน้อย เพื่อที่คุณจะสามารถเลือกตีได้ทั้งลูกอันเดอร์สปิน และลูกท็อปสปินเพราะการเตรียมตัวด้วยการหงายหน้าไม้จะทำให้คู่ต่อสู้มองเห็นได้ ชัดเจนว่า คุณตั้งใจจะตีตัดใต้ลูก คุณควรที่จะเช็คท่าทางหลังจากที่คู่ต่อสู้ตีลูกบอลไปแล้วด้วยว่าจะหยุดไม้อย่างไร เช่นถ้าหยุดโดยสันไม้ตั้งฉากกับพื้น ก็แสดงว่าเป็นการตีด้วยลูกท็อปสปิน และถ้าหยุดโดยเอ็นบนไม้ขนานกับพื้น ก็แสดงว่าเป็นการตีด้วยลูกอันเดอร์สปิน การเช็คดูการวางเท้าของคู่ต่อสู้ ก่อนตี เช่นในท่าแบคแฮนด์ ถ้าคู่ต่อสู้ของคุณวางเท้าแบบเปิดเท้า(สำหรับผู้เล่นที่ถนัดมือขวาโดยปลายเท้าชี้ไปในทิศทางตาข่าย) คุณจะสามารถ คาดคะเนได้ทันทีว่าคู่ต่อสู้ของคุณจะตีลูกบอลไปในทิศทางทแยง เพราะว่าจะเป็นการยากที่จะตีลูกไปในทิศทางตรงด้วยการยืนแบบเปิดนี้ และถ้าคู่ ต่อสู้ของคุณวางเท้าแบบปิดเท้า คือก้าวเท้าขวาเฉียงไปทางด้านข้างเส้นข้างของสนาม คุณจะสามารถคาดคะเนได้เลยว่าคู่ต่อสู้ของคุณจะตีลูกบอลไป ในทิศทางตรงขนานเส้นข้าง

            ฉะนั้นคุณควรจะฝึกวางเท้าระหว่างสองท่าที่กล่าวมาข้างต้น คือการยืนแบบสแควร์(Square Stance) ดูรายละเอียดจากตอนที่ 9 หัวข้อที่ 2.2 เพื่อที่จะสามารถซ่อนท่าทางของคุณไม่ให้คู่ต่อสู้คาดคะเนได้ว่าคุณต้องการที่จะตีลูกบอลไปในทิศทางใดโดยปกติแล้วการที่คู่ต่อสู้ของคุณยกส้นเท้าที่ ก้าวไปข้างหน้าในขณะที่ตีลูกบอลนั้นมักจะหมายความว่าเขากำลังขาดความมั่นใจผู้เล่นหัดใหม่และผู้เล่นระดับกลาง มักจะทิ้งหัวไม้ให้ตกลงต่ำกว่า ท่าปกติ ในการสวิงไม้เพื่อตีลูกกราวน์สโตรคโด่ง(Lob)

3. การคาดคะเนจาการโยนบอลของลูกเสิร์ฟ

1. ถ้าคู่ต่อสู่ของคุณโยนลูกบอลไปทางขวามือของเขา คุณจะรู้ได้เลยว่าคู่ต่อสู้ของคุณจะเสิร์ฟด้วยวิธีการตีสไลซ์
2. ถ้าคู่ต่อสู้ของคุณโยนลูกบอลขึ้นไปตรงๆในแนวเดียวกับไหล่ขวาของเขาเมื่อเขาต้องการเสิร์ฟด้วยวิธีการตีแฟลต และท่าสุดท้าย ในการเสิร์ฟ
3. เมื่อคู่ต่อสู้ของคุณต้องการจะเสิร์ฟด้วยวิธีการตีท็อปสปิน เขาก็จะโยนลูกบอลอยู่เหนือศีรษะของเขา

           การคาดคะเนทิศทางการเสิร์ฟ จากท่าทางการยืนเตรียมเสิร์ฟ โดยสังเกตจากเท้าหลัง เช่นคนที่ถนัดมือขวายืนเสิร์ฟบนคอร์ตขวาถ้าหากว่า ปลายเท้าขวาเลยไปทางขวาของเท้าซ้าย ก็แสดงว่าคู่ต่อสู้จะเสิร์ฟฉีกลงที่มุมเส้นเสิร์ฟ ตัดกับเส้นข้าง (Side-T) และถ้าหากว่าส้นเท้าขวาเลยไปทางซ้าย ของเท้าซ้าย ก็แสดงว่าคู่ต่อสู้จะเสิร์ฟลงมุมตรงกลางคอร์ต แต่การคาดคะเนจากการยืนนี้จะไม่ได้ผล ถ้าหากว่าคู่ต่อสู้วางเท้าในตำแหน่งเดิมในการตี ทั้งตรง และฉีกข้าง ปัจจุบันยังมีนักเทนนิสหลายคนที่วางเท้าในทิศทางแตกต่างกัน ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เมื่อต้องการเปลี่ยนทิศทางในการตีเมื่อ คุณสามารถจะรู้ว่าคู่ต่อสู้จะเสิร์ฟด้วยลูกอะไรแล้ว คุณควรจะศึกษาถึงการกระดอนของลูกบอลจากลูกเสิร์ฟชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำให้คุณรับลูกเสิร์ฟได้ง่าย ยิ่งขึ้นไปอีก หมายเลข 1 คือลูกท็อปสปิน หมายเลข 2 คือลูกแฟลต หมายเลข 3 คือลูกสไลซ์

4. การคาดคะเนจากตำแหน่งของคู่ต่อสู้ เมื่อคุณทราบตำแหน่งของคู่ต่อสู้ คุณก็พอที่จะทราบว่าคู่ต่อสู้ของคุณสามารถที่จะตีลูกบอลด้วยวิธีการใด ได้บ้าง ซึ่งสถานการณ์อาจจะบีบบังคับให้คู่ต่อสู้มีเพียงหนึ่งหรือสองวิธีที่สามารถจะตีลูกบอลกลับมาได้ อาจกล่าวได้ว่าหากคุณตีลูกบอลได้ดีเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่ง บีบบังคับให้คู่ต่อสู้มีวิธีเลือกในการตีน้อยลงเท่านั้น เช่นในกรณีที่คุณตีลูกได้อย่างเฉียบคมจริงๆคู่ต่อสู้อาจจะต้องตีลูกโด่งได้อย่างเดียว หรือถ้าคุณตี ลูกบอลได้ลึกไปที่แบคแฮนด์คู่ต่อสู้ แล้วตามขึ้นหน้าตาข่าย อีกทั้งคุณยังรู้ว่าคู่ต่อสู้ตีลูกบอลทแยงไม่ดี คุณก็จะสามารถคาดคะเนได้ง่ายขึ้น ถ้าคู่ต่อสู้ ตัดสินใจจะตีลูกยิงผ่าน คุณก็เตรียมตัวดักลูกบอลจากการยิงตรงได้เลย หรือการที่คู่ต่อสู้จะตีลูกที่ใกล้ตาข่ายเพียงสามฟุต และเป็นลูกที่ต่ำ คุณก็จะรู้ได้ ทันทีว่าคู่ต่อสู้ของคุณต้องตีลูกบอลที่มีมุมโค้งมาก เพื่อให้ลูกบอลข้ามตาข่าย ในโอกาสเช่นนี้คู่ต่อสู้ของคุณอาจจะตีลูกบอลพลาดและลอยสูง มาสวยๆ หน้า ตาข่ายให้คุณตีอย่างง่ายๆเพื่อทำแต้มเลยก็เป็นได้

5.  การซ่อนท่าทางซ่อนหน้าไม้ (Disquise) เพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้รู้ล่วงหน้า คือการที่คุณสามารถเตรียมตัวในท่าเดียวกัน แต่คุณสามารถตีลูกบอลได้ทุกๆ แบบ เช่นการสวิงไม้ไปข้างหลังในท่าเดียวตลอด คุณสามารถที่จะเลือกตีด้วยลูกท็อปสปินหรืออันเดอร์สปินก็ได้ ซึ่งทำให้คู่ต่อสู้ของคุณไม่รู้ว่า คุณกำลัง จะตีด้วยลูกอะไร หรือการที่คุณจะก้าวเท้าไปตีลูกบอลทางด้านแบคแฮนด์ ถ้าหากคุณวางเท้าในลักษณะเดิมตลอดได้ ไม่ว่าคุณจะตีลูกไปในทางตรงหรือ ทางทแยง คุณก็จะทำให้คู่ต่อสู้ของคุณไม่รู้ว่าคุณกำลังจะตีไปในทิศทางใด และเมื่อคุณพัฒนาขึ้นอยู่ในระดับแข่งขันการซ่อนท่าทางซ่อน หน้าไม้จะเป็น ประโยชน์ต่อคุณมากเลยทีเดียว การซ่อนท่าทางซ่อนหน้าไม้ และการคาดคะเน ถือว่าเป็นเทคนิคขั้นสูง แต่ก็จะสอนผู้เล่นหัดใหม่ในปีแรกเลยเพราะ แนวความคิดในการสอนจะเหมือนกับการสอนนักเทนนิส เพียงแต่ว่าจะสอนในสิ่งที่ง่ายๆและเหมาะกับผู้เรียนเพื่อที่ว่าผู้เรียนจะได้รู้จักการคาดคะเน จากท่าทางและหน้าไม้ของฝ่ายตรงข้าม และสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสโตรคการตีของผู้เรียนเอง เพื่อให้รู้จักการซ่อนท่าทาง ซ่อน หน้าไม้ ในบทนีได้อธิบายให้เข้าใจในกีฬาเทนนิส โดยสอนหลักพื้นฐาน ผมหวังว่าเมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว คุณควรที่จะนำเอาความเข้าใจ ของคุณไปประยุกต์ใช้เพื่อให้เหมาะสมกับเกมของคุณเพราะไม่ได้สอนระบบแต่ผมจะสอนตามความถนัดและความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ขอย้ำว่า การสอนพื้นฐานให้กับผู้เล่นหัดใหม่จะเหมือนกับพื้นฐานของนักเทนนิสเพราะว่าพื้นฐานจะต้องใช้ได้ผลกับทุกระดับขั้น ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วก็จะไม่ เรียก ว่าพื้นฐาน เกมการเล่นเทนนิสที่ดีนั้นจะต้องถูกสร้างขึ้นจากพื้นฐานที่ถูกต้อง แต่ก็เป็นที่แน่นอนว่านักเทนนิสต้องเรียนละเอียดมากขึ้น ฝึกฝน มากขึ้น และปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อขัดเกลาเกมเทนนิสของตัวเขาเองให้ดียิ่งขึ้น