มาตรการในการตรวจสอบสำหรับลูกหยอดและการตอบโต้ลูกหยอด

( Dropshot and the Return of the Dropshot Checkpoints )

1. การตีลูกหยอด

                หัวใจสำคัญของการหยอดก็คือวิถีโค้ง ( ARC ) เพราะ

(ก)   ทำให้ลูกบอลที่ตีไปข้ามตาข่ายได้อย่างมีเปอร์เซ็นต์สูง

(ข)   ลูกหยอดไม่ใช่ลูกทำแต้มทุกครั้งไป แต่ลูกหยอดเป็นลูกที่จะนำไปสู่การทำแต้ม

การหยอดที่ดีนั้นควรตีด้วยอันเดอร์สปิน เพื่อที่จะหยุดลูกทำให้จุดกระดอนครั้งที่สองนั้นอยู่ใกล้กับจุดกระดอนครั้งที่หนึ่งมากที่สุด ซึ่งก็หมายความว่า  คู่ต่อสู้ของคุณจะต้องวิ่งเข้ามาชิดตาข่ายและถูกบีบให้ตีลูกบอลงัดขึ้นถ้าคุณยืนอยู่หน้าตาข่ายก็จะทำให้คุณวอลเล่ย์ลูกนั้นได้อย่างง่าย ๆ หรือถ้าคุณยืนอยู่ ท้ายคอร์ตก็จะทำให้คุณตีลูกผ่าน ( passing shot ) คู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายด้ายเช่นเดียวกัน การหยอดที่ดีนั้นอย่างน้อย ควรให้จุดกระดอนครั้งที่สอง หรือ แม้กระทั่งจุดกระดอนครั้งที่สามอยู่ในช่องเสิร์ฟ นักเทนนิสชาวสเปนชื่อ นายมานูเอล ซานทานา ( Manuel Santana ) อดีตแชมเปี้ยนของสเปน ตีลูกหยอดตัดด้วยอันเดอร์สปินมาก ๆ เมื่อลูกบอลกระทบพื้นถึงกับดีดกลับข้ามตาข่ายมาฝั่งเขาอีก ซึ่งเป็นลูกยากและสามารถทำแต้มได้ทันที การตีด้วย อันเดอร์สปินยังทำให้ลูกกระดอนต่ำอีกด้วย ซึ่งจะบีบให้คู่ต่อสู้ของคุณตีลูกบอลต่ำกว่าระดับแถบตาข่าย แต่ถ้าคู่ต่อสู้ของคุณตีลูกบอลได้ ใน ระดับสูงกว่า แถบตาข่ายในขณะที่เขายืนอยู่หน้าตาข่ายก็จะทำให้เขาได้เปรียบคุณถึงสองอย่าง ซึ่งเขามีโอกาสทำแต้มได้เลยทันที คุณไม่จำเป็นที่จะ สวิงไม้ไป ข้างหลังมาก ๆ ในการหยอดลูกแต่ถ้าคุณทำซ้ำอยู่แต่ในท่าเดิม คู่ต่อสู้ของคุณก็จะรู้และอ่านท่าทางคุณได้ว่าคุณกำลังจะหยอด

                วิธีการหยอดที่ถูกต้อง คุณควรที่จะตีลูกบอลให้จุดปะทะบอลอยู่หลังลูกบอลและบิดหมุนข้อมือลงใต้ลูกบอล ซึ่งจะส่งผลให้ลูกบอลหมุนกลับด้วย อันเดอร์สปิน เมื่อตีเสร็จแล้วให้หยุดไม้เทนนิสอยู่ในระดับเดียวกับจุดปะทะลูกบอล ( ระดับที่ตีง่ายก็คือระดับเอว ) หน้าไม้หงายชี้ขึ้นฟ้าและข้อศอก จะงอ ( Bend ) เล็กน้อย ในการตีลูกหยอดนี้ ข้อมือจะต้องมั่นคง ( Firm ) และหักงอ ( Flexible )  ได้

                การหยอดนั้นต้องอาศัยการสัมผัส ( Touch ) และความรู้สึก ( Feel ) ที่ดีเพราะลูกหยอดนั้นเป็นลูกที่อาศัยความนุ่มนวล ซึ่งสอนกันลำบาก มาก  สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้จากความเข้าใจเกี่ยวกับบริเวณจุดปะทะบอล ในบางวันถึงแม้คุณจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับบริเวณจุดปะทะบอลที่ดีแล้ว แต่ ก็อาจจะสูญเสียการสัมผัสที่ดีได้ เช่น ในวันที่มีลมแรงหรือขณะแข่งขันบนพื้นสนามที่เร็วหรือเมื่อคู่ต่อสู้ของคุณตีลูกมาแรงมาก หรือลูกหมุนมาก ๆ

2. ห้าเหตุการณ์ที่คุณควรจะใช้ลูกหยอดให้น้อยที่สุด

(ก)   ลูกที่โต้กลับมาแรง ๆ

(ข)   เมื่อลมเคลื่อนที่จากข้างหลังคุณไปทางคู่ต่อสู้

(ค)   เมื่อคุณแข่งขันบนพื้นสนามที่เร็ว

(ง)    ลูกที่โต้กลับมากระดอนมาสูง

(จ)    เมื่อคุณยืนอยู่หลังเส้นท้ายคอร์ต

           ในขณะที่คุณจะตีโต้ลูกเร็ว หรือเมื่อคุณแข่งขันบนพื้นสนามที่เร็วจะเป็นการยากที่จะมี ความรู้สึกกับลูกบอลจึงทำให้ยากที่จะหยอดลูก เมื่อคุณ แข่งขันบนพื้นสนามเร็วหรือขณะที่ลมพัดจากข้างหลังคุณไปทางคู่ต่อสู้ ลูกบอลก็จะแฉลบและพุ่งไปทางคู่ต่อสู้หลังจากที่กระดอนแล้ว ในขณะที่ลูกบอล กระดอนมาสูงเหนือไหล่ของคุณหรือคุณกำลังยืนอยู่หลังเส้นท้ายคอร์ตนั้น ลูกบอลก็จะใช้ระยะเวลาในการเคลื่อนที่ในอากาศมากขึ้น ทำให้คู่ต่อสู้มี เวลามากขึ้นในการที่จะเคลื่อนที่มาตีลูกบอลซึ่งเขามีโอกาสตีลูกบอลในระดับเหนือตาข่ายและมีสิทธิ์ที่จะตีลูกทำแต้มได้เลย

                หากคุณเข้าใจถึงสถานการณ์ทั้ง 5 นี้จะช่วยคุณเอ็นอย่างมากเมื่อต้องแข่งขันกับคู่ต่อสู้ที่ชอบตีลูกหยอด โดยการตีลูกบอลให้ลึกท้ายคอร์ต เอาไว้ เพื่อที่ว่าคุณจะได้มีเวลาวิ่งขึ้นมาตีลูกหยอดได้ทันหรือคุณสามารถตีลูกให้แรงขึ้นเพื่อทำลายความรู้สึกในการตีลูกหยอดของคู่ต่อสู้

3. การตีโต้ลูกกลับจากลูกหยอด ( The Return of the Dropshot )

               ในกรณีที่คู่ต่อสู้ของคุณตีลูกหยอดมาดีมาก ๆ วิธีตีโต้กลับมาก็คือการหยอดลูกกลับไปหรือการตีลูกลึกขนานเส้นข้าง ในการที่จะทำเช่นนี้ให้ได้ ผลดีก็คือการเตรียมตัวการสวิงไม้ด้วยท่าทางที่เหมือนกันซึ่งคุณสามารถที่จะซ่อน ( Disquise ) ท่าทางเพื่อที่จะตีให้ได้ทั้งสองแบบ โดยในการตีลูกให้ลึก ท้ายคอร์ตขนานเส้นข้างนั้นให้คุณตีโดยลากจุดปะทะลูกบอลให้ยาวขึ้น ส่วนในการตีลูกหยอดนั้นให้คุณบิดข้อมือลงได้ลูกบอล

4. วิธีการตรวจสอบสำหรับลูกหยอด

                4.1 เมื่อตีเสร็จแล้วให้เอ็นที่หน้าไม้หงายขึ้นฟ้า และหน้าไม้ขนานกับพื้น

                4.2 พยายามตีให้ลูกบอลกระดอนอย่างน้อย 2 ครั้งหรือจะให้ดีก็ 3-4 ครั้ง ในช่องเสิร์ฟ