ทางเลือกในการพัฒนาสมองด้วย สาร DHA
"กินปลาเถิดพี่ จะดีที่สมอง กินปลาเถิดน้อง สมองจะดี"
คำ
พูด
ที่
ครู
โรง
เรียน
อนุบาล
สอน
และ
เชิญ
ชวน
เด็ก
เล็ก
ให้
นิยม
รับ
ประทาน
ปลา
นั้น เป็น
ความ
จริง
หรือ
ไม่ ดัง
นั้น
เรื่อง
นี้
ได้
ถูก
นำ
ไป
ศึกษา
กัน
มาก
โดย
เฉพาะ
ประเทศ
ญี่ปุ่น
ใน
ช่วง
ปลาย
ปี
ที่
ผ่าน
มา ได้
มี
งาน
วิจัย
ซึ่ง
แสดง
ผล
อย่าง
ชัด
เจน
ว่า สาร DHA หรือ
กรด decosapentaenoic acid ใน
น้ำ
มัน
ปลา
มี
ส่วน
สำคัญ
ใน
การ
พัฒนา
สมอง
โดย
เฉพาะ
ด้าน
ความ
จำ
และ
การ
เรียน
รู้
ทั้ง
นี้
เชื่อ
ว่า
สาร DHA ผ่าน
เข้า
ไป
ใน
สมอง
และ
เสริม
สร้าง
การ
เจริญ
เติบ
โต
ของ
ปลาย
ประสาท
ที่
เรียก
ว่า เดนไดรต์ (dendrite) ซึ่ง
จะ
ทำ
หน้า
ที่
ถ่าย
ทอด
สัญญาณ
และ
ผ่าน
ข้อ
มูล
ระหว่าง
เซลล์
สมอง
ด้วย
กัน ทำ
ให้
เกิด
ความ
จำ
และ
การ
เรียน
รู้
สาร DHA มี
มาก
ใน
ปลา
ทะเล (deep sea fish) เช่น
ปลา
ทู
น่า ปลา
โอ
ลาย ปลา
ทู ฯลฯ การ
บริโภค
ปลา
ทะเล
ประมาณ 30 กรัม
ต่อ
วัน
และ 2 - 3 ครั้ง
ต่อ
สัปดาห์ จะ
สามารถ
เพิ่ม
กรด
ไข
มัน
จำ
เป็น
โอเมก้า
-3 ใน
อาหาร
ได้
สูง
ถึง 0.2-5.0 กรัม
ต่อ
วัน
ซึ่ง
หมาย
ถึง
ได้
รับ
สาร DHA สูง
ขึ้น
ด้วย
เนื่อง
จาก
มี
มาก
ใน
กรด
ไข
มัน
ดัง
กล่าว
สำหรับ
ใน
ประเทศ
ไทย ปลา
ทะเล
ที่
พบ
ว่า
มี
กรด
ไข
มัน
ชนิด
โอเมก้า
-3 ปริมาณ
สูง
ได้
แก่ ปลา
ทู ประมาณ 2-3 กรัม
ต่อ
เนื้อ
ปลา 100 กรัม ปลา
อี
กา ปลา
กระ
พง ปลา
ตา
เดียว มี
ประมาณ 0.5-2 กรัม
ต่อ
เนื้อ
ปลา 100 กรัม
ปัจจุบัน เป็น
ที่
ยอม
รับ
กัน
โดย
ทั่ว
ไป
ว่า
อาหาร
เป็น
ตัว
แปรสำคัญ
ที่
มี
ผล
ต่อ
การ
เกิด
และ
ป้อง
กัน
โรค
หล
ายชนิด เช่น โรค
อ้วน โรค
หลอด
เลือด หัว
ใจ
ตีบ
ตัน โรค
เบา
หวาน ฯลฯ ตลอด
จน
ยัง
สามารถ
ส่ง
ผล
ถึง
สุข
ภาพ
ของ
ผู้
บริโภค
ทั้ง
ใน
แง่
ดี
และ