เขาเกิดในปี ค.ศ.1845 ที่เมืองเลนเนป ประเทศเยอรมนี เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ทาง สาขาฟิสิกส์ ในปี ค.ศ.1869 จากมหาวิทยาลัยแห่งเมืองซูริช ในระหว่างที่เขาศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยนั้นเขา ชอบวิชาไฟฟ้า วิชาความร้อน และวิชาความยืดหยุ่นมาก
ในปี ค.ศ.1885 เขาได้เป็นศาสตราจารย์ สาขาวิชาฟิสิกส์ ประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัย Wurzburg ใน ระหว่างนั้นเขาได้ทราบข่าว เรื่องที่มีผู้ค้นพบรังสีคาโธด จึงเกิดความสนใจ และสงสัยว่า รังสีคาโธดที่มีผู้ค้น พบนั้นสามารถแผ่ออกมานอกหลอดแก้วได้หรือไม่ และนอกจากรังสีคาโธดที่ค้นพบแล้ว ยังมีสิ่งใดเกิดขึ้นอีก ในการทดลองนั้น จึงทำการทดลองเพื่อขจัดข้อสงสัย

 

เมื่อหนังสือพิมพ์ทราบข่าวจึงได้ตีพิมพ์เผยแพร่ เรื่องราวเกี่ยวกับการทดลองของเขา ทำให้เขามีชื่อ เสียงโด่งดังไปทั่วโลก ผลงานของเขาเป็นประโยชน์ต่อศาสตร์หลายแขนง ได้แก่ วงการแพทย์ ใช้ในการ ตรวจร่างกาย ตรวจรากฟัน ตรวจกระดูก และการผ่าตัด ในวงการวิทยาศาสตร์ ใช้สำหรับตรวจดูผลึกของ ธาตุ ส่วนวงการอุตสาหกรรม ใช้ตรวจดูรอยต่อของการเชื่อมโลหะ และตรวจดูเนื้อโลหะชนิดต่าง ๆ เป็นต้น
ทำให้เขาได้รับรางวัลจากผลงานดีเด่นทางสาขาฟิสิกส์ ในปี ค.ศ.1896 และได้รับเชิญให้ไปเป็น ศาสตราจารย์ สาขาฟิสิกส์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งเมืองมิวนิช ในปี ค.ศ.1900 ในปีต่อมา (ค.ศ.1901) เขาได้รับ รางวัลโนเบิลไพรซ์ (Nobel Prize) ทางสาขาฟิสิกส์เป็นคนแรก
เขาเสียชีวิตในปี ค.ศ.1923 ที่เมืองมิวนิช ประเทศเยอรมน
 
ซึ่งได้ผลการทดลองว่า ถ้าใช้หลอดแก้วบาง ๆ รังสีจะแผ่ออกมาภายนอกได้ ถ้าใช้หลอดแก้วหนารังสี จะแผ่ออกมาไม่ได้ และพบว่ามีรังสีชนิดอื่นแผ่ออกมาภายนอกหลอดแก้วด้วย รังสีชนิดนี้สามารถผ่านแผ่น ยาง และแผ่นโลหะบาง ๆ ได้ แต่เขาก็ไม่ทราบว่ามันคือรังสีอะไร จึงตั้งชื่อให้ว่า รังสีเอ็กซ์ (x-ray) หลัง จากนั้นเขาจึงทำการทดลองฉายรังสีเอ็กซ์ผ่านสิ่งของ และสิ่งมีชีวิต โดยเอาแผ่นฟิล์มใส่ไว้ในกล่องกระดาษ สีดำสนิท และเอาปืนวางไว้บนกล่อง แล้วจึงปล่อยรังสีเอ็กซ์แผ่ออกมา เมื่อนำฟิล์มไปล้าง บนฟิล์มจะ ปรากฎเป็นรูปปืนกระบอกนั้นที่มีรายละเอียดชัดเจนดีมาก
การทดลองต่อมาเขาทำตามขั้นตอนเดิม แต่เปลี่ยนมาใช้มือวางบนกล่องสีดำที่บรรจุฟิล์มไว้ภายใน แทนการใช้ปืน และเมื่อเอาฟิล์มมาล้าง จะได้ภาพของกระดูกนิ้วมือเป็นสีขาวอยู่บนแผ่นฟิล์มอย่างชัดเจน ทำให้เขาอธิบายได้ว่า รังสีเอ็กซ์นี้ ไม่สามารถส่องผ่านวัตถุที่มีความหนาแน่น มากได้ จึงทำให้ฟิล์มที่ล้าง ออกมามีส่วนที่เป็นสีขาวตามลักษณะรูปร่างของวัตถุที่เป็นต้นแบบ เนื่องจากฟิล์มส่วนที่โดนแสงนั้น เมื่อ ล้างออกมาแล้วจะเป็นสีดำตามหลักของการถ่ายภาพ เมื่อเขาได้ทำการทดลองต่อไปหลาย ๆ ครั้ง จึงสรุป ได้ว่า ธาตุที่มีมวลมาก จะดูดกลืนรังสีเอ็กซ์ได้ดีกว่าธาตุที่มีมวลน้อย หลังจากนั้นเขาจึงออกแบบ และสร้าง หลอดรังสีเอ็กซ์ ขึ้น


หลอดรังสีเอ็กซ์ ของเรินต์เกน


ที่มา : http://144.26.13.41/phyhist/roentgen.htm