การศึกษาหาข้อพิสูจน์ต่างๆทางฟิสิกส์ เน้นข้อมูลที่ได้จากการทดลอง ซึ่งจะช่วยให้สามารถอธิบายข้อสงสัยต่างๆ ของนักวิทยาศาสตร์ได้ ดังนั้นในหลักการทดลองในห้องปฏิบัติการ จะต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูล นำมาวิเคราะห์ และแปลความ สรุปผลการทดลองออกมา เมื่อเผยแพร่ออกมาและเป็นที่ยอมรับ จะนำไปสู่การสรุปเป็นทฤษฎีและกฎต่อไป ในการทดลองจำเป็นต้องมีเครื่องมือในการวัดข้อมูลอย่างละเอียดและแม่นยำ โดยข้อมูลนี้ได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative data) และ ข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative data)
ข้อมูลเชิงคุณภาพ เป็นข้อมูลที่ไม่มีขนาด ไม่สามารถวัดออกมาได้ เป็นสิ่งที่ได้จากการสังเกตของการรับรู้ทางความรู้สึก และสัมผัสเท่านั้น เช่น สี กลิ่น รส
ข้อมูลเชิงปริมาณ เป็นข้อมูลที่สามารถวัดได้เป็นปริมาณเชิงตัวเลข เช่น อุณหภูมิ ระยะทาง น้ำหนัก เป็นต้น ซึ่งก็ต้องมีเครื่องมือในการวัดที่เป็นมาตรฐานสากล จึงจะนำสิ่งที่วัดได้ มาเปรียบเทียบกันได้


ข้อมูลเชิงปริมาณนี้สามารถแสดงความสัมพันธ์ได้ด้วยสมการทางคณิตศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่ปรากฎอยู่ในทฤษฎี และกฎทางฟิสิกส์ที่ได้จากการทดลอง เราเรียกปริมาณนี้ว่า ปริมาณกายภาพ (physical quantity) แบ่งออกเป็น
ปริมาณฐาน (base unit)
ปริมาณอนุพัทธ์(derived unit)
และในการบันทึกผลการวัดข้อมูลเชิงปริมาณนี้ มักจะเป็นค่าตัวเลขและมีหน่วยวัดที่ชัดเจน เพื่อบอกปริมาณได้ว่ามากหรือน้อยเป็นจำนวนเท่าไร โดยอาศัยเครื่องมือในการวัดแบบต่างๆ ที่ได้มีการพัฒนาให้เป็นมาตรฐานสากล ตัวอย่างเช่น

คำอุปสรรคสัญลักษณ์ตัวพหุคูณ
กิโล (kilo)k103
เมกะ (mega)M106
จิกะ (giga)G109


ที่มา : หนังสือเรียนวิชาฟิสิกส์ 1 ว 422
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กระทรวงศึกษาธิการ