ปัจจุบันมีบางบริษัทผลิตตู้เย็นประหยัดไฟออกมาขายแต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเพราะตู้เย็นระบบประหยัดไฟจะมีราคาแพงกว่า ในขณะที่ผู้ซื้อร้อยละ 95
นิยมซื้อตู้เย็นทั่วไปที่มีราคาถูก
เป็นข่าวที่น่ายินดี ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ขอความร่วมมือจากบริษัทผู้ผลิตตู้เย็น 5 บริษัทใหญ่ ผลิตตู้เย็นประหยัดไฟวางจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่ต้นปี 2538 เป็นต้นมา นับเป็นปรากฎการณ์ใหม่ในตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทย เพราะแทนที่จะสู้กันเรื่องลดราคากลับหันมาสู้กันเรื่องคุณภาพและการประหยัดไฟแทน
ตู้เย็นรุ่นที่ออกสู่ตลาดสู้กันเรื่องประหยัดไฟนี้ เป็นตู้เย็นขนาด 5-6 คิว ซึ่งเป็นตู้เย็นขนาดที่ขายดีมาก มียอดขายปีละประมาณ 1 ล้านตู้ และมีสัดส่วนการขายในตลาดสูงถึง 55 เปอร์เซ็นต์
ตู้เย็นประหยัดไฟนี้ นอกจากจะมีราคาใกล้เคียงกันแล้ว แต่ละตู้จะมีสติกเกอร์มาตรฐานที่ผ่านการทดสอบจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ติดไว้ที่ตู้เย็นทุกตู้ โดยมีเนื้อหาบ่งบอกถึงประสิทธิภาพของตู้เย็นว่าจัดอยู่ในอันดับไหนใช้พลังงานไฟฟ้าปีละกี่หน่วย คิดเป็นค่าไฟฟ้ากี่บาทต่อปี ประสิทธิภาพของตู้เย็นเหล่านี้จะแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ตั้งแต่ 1-5 โดยระดับ 1 ถือเป็นระดับต่ำสุด ระดับ 2 พอใช้ ระดับ 3 ปานกลาง จะกินไฟตลอดปี 332 หน่วย ระดับ 4 ดี กินไฟ 262 หน่วยต่อปี และระดับ 5 ดีมาก กินไฟ 220 หน่วยต่อปี
สิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภคในการเลือกซื้อตู้เย็นประหยัดไฟคือปริมาณหน่วยไฟฟ้าที่ใช้และค่าไฟที่จะต้องจ่ายต่อปี ซึ่งตู้เย็นแต่ละตู้ แต่ละยี่ห้อ จะต้องติดแสดงไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ซื้อมี