เราทุกคนรู้ว่าแท่งแม่เหล็กทุกแท่งมีขั้วเหนือ และขั้วใต้ และหากเราตัดแท่ง แม่เหล็กนั้นออก
เป็นสองท่อน 4 ท่อน.....5 ท่อน.....ชิ้นแม่เหล็กแต่ละชิ้นก็จะมีขั้วเหนือและขั้ว
ใต้อยู่ร่ำไป
เมื่อเป็นเช่นนี้ นักวิทยาศาสตร์จึงมีความคิดว่าเราจะไม่มีวันพบ ขั้วแม่เหล็กเดี่ยว (magnetic monopole)
ในธรรมชาติเลย
แต่ในปี พ.ศ. 2474 นักฟิสิกส์ระดับรางวัลโนเบลชาวอังกฤษ คนหนึ่งชื่อ P.A.M. Dirac
ได้ครุ่นคิดว่า หากธรรมชาติมีประจุไฟฟ้าเดี่ยวๆ เช่น อิเล็กตรอน (electron)
และโปรตอน (proton) แล้วเหตุไฉนฟ้าจึงไม่สร้าง monopole ให้เราบ้าง เพราะ
ปรากฏการณ์แม่เหล็ก และปรากฏการณ์ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นนั้น เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีสมุฎฐานคล้ายคลึงกัน
Dirac จึงได้ตั้งสมมติฐานว่ามี monopole ในธรรมชาติ และจากสมมติฐานนี้ Dirac ก็สามารถ
ตอบคำถามๆ หนึ่งที่ได้ ทำให้คนทั้งโลกงุนงงมานานได้ว่า เหตุใดประจุไฟฟ้าที่เราพบ
ในธรรมชาติจึงมีค่าเป็นจำนวนเต็มเท่าของอิเล็กตรอน (แปลว่า ถ้าเราให้ประจุของอิเล็กตรอน
เท่ากับ e แล้วประจุที่พบทุกครั้ง จะมีค่า 1e, 2e หรือ 7e,.... แต่เราจะไม่มีวันพบประจุที่มีค่า
1.324e หรือ 6.543e.......เลย) โดย Dirac ได้ให้เหตุผลว่า การที่ประจุไฟฟ้าธรรมชาติมีค่า
เป็นจำนวนเท่าของอิเล็กตรอนนั้นเพราะเรา มี ขั้วแม่เหล็กเดี่ยว (monopole) ในธรรมชาติ นั่นเอง
จินตนาการของ Dirac นี้ได้กระตุ้นให้นักฟิสิกส์ทั่วโลก เริ่มค้นหา monopole ทั้งใน
มหาสมุทร ในอุกกาบาต ในน้ำแข็งขั้วโลก ในหินบนดวงจันทร์ ในเครื่องเร่งอนุภาค ใน ฯลฯ ถึงแม้
ตลอดระยะเวลา 66 ปีที่ผ่านมายังไม่มีใครประสบความสำเร็จเลย แต่ของนักวิทยาศาสตร์ก็ยัง
พยายามต่อไป เพราะคนที่ค้นหากับคนที่รอ