ในอดีตเมื่อหลายพันล้านปีมาแล้ว ดาวอังคารเคยมีบรรยากาศที่อบอุ่น และผิวดาวเคยมีทะเลปกคลุม ยาน Viking ที่สหรัฐ ฯ เคยส่งไปสำรวจรายงานกลับมายังโลกว่า ถึงแม้บรรยากาศของดาวอังคาร จะเจือจางกว่าโลกก็ แต่ดาวอังคารก็มีก๊าซชนิดต่าง ๆ เหมือนโลก
มนุษย์สนใจและใฝ่ฝันที่จะได้ไปเยือน ดาวอังคารมานานหลายพันปีแล้ว นักดาราศาสตร์ชาวบาบิโลนเมื่อเห็นดาวดวงนี้ มีสีแดงเรื่อ ๆ จึงตั้งชื่อว่า Nergal ซึ่งแปลว่า มรณเทพ คนจีนโบราณเรียกดาวอังคารว่า ดาวเพลิง เพราะมีสีแดง ส่วนชาวกรีกและชาวโรมันเรียกดาวนี้ว่า ดาวสงคราม
ในปี พ.ศ. 2420 G.V. Schiaparalli นักดาราศาสตร์ชาวอิตาลีได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ที่ Galileo ประดิษฐ์ขึ้นศึกษาดาวดวงนี้อย่างจริงจัง เขาได้เห็นร่องรอยการกระทบกระแทก โดยอุกกาบาตที่ผิวดาวอังคารและได้เห็นเส้นสายต่าง ๆ พาดผ่านผิวดาวอังคารมากมาย เขามีจินตนาการว่าเส้นมัว ๆ ที่เขาเห็นคือ "คลอง" ประจวบกับขณะนั้น Ferdinand de Lesseps ผู้เป็นสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ได้ประสบความสำเร็จในการขุดคลอง Suez ที่ยาว 150 กิโลเมตร โดยใช้เวลานานถึง 11 ปี ผู้คนในสมัยนั้น จึงคิดว่า "คลอง" บนดาวอังคารที่เห็นยาว 1,500 กิโลเมตรนั้น เป็นคลองที่เทวดาขุดแน่ ๆ
ข้อสรุปเช่นนี้นำมาซึ่งความแตกตื่น และเมื่อนักประพันธ์ชื่อ H.G Wells ได้แต่งนวนิยายที่เกี่ยวกับมนุษย์บนดาวอังคารว่า ได้เดินทางมารุกรานโลก คนหลายคนจึงเชื่อว่ามีมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อาศัยอยู่บนดาวอังคาร และเขาเหล่านี้