Empedocles นักปราชญชาติกรีกได เคยกลาวไววา
ทองคํ ามีอิทธิพล และอํานาจเหนือ
เหตุผลสําหรับคนบางคน
คํ ากลาวนี้เปนจริงสําหรับมนุษย
ตั้งแตสมัยโบราณ เพราะหลักฐานทางประวัติศาสตร
ไดแสดงใหเห็นวา ตัณหาของมนุษยในการที่มุงครอบครอง ทองคํ า
ไดผลักดันมนุษยใหแสวงหาอาณานิคม ทํ าสงคราม และสรางอารยธรรม ดังจะเห็นได
จากการที่พระราชวังฟาโรห แหงอียิปตมีเครื่องใชที่ทํ าดวย
ทองคํ ามากมาย และแมแต
มัมมี่ก็ยังมีการปดทองตามตัว หลักฐานลักษณะนี้แสดงใหเห็นวา ชาวอียิปตโบราณรูจัก
ทําทองคําเปลวมาตั้งแตสมัยกอนพุทธกาลถึง 2,000 ป ในคัมภีรไบเบิลของคริสตศาสนา
ก็มีเรื่องเลาวากษัตริย Solomon ทรงประทับราชบัลลังก
ที่ทํ าดวยทองคํ า
ขณะทรงตอนรับพระราชินี Sheba และนายพล Pisarro ของสเปน เมื่อไดเห็นพระราชวังทองคําของชนเผา Aztec และ Inca ไดเขาบุกปลนขน
มหาสมบัติของชนพื้นเมืองเหลานั้น นํากลับสูยุโรปจนหมดสิ้น
ปจจบันมนุษยรูจักทองคํามาทําอุปกรณ
เครื่องใชเครื่องประดับ และอุปกรณวิทยาศาสตรตางๆ
แตความพยายามใดๆ ที่จะทํ าใหทองคําทําุปฏิกิริยาเคมี กับธาตุอื่นๆ เพื่อใหมันเปนประโยชนตอมนุษย
มากขึ้น ตองประสบอุปสรรค เพราะทองคํ าเปนโลหะ
ที่มีตระกูล (noble metal) คือมันจะไมเกลือกกลั้ว
กับธาตุอื่นๆ เลย
(เหมือนดอกฟาที่ไมยอมใหชาวดินสัมผัสยังไงยังงั้น) ดังนั้นหากเราใชทองคํ าเคลือบวัสดุอะไรก็ตาม ออกซิเจน
ที่มีในอากาศ จะไมมีวันเขาทํา ปฏิกิริยา ดังนั้น
ทองคำจะสุกปลั่งและสองแสงแวววาวตลอดเวลา และนี่ก็คือเหตุผล
สํ าคัญ ที่ทํ าให้มนุษยชอบทองคำเป็นชีวิตจิตใจ
ในการที่จะตอบคําถามวา เหตุใดทองคําจึงมีคุณสมบัติเชนนี้ J.K. Norskov แหงมหาวิทยาลัยเดนมารก
ไดศึกษาปฏิกิริยา ระหวางอะตอมของไฮโดรเจนกับทองคํ า และไดพบวาเมื่ออะตอมของไฮโดรเจนเคลื่อนที่เขา
ใกลผิวที่ฉาบดวยอะตอมของทองคํ า แรงยึดเหนี่ยวที่เกิดขึ้นระหวางอะตอม
ทั้งสองจะ