header


                 Bluetooth อีกก้าวของเทคโนโลยีไร้สาย

Bluetooth ไม่ได้หมายถึง “ฟันสีฟ้า” หากแต่คือตำนานของกษัตริย์นักรบไว้กิ้งผู้ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนสแกนดิเนเวีย

เมื่อพันกว่าปีมาแล้ว ณ ดินแดนที่เป็นประเทศเดนมาร์กในปัจจุบันได้เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักร Jutland ซึ่งปกครองโดยกษัตริย์ Gorm ผู้ชรา ค.ศ.908 องค์มเหสีแห่งกษัตริย์ Gorm ได้ให้กำเนิดโอรส นามว่า Herald ผู้ซึ่งได้ถูกเลี้ยงดูและเติบโตมาในวิถีของลูกผู้ชายชาวไวกิ้งที่มีชีวิตอยู่ด้วยการล่าสัตว์และการรบโดยเฉพาะการรบทางเรือ ที่โลกรู้จักกันดีในนามของ “เรือไวกิ้ง” ที่มีหัวเป็นรูปมังกรเพื่อสร้างความน่าเกรงขาม  นักรบไวกิ้ง (Warrior Vikings) มักใช้ดาบหรือขวานเป็นอาวุธในมือเข้าประจัญกับข้าศึกส่วนมืออีกข้างถือโล่เป็นเกราะกำบังกาย การรบที่ดุเดือดและห้าวหาญทำให้ชาวไวกิ้งได้รับฉายาว่า “คนเถื่อน” พวกเขามีพระเจ้าของพวกเขาเอง จึงไม่ลังเลที่จะทำลายโบสถ์และวัดของชาวคริสต์ที่เป็นศัตรู ทำให้ถูกมองว่าเป็นพวกปีศาจ และนี่เองจึงเป็นที่มาของจินตนาการ ที่เมื่อใดที่นึกถึงชาวไวกิ้ง ต้องมีภาพของคนเพื่อนสวมหมวกเหล็กที่มีเขา (ของปีศาจ) ติดอยู่เสมอ  Harald นั้นได้เรียนศิลปะการใช้ดาบและการยิงธนูจนเชี่ยวชาญ เมื่อเติบใหญ่จึงกลายเป็นนักรบผู้สามารถ และได้ครองบัลลังก์ต่อจากบิดา ในยุคของเขานั้น อาณาจักรแถบสแกนดิเนเวีย ทั้งเดนมาร์กและนอร์เวย์ได้ถูกรวมเข้าเป็นปึกแผ่นด้วยความสามารถในด้านการรบและการเมืองการปกครองของ Herald  และเพื่อปกป้องอาณาจักรของพระองค์และเหตุผลทางยุทธศาสตร์ กษัตริย์ Harald ได้ย้ายเมืองหลวงจาก Jutland มาอยู่ที่ Roskilideใกล้กับกรุงโคเปนเฮเกนในปัจจุบัน และได้สร้างป้อมปรามการ กำแพงเมือง และสะพานตามจุดยุทธศาสตร์ต่าง ๆ และยังเป็นผู้รับเอาศาสนาคริสต์เข้าสู่ดินแดนสแกนดิเนเวียเป็นครั้งแรกอีกด้วย ความรุ่งเรืองของอาณาจักรทำให้เขาได้รับฉายาว่า Herald Blatand หรือ Harald Bluetooth ในภาษาอังกฤษ Bluetooth คำ ๆ นี้มาจากคำว่า Blatand ในภาษาเดนส์ แปลว่า บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ผู้มีผิวสีเข้ม The Great Man Who is Dark-skinned  ไม่เพียงแต่กลายเป็นตำนานของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของชาวเดนมาร์ก หากชื่อนี้ยังได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักวิจัยกลุ่มหนึ่ง นำมาใช้เป็นชื่อของเทคโนโลยีไร้สายชนิดใหม่ในนามบลูธูท (Bluetooth) ซึ่งมุ่งหมายที่จะรวบรวมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดต่าง ๆ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือให้เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน
โดยหลักการแล้ว บลูธูท คือ เทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย ซึ่งช่วยทำให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เช่น PDA (Personal Digital Assistant) โทรศัพท์มือถือ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ Palmtop สามารถสื่อสารระหว่างกัน และติดต่อกับระบบ Internet ได้ด้วย  หลักการนี้ยังได้ถูกนำไปใช้กับคอมพิวเตอร์ชนิดตั้งโต๊ะ (Desktop Computer) เพื่อให้สามารถรับส่งข้อมูลกับเครื่อง Printer และ Scanner ระยะใกล้ ๆ ได้ด้วย ทั้งนี้เพื่อให้สะดวกในการใช้งานและแก้ปัญหาเรื่องสายเคเบิลสำหรับเชื่อมโยง
ทั้งหมดนี้ ทำโดยการฝังไมโครชิพขนาดจิ๋วเข้าไปในอุปกรณ์ดิจิตอลชนิดต่าง ๆ หรือเป็นการ์ดเสียบเพิ่มเติมในกรณีที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ซึ่งโมโครชิพนี้จะทำงานร่วมกับเครื่องรับส่งคลื่นวิทยุที่ฝังอยู่ภายในอุปกรณ์เช่นกัน
Bluetooth กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานสากลสำหรับเครือข่ายไร้สายชนิดใหม่ที่เรียกว่า Personal Area Network หรือ PAN ซึ่งไม่เพียงแต่จะใช้ติดต่อระหว่างอุปกรณ์แบบไร้สายด้วยกันเท่านั้น แต่ยังสามารถทำงานร่วมกับระบบ LAN (Local Area Network) และ WAN (Wide Area Network) เช่น เครือข่ายโทรศัพท์ เครือข่าย ISDN ที่มีอยู่เดิมได้ด้วย
                   โดยหลักการแล้ว บลูธูท คือ เทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย ซึ่งช่วยทำให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เช่น PDA (Personal Digital Assistant) โทรศัพท์มือถือ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ Palmtop สามารถสื่อสารระหว่างกัน และติดต่อกับระบบ Internet ได้ด้วย  การเชื่อมต่อดังกล่าว ทำโดยติดต่อผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อที่เรียกว่า Access Point หรือ Access Device ที่ติดตั้ง Bluetooth Chip เอาไว้คาดการณ์ในทางทฤษฎีเอาไว้ว่า Access Point แต่ละตัวจะสามารถรองรับอุปกรณ์ Bluetooth
ได้ไม่ต่ำกว่า 0 ตัวในเวลาเดียวกัน

ผู้ที่คิดค้นเทคโนโลยีนี้ ในระยะเริ่มต้น คือเมื่อ 2 ปีที่แล้วประกอบด้วย Ericsson Intel Nokia IBM และ Toshiba ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้นำในแต่ละสาขาของวงการ IT จนกระทั่งขณะนี้มีผู้สนับสนุนหลักเพิ่มอีก 4 ราย คือ 3Com Lucent Motorola และ Microsoft รวมแล้วเป็น 9 บริษัท  ทั้งหมดร่วมกันพัฒนา มาตรฐานในส่วนของข้อกำหนดทางเทคนิคต่าง ๆ โดยเรียกว่า Bluetooth 1.0 Specification เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่คาดว่าจะทดสอบและแก้ไขทุกอย่างให้ลงตัวแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ การทำมาตรฐานให้ชัดเจนเช่นนี้จะทำให้เทคโนโลยี Bluetooth มีราคาที่ถูกลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน  สำหรับบริษัทที่สนใจจะเข้าร่วมผลิตอุปกรณ์ทั้งฮารด์แวร์และซอฟแวรต์ ภายใต้เทคโนโลยี Bluetooth ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มเรียกว่า Bluetooth Special Internet Group (SIG) ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้นมากกว่า 1,800 รายแล้ว และยังอยู่ในธุรกิจที่หลากหลายนับตั้งแต่ บริษัททางด้าน IT เช่น ผู้ผลิต Processor chip และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อุปกรณ์สื่อสารและโทรคมนาคม ผู้พัฒนาฟอฟต์แวร์ กระทั่งผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน รวมทั้งผู้ผลิตรถยนต์ (บริษัทใดสนใจจะสมัครเข้าเป็นสมาชิก แวะไปดูได้ที่ www. Bluetooth.com ปัจจุบันไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น)
ข้อมูลเหล่านี้ทำให้เห็นว่า Bluetooth มีอนาคตที่ค่อนข้างสดใสทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อมีการคาดการณ์ว่าภายในอีก 2 ปีข้างหน้า จำนวนโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจะมีจำนวนประมาณ 0 ล้านเครื่อง และภายในปี 05 จะมีอยู่ราว 900 ล้านเครื่อง (ข้อมูลจาก Gartners Dataquest) ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าหากไม่ถูกวิกฤติการณ์น้ำมันเล่นงาน จนเกิดเป็นวิกฤติเศรษฐกิจโลกอีกครั้งหนึ่ง!?
ที่เกริ่นมาทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะขณะนี้ Ericsson ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยี Bluetooth แล้วนั่นคือ Wireless Headset ซึ่งใช้เป็นอุปกรณ์เสริมของโทรศัพท์มือถือติดต่อกับมือถือผ่านคลื่นวิทยุ โดยไม่ต้องมีสายระโยงระยางให้เกะกะ และสามารถพูดคุยโทรศัพท์ขณะทำธุรกิจในที่ทำงาน หรือขณะขับรถยนต์ได้อย่างปลอดภัย ส่วนการโทรออกหรือใช้งานอื่น ๆ ก็สามารถทำได้โดยส่งงานด้วยเสียงพูดเท่านั้น  ส่วนโครงการหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเทคโนโลยี Bluetooth ที่คาดว่าจะตามออกมาในไม่ช้านั้น นับว่ามีมากมายไร้ขีดจำกัดทีเดียว  ยกตัวอย่างง่าย ๆ กับโทรศัพท์มือถือ (Mobile Phone) ที่ใช้เทคโนโลยี Bluetooth จะมีความสามารถรอบตัวมากขึ้น เช่น สามารถใช้เป็นเครื่อง Intercom เวลาที่อยู่ในสำนักงานหรือที่บ้านหรืออยู่ใกล้กับโทรศัพท์มือถือเครื่องอื่น คล้าย ๆ เครื่อง Walkie-Talkie ซึ่งไม่ต้องเสียค่าบริการใด ๆ หรืออาจใช้เป็นโทรศัพท์แบบไร้สาย (Portable Phone) เวลาอยู่บ้าน การโทรออกก็ทำโดยผ่าสายโทรศัพท์บ้านซึ่งค่าบริการถูกกว่าโทรศัพท์มือถือ เรียกได้ว่าเป็น Three-I-One Phone เลยทีเดียว และในทุก ๆ กรณีจะสามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตได้โดยอัตโนมัติ (Instant Internet) เพื่อรับส่งเมล์หรือท่องเว็บได้ตลอดเวลา  เครื่องไม้เครื่องมือและอุปกรณ์ในสำนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์ พริ้นเตอร์ สแกนเนอร์ แฟกว์ ตลอดจนคีย์บอร์ดและเมาท์ ก็จะไม่มีสายเชื่อมต่อให้เกะกะและมักสร้างปัญหาเสมอ ๆ เวลาที่ต้องมีการเคลื่อนย้าย  ตัวอย่างที่ดีอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถอย่างรอบด้านของเทคโนโลยี Bluetooth ก็คือ กล้องถ่ายรูปหรือกล้องถ่ายวิดีโอระบบดิจิตอลที่สามารถส่งภาพโปสการ์ด (Instant Postcard) หรือภาพวิดีโอเคลื่อนไหวต่าง ๆ จากกล้องในมือของคุณ ผ่านไปยังโทรศัพท์มือถือเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต และส่งไปให้ใครก็ได้บนโลกดิจิตอลใบนี้  ที่ออกจะเกินไปหน่อย แต่ดูล้ำสมัยเป็นโลกอนาคตดี ก็คือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น เตาอบไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า รวมทั้งเตาต้มกาแฟที่ใช้ Bluetooth Technology ซึ่งจะสามารถทำงานต่าง ๆ เช่น ดาว์นโหลดสูตรทำอาหาร หรือรับคำสั่งต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือได้ ไม่วาเจ้าของบ้านจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
จากความคาดหวังและการร่วมไม้ร่วมมือของบริษัทต่าง ๆ ในวงการคอมพิวเตอร์และวงการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง คงทำให้เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ และกลายเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรมในไม่ช้า แต่ทุกอย่างในโลกคงไม่มีอะไรแน่นอน
ย้อนกลับไปพันปีก่อน
วาระสุดท้ายของกษัตริย์ Herald Bluetooth จบลงด้วยความตายอันแสนเศร้าจากลูกธนูในการรบครั้งสุดท้ายกับกลุ่มกบฏที่นำโดยลูกชายและคนสนิทของตัวเอง เนื่องจากทางเข้ารีตเป็นคริสเตียน ร่างไร้ลมหายใจของพระองค์จึงไม่ถูกเผาไปกับเรือเช่นประเพณีของชาวไวกิ้งแต่กลับถูกฝังไว้ที่โบสถ์ในเมือง Roskilde ซึ่งเป็นอนุสรณ์ถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ตราบจนปัจจุบัน
สำหรับเทคโนโลยี Bluetooth เรื่องคงไม่จบลงอย่างเศร้าสร้อยขนาดนั้น แต่ถึงอย่างไร ก็คงต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าอนาคตของเทคโนโลยีตัวนี้จะสดใสอย่างที่คาดกันไว้หรือไม่

             ตัวอย่างที่ดีอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถอย่างรอบด้าน ของเทคโนโลยี Bluetooth ก็คือ กล้องถ่ายรูปหรือกล้องถ่ายวิดีโอระบบดิจิตอลที่ สามารถส่งภาพโปสการ์ด (Instant Postcard) หรือภาพวิดีโอเคลื่อนไหวต่าง ๆ จากกล้องในมือของคุณ ผ่านไปยังโทรศัพท์มือถือเข้าสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต และส่งไปให้ใครก็ได้บนโลกดิจิตอลใบนี้ ที่ออกจะเกินไปหน่อย แต่ดูล้ำสมัย เป็นโลกอนาคตดี ก็คือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น เตาอบไมโค เวฟ เครื่องซักผ้า รวมทั้งเตาต้มกาแฟที่ใช้ Bluetooth Technology ซึ่งจะสามารถ ทำงานต่าง ๆ เช่น ดาว์นโหลดสูตรทำอาหาร หรือรับคำสั่งต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ ได้ ไม่วาเจ้าของบ้านจะอยู่ที่ไหนก็ตาม


 

 


ที่มา : http://www.kapook.com/content/technology/story/10001.html
[ถัดไป>>] 

โดย : นาย กุศล จันฝาก, สถาบันราชภัฏสงขลา, วันที่ 29 ตุลาคม 2545