สตม.รื้อระบบบริการเน้นเชื่อมไอทีครบวงจร
ดันใช้สมาร์ทการ์ดแทนพาสสปอร์ต
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.)ตอบรับแผนไอทีรัฐบาลใหม่ ทุ่มงบเกือบ400ล้านบาทรื้อระบบงานเก่าดันใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ต่อเชื่อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับแผนบริการประชาชน หนุนงานพัฒนาการท่องเที่ยว รวมทั้งตั้งเป้าใช้ระบบแทนสมาร์ทการ์ดแทนพาสปอร์ตในอนาคต
พล.ต.ต.ดร.ชาญวุฒิ วัชรพุกก์รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือสตม.กล่าวว่าปีงบประมาณ2545สตม.ได้ยื่นของบจากสำนักงบประมาณ398ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งโครงการดังกล่าวผ่านการเห็นชอบจากการประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศหรือซีไอโอ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว อยู่ที่การพิจารณาของสำนักงบประมาณ
ตัวอย่างเช่น ระบบการตรวจสอบข้อมูลคนเข้า และออกประเทศ,ระบบการพำนักในประเทศหรือการรองรับข้อมูลของคนต่างด้าว,ระบบตรวจสอบบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีเฝ้าดูรวมถึงการเชื่อมระบบออนไลน์ในด่านตรวจคนเข้าเมืองซึ่งปัจจุบันมีด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศกว่า53ด่านแต่เชื่อมระบบออนไลน์ไม่ถึง30ด่าน
"ระบบงานใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสตม.ด้านการดำเนินการดำเนินงานส่วนความมั่นคง ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการกับประชาชนที่รวดเร็วขึ้น"รองผู้บัญชาการกล่าว
ใช้สมาร์ทการ์ดแทนพาสปอร์ต
พล.ต.ต.ดร.ชาญวุฒกล่าวว่าสำหรับการดำเนินการระหว่างประเทศนั้น ระดับรัฐมนตรีในประเทศกลุ่มสมาชิกเอเปก และอาเซียนมีแนวคิดใช้คอมพิวเตอร์มาตราฐาน และระบบซอฟแวร์มาตราฐานที่รองรับ การนำระบบบัตรอัจฉริยะ(สมาร์ทการ์ด)ที่ใช้ชิพที่มีหน่วยความจำเก็บข้อมูลของประชาชนแทนการใช้พาสปอร์ตเป็นเล่มในปัจจุบันรวมทั้งทำบัตรสมาร์ทการ์ดสามารถอ่านได้กับเครื่องอ่านบัตรและเชื่อมต่อกับข้อมูลในทุกประเทศได้คาดว่า จะเกิดขึ้นในปี2545 |