ไวรัสตับอักเสบซี เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญอีกโรคหนึ่งของประเทศไทย มีจำนวนผู้ป่วยประมาณ 1.2 ล้านคน ที่เป็นพาหนะหรือกำลังมีการติดเชื้อเรื้อรัง สำหรับอาการนั้นผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบจะมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ ซึ่งผู้ติดเชื้อหรือผู้เป็นพาหนะจะไม่รู้ตัวเองว่ามีเชื้อไวรัสตับอักเสบ เพราะโรคนี้จะไม่แสดงอาการให้เห็น ฉะนั้นการวินิจฉัยทางคลินิกจึงไม่สามารถรู้ได้ แต่จะเห็นได้บ้างในกรณีที่ผู้ป่วยรายนั้นตัวซีดเหลืองมากเท่านั้น ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้เองที่ทำให้การแพร่ของโรคเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น และทำให้ผู้ป่วยส่วนมากกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรัง หรือตับแข็ง
สำหรับการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การค้นหาผู้ป่วยที่เป็นโรคอยู่และที่เป็นพาหะของโรคให้พบ แต่ปัญหาประการหนึ่งที่พบคือการอ่านผลการตรวจที่คลาดเคลื่อน เพราะชุดตรวจโรคชนิดนี้เป็นสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งชุดตรวจดังกล่าวจะถูกผลิตขึ้นจากไวรัสสายพันธุ์เฉพาะของคนชาตินั้นๆ จึงไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรเมื่อนำมาใช้กับคนไทย อีกทั้งยังมีราคาแพงอีกด้วย
ปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาชุดตรวจไวรัสตับอักเสบซีที่มีสายพันธุ์เฉพาะสำหรับคนไทยซึ่งสามารถอ่านผลที่แม่นยำกล่าวคือ ให้ผลที่มีความไวและความจำเพาะเจาะจงได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์โดยการประยุกต์ใช้เทคนิคอีไลซ่า ELISA โดยชุดตรวจนี้จะมีราคาประมาณชุดละ 100 บาทต่อ 1 ตัวอย่างเท่านั้น ซึ่งเมื่อสามารถผลิตเป็นระดับอุตสาหกรรมได้จะทำให้การวินิจฉัยโรคมีความรวดเร็วแม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการลดการขาดดุลทางการค้าอีกด้วย
ที่มา : ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เดลินิวส์ วันที่ 25/1/02 P12
|