ประวัติรถจักรยานยนต์
วิวัติฒนาการของรถจักยานยนต์ เริ่มตั้งแต่ศตวรรษที่ 17พลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนได้แก่ ไอน้ำ รถที่ออกแบบมามีขนาดใหญ่ ต่อมาในศตวรรษที่ 18 จึงเริ่มมีการปรับปรุงให้มีขนาดเล็กลง และในศตวรรษที่ 19 ได้มีการสร้างถนนให้เพียงพอกับจำนวนของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น
ในปีพ.ศ.2419 ดร.ออตโต(Dr.Otto) ชาวเยอรมันได้สร้างเครื่องยนต์ 4 จังหวะเผาไหม้ภายในขึ้น ซึ่งก็คือเครื่องยนต์ 4 จังหวะในปัจจุบันนี้ และเชื้อเพลิงที่ใช้ในการเผาไหม้ คือเชื้อเพลิงที่มีส่วนประกอบของไฮโดรคาร์บอน(นืฃ้ำมันดิบที่นำมากลั่นเป็นน้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล)
เครื่องยนต์ที่ ดร.ออตโต คิดขึ้นมีวัฏจักรการทำงาน 4 ครั้งครบรอบการทำงาน คือ (1) จังหวะดูด (2) จังหวะอัด (3)จังหวะระเบิดหรือกำลัง (4) จังหวะคาย และเป็นเครื่องยนต์ที่จะเกิดการเผาไหม้ได้ก็โดยการจุดประการไฟ เชื้อเพลิงที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงชนิดเบา เช่น น้ำมันเบนซิน
รถจักรยานยนต์ในสมัยแรกๆ จะเป็นรถแบบสามล้อ และมีขนาดใหญ่ ต่อมาก็เป็นแบบสองล้อและมีขนาดเล็กลง เครื่งอยนต์จากที่วางตรงตำแหน่งต่างๆของรถ ก็มาเป็นวางตรงกลางระหว่างล้อหน้าและล้อหลังอย่างในปัจจุบันนี้
รถจักรยานยนต์จากยุโรปสมัยแรก ๆ ที่เข้ามาในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับลิว ฮาร์เล่ย์เดวิดสัน ไทรอัมพ์ จนกระทั่งเมี่อรถจักรยานยนต์จากประเทศญี่ปุ่นเริ่มเข้าตลาดเมืองไทย จนปัจจุบันนี้เราจะเห็นแต่รถจักรยานยนต์จากประเทศญี่ปุ่นเป็นส่วนมาก ส่วนรถจักรยานยนต์จากประเทศทางบยุโรปก็ยังมีอยู่ แต่ว่ามีราคาที่แพงกว่ามากอะไหล่หายาก จึงมีผู้สนใจเฉพาะผู้ที่รักรถจักรยานยนต์จากยุโรปจริง ๆ และผู้ที่มีกำลังเงินในการซื้อเท่านั้น
นำมาจาก หนังสือ ทฤษฎีและปฏิบัติจักรยานยนต์ ของ นาย บุญธรรม ภัทราจารุกุล
|