พิธีสมรสแบบวัฒนธรรม

การประกอบพิธีสมรสแบบวัฒนธรรมนี้ ได้กำหนดขึ้นเป็นระเบียบง่ายๆ เพื่อเป็นเกียรติและสิริมงคลแก่คู่บ่าวสาว ตลอดถึงสะดวกแก่แขกผู้มาในพิธีด้วย พิธีแบบวัฒนธรรมเป็นพิธีที่จัดต่างหากจากพิธีศาสนานิยม คือหลังจากการประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว ควรจัดในตอนบ่ายหรือตอนเย็นของวันพิธีทางศาสนาให้จัดห้องหนึ่งที่สมควรเป็นห้องพิธี และเป็นห้องโดยเฉพาะไม่ปะปนกับห้องรับแขก ไม่ต้องเป็นห้องใหญ่ก็ได้มีประตูเข้าออกคนละทางได้ยิ่งดีและมีรายละเอียดดังนี้

7.1เครื่องพิธี

7.1.1.โต๊ะหมู่บูชาพระ ตกแต่งสวยงามพอควร ตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือถ้าไม่เหมาะจะหันไปทางใดก็ได้ แต่อย่าหันไปทางทิศตะวันตกเท่านั้น ที่โต๊ะหมู่บูชามีกระถางธูปปักไว้ 3 ดอก มีเทียนอยู่ข้างกระถางธูป 1 คู่ สำหรับคู่บ่าวสาวได้จุดพร้อมกัน หน้าโต๊ะบูชาปูผ้าไว้สำหรับคู่บ่าวสาวกราบบูชาพระ

7.1.2.ตั่งรดน้ำ เป็นของเฉพาะสำหรับพิธีนี้ ประกอบด้วยที่นั่งห้อยเท้าของคู่บ่าวสาวและที่วางมือรับน้ำของคู่บ่าวสาว ถ้าไม่มีตั่งเฉพาะอย่างนี้จะใช้ตั่งหรือโต๊ะเตี้ยๆพอให้คู่บ่าวสาวขึ้นไปนั่งพับเพียบหมอบกับหมอนบนตั่งหรือโต๊ะนั่นก็ได้ ตกแต่งปูอาสนะพอสมควรหรือจะใช้โต๊ะเรียนของนักเรียนชนิดนั่งคู่แทนก็ได้ ตกแต่งปูผ้ากันความน่าเกลียดเสียพองาม ตั่งน้ำรดนี้ให้ตั้งแอบฝาห้องพิธีด้านใดด้านหนึ่ง หันหน้าทางทิศใดก็ได้ ห้ามหันไปทางทิศตะวันตกทิศเดียว ที่หน้าตั่งวางขันน้ำพานรองเปล่า ไว้ให้ตรงหน้าคู่บ่าวสาวคู่หนึ่งสำหรับรับน้ำสังข์ ห้ามใช้กระโถนรองเป็นอันขาด

7.1.3โต๊ะวางเครื่องพิธี จะเป็นโต๊ะอะไรก็ได้ขนาดพอสมควร ตั้งชิดหัวตั่งรดน้ำทางขวามือของเจ้าบ่าว มีผ้าปูโต๊ะเรียบร้อย บนโต๊ะวางเครื่องพิธี คือ หม้อน้ำมนต์ สังข์รดน้ำ พานใส่มงคลคู่สำหรับสวมศีรษะบ่าวสาว ผ้าเช็ดมือเล็กๆ ของเหล่านี้เป็นของจำเป็นใช้ในพิธี ต้องวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อย นอกนี้ห้ามวางของอื่นบนโต๊ะนี้อีก

7.1.4.โต๊ะของขวัญ

7.1.5.โต๊ะเล็กตั้งของชำร่วย

7.2เมื่อการตระเตรียมพิธีพร้อมดังกล่าวข้างต้น พอได้เวลากำหนดก็เริ่มพิธีได้ ดังต่อไปนี้

7.2.1.ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจัดให้คู่บ่าวสาวเข้าสู่ห้องพิธีนำตัวบูชาพระ ให้บ่าวสาวจุดเทียนหน้าพระคนละดอก หญิงนั่งซ้ายจุดดอกซ้าย ชายนั่งขวาจุดดอกขวา พร้อมๆกันแล้วให้ร่วมกันจุดธูปที่ปักไว้ในกระถางธูป 3 ดอกนั้นเรียบร้อยแล้วให้ทั้งคู่ก้มลงกราบพระ 3 ครั้งพร้อมๆกัน ต่อนั้นนำตัวขึ้นรดน้ำ

7.2.2ให้บ่าวสาวนั่งลงที่ตั่งรดน้ำ หญิงนั่งซ้ายชายนั่งขวาให้ทั้งคู่วางมือทั้งสองของตนลงบนที่รองหรือหมอน ฝ่ามือประนมยื่นออกให้พ้นที่รองมือหรือหมอนตรงกับขันรองน้ำมนต์ข้างล่าง ใช้กำลังศอกของตนรับน้ำหนักตัวเองไว้ ก้มศีรษะหมอบลงเล็กน้อย ควรจัดเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวฝ่ายละ 2 คน มายืนข้างหลังตั่งเพื่อนเจ้าบ่าวเป็นชายยืนหลังเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาวเป็นหญิงยืนหลังเจ้าสาว ยืนตรงเฉยๆเรียงหน้ากระดาน

7.2.3.จัดคนที่สมควรและรู้พิธี คอยทำหน้าที่ส่งน้ำสังข์ และประกอบพิธีให้ยืนข้างโต๊ะเครื่องพิธี

7.2.4.ต่อนั้นเริ่มพิธีโดยเชิญผู้ใหญ่ที่เป็นประธานมาประกอบพิธีนำ คือ

1.ประธานเข้ามากราบพระที่บูชา

2.รับพวงมาลัยสวมคอให้คู่บ่าวสาว

3.รับมงคลคู้มาจบประนมมืออธิฐานต่อหน้าบ่าวสาวขอให้สำคัญว่าชีวิตทั้งสองจะสัมพันธ์กันอยู่ด้วยมงคลคู่นี้ตลอดกาล เสร็จแล้วสวมที่ศีรษะของคู่บ่าวสาวคนละข้าง

4.รับสังข์บรรจุน้ำพุทธมนต์มารดบนมือของบ่าวสาวที่ประนมมือรับอยู่พร้อมทั้งอวยชัยให้พรตามสมควร

5.รับโถแป้งกระแจะเอานิ้วหัวแม่มือขวาแจะแป้งที่ผสมน้ำหอมและน้ำมนต์ไว้ แล้วพอติดนิ้วแล้วเจิมแตะลงที่หน้าผากของบ่าวสาว คนละ 1 แต้ม หรือ 3 แต้มก็ได้เท่านี้เป็นอันเสร็จพิธีนำ

ต่อนี้ เชิญแขกเข้ารดน้ำตามลำดับ โดยให้แขกรับแต่สังข์น้ำมนต์ แล้วรดลงบนมือของบ่าวสาวเท่านั้น จนทั่วแขกทุกคน ระหว่างที่รดน้ำสังข์นี้ บ่าวสาวต้องแสดงความเคารพผู้รดน้ำให้พรตนทุกคนตั้งแต่ผู้เป็นประธานมาโดยลำดับ โดยพอรดน้ำเสร็จก็ก้มศีรษะลงเล็กน้อยเท่านั้น

7.3เมื่อแขกรดน้ำกันทั่วแล้ว ผู้เป็นประธานเข้ามาทำพิธีถอดมงคลอีกครั้งหนึ่ง โดย

มายืนตรงหน้าตั่งบ่าวสาว มือทั้งสองจับมงคลบนศีรษะของบ่าวสาวข้างละมือกล่าว

คำอวยชัยให้พรพอสมควร แล้วยกมงคลขึ้นจากศีรษะบ่าวสาวพร้อมๆกัน ให้บ่าว

สาวลุกจากที่ กราบพระที่โต๊ะบูชา เป็นอันเสร็จพิธี

พิธีทั้งหมดดังกล่าวนี้ เป็นพิธีกองวัฒนธรรมใช้อยู่ในปัจจุบัน การประกอบพิธีทุกอย่างควรให้เป็นไปตามลำดับ ดังกล่าวแล้ว อย่าให้สับสนกันได้เป็นดี

ที่มา:คู่มือปฏิบัติพิธีกรรมต่างๆ ของกองวัฒนธรรม กรมการศาสนา

 

 

 



แหล่งอ้างอิง : ทองสุข มันตาทร , ศิลปะการเป็นพิธีกร , หน้า136-137

โดย : นาง มาลัย จินดาศรี, บ้านขามเปี้ย, วันที่ 18 กรกฎาคม 2545