การเรียนให้เป็นระบบ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักเรียนนักศึกษาทุกคนที่จะต้องฝึกฝนปฏิบัติ การจัดระเบียบของการเรียนจะช่วยให้สามารถผ่านการเรียนการศึกษาได้อย่างมั่นใจ และไม่เหนื่อยจนเกินไปในช่วงเวลาใกล้สอบ
สิ่งที่ควรจัดการให้เป็นระบบในการศึกษาเล่าเรียนนั้น สรุปไว้เป็นข้อ ๆ ที่สำคัญดังนี้
1. ศึกษาเล่าเรียนอย่างตั้งใจ ขั้นต้นของการศึกษาก็คือ การตั้งอกตั้งใจศึกษาในห้องเรียน เพราะเป็นการรับรู้เบื้องต้นที่สมบูรณ์ที่สุด มีครูผู้สอนเป็นผู้บรรยายอย่างละเอียด ในกรณีที่มีเวลาทบทวนวิชาที่จะเรียนในวันต่อไป ก็จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะสามารถเก็บเอาประเด็นที่สงสัยมาถามครูผู้สอนได้โดยตรงในห้องเรียน ทั้งนี้เนื่องจากเวลาเรียนในห้องเรียนนั้น อาจจะตามบทเรียนที่ครูสอนไม่ทัน หรือเกิดความเกรงใจ อับอาย ไม่กล้าไต่ถามครูผู้สอนในขณะนั้น
2. ทบทวนบทเรียนและทำการบ้าน แบบฝึกหัด การทบทวนบทเรียนนั้นอาจทำได้ภายหลังจากการเรียนประจำวันหรืออาจในช่วงเวลาว่างของประจำวัน การทบทวนบทเรียนจะช่วยให้เข้าใจเนื้อหาของการเรียนได้ดียิ่งขึ้น การทำการบ้านก็ถือเป็นการทบทวนบทเรียนอีกแบบหนึ่งที่ช่วยเสริมความเข้าใจของน้อง ๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ยิ่งในการศึกษาระดับที่สูงขึ้นไปจนถึงมัธยมด้วยแล้ว การบ้านหรือแบบฝึกหัดยิ่งเป็นส่วนที่จำเป็นมาก เพราะเปรียบเสมือนการทำข้อสอบในเวลาสอบ ข้อสอบโดยส่วนใหญ่ก็จะมีหลักการไม่ต่างไปจากแบบฝึกหัด ดังนั้น ในวิชาบางประเภทอาทิเช่น คณิตศาสตร์ การทำแบบฝึกหัดจะเป็นการทบทวนตำราที่ดีที่สุด
3. รู้จักแบ่งเวลา รู้จักรับผิดชอบ ความสำเร็จของการเรียนนั้นแยกไม่ออกจากความสำคัญของกิจกรรมด้านอื่นๆ การรู้จักเล่น เข้าหมู่เพื่อนฝูง หรือการรู้จักทำกิจกรรมภายในโรงเรียนต่าง ๆ ก็ดี ล้วนแต่เป็นสิ่งที่สนับสนุนทั้งสิ้น แต่การสนับสนุนนั้นอยู่ในเงื่อนไขของการที่น้อง ๆ ต้องรู้จักแบ่งเวลาสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ให้ถูกต้อง ต้องเป็นการประเมินเวลาที่จะต้องปฏิบัติหรือต้องทำอย่างเหมาะสม ไม่เล่นมากเกินไปหรือมุ่งแต่กิจกรรมมากเกินไป จนกระทั่งการเรียนต้องเสียไป
4. รักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์ จิตใจร่าเริง ละเว้นอบายมุขโดยเด็ดขาด การรู้จักรักษาสุขภาพอนามัยของตนให้สมบูรณ์พร้อม เป็นสิ่งที่ควรกระทำ รู้จักรับประทานอาหารให้ตรงเวลา ละเว้นจากยาเสพติดทั้งหลาย ยิ่งในยุคปัจจุบันที่บ้านเมืองกำลังก้าวสู่ความเจริญด้านวัตถุเป็นอย่างมาก จึงทำให้น่าเป็นห่วงมากๆ การรักษาสุขภาพนั้น หมายความรวมถึงการรักษาสุขอนามัยอย่างอื่น ๆ อาทิ การอาบน้ำ แปรงฟัน รู้จักรักษาเครื่องแต่งกายของตนเองให้สะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ
5. รู้จักวิเคราะห์ แก้ปัญหา ไม่หมกมุ่นและใช้อารมณ์ ปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับเพื่อน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการเล่าเรียนนั้น ดูจะเป็นปัญหาใหญ่ที่น้อง ๆ อาจจะต้องประสบอยู่ ปัญหาระหว่างเพื่อนฝูงในโรงเรียนจะเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนประการหนึ่งที่จะพบ และมีผลกระทบต่อการเรียนมากพอสมควร ทั้งนี้ เนื่องจากโรงเรียนเป็นสังคมที่กว้างใหญ่ที่สุดของชีวิตในวัยเด็กถัดจากนั้นก็ก้าวเข้าสู่ช่วงมหาวิทยาลัย ดังนั้น การประพฤติปฏิบัติตนในโรงเรียนจึงเปรียบเสมือนการฝึกฝนตนเองให้เข้ากับสังคม โดยส่วนใหญ่ไม่ยากนัก เนื่องจากความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วของวัยเยาวชน แต่ก็มีบางครั้งที่น้อง ๆ จะมีเรื่องข้อขัดแย้งกับเพื่อน ๆ บางคน ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้รู้สึกไม่สบายใจในการไปโรงเรียนหรืออาจรู้สึกเข้าไม่ได้กับเพื่อนที่โรงเรียน ปัญหานี้ควรที่จะปรึกษากับผู้ปกครอง รวมทั้งน้อง ๆ ควรที่จะสำรวจตนเองถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่าสามารถที่จะแก้ไขได้หรือไม่ การให้อภัยและการมีน้ำใจจะเป็นประเด็นใหญ่ ๆ ของการเข้าร่วมกับหมู่คณะได้เป็นอย่างดี
ชวลิต วินิจจะกูล. เรียนให้เก่ง ยุค 2000. กรุงเทพฯ : สวนหนังสือ, 2544.
|