นิทานเล่าขานตำนานเมืองลับแล

เช้าวันหนึ่งในฤดุหนาว ที่โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ เปิดเทอมวันแรก นักเรียนห้องครูแต๋งได้พูดคุยกันถึงื่องราวในระหว่างปิดเทอม ปลั๊กคุยกับท้อปว่า "ตอนปิดเทอมนะ พ่อและแม่ของฉัน พาฉันไปเที่ยวเมืองโบราณที่จังหวัดกำแพงเพชรด้วยละ" ท้อปถามปลั๊กว่า "เป็นอย่างไรละ เมืองโบราณนะ" ปลั๊กตอบท้อปไปว่า "พ่อฉันบอกว่า เมืองโบราณก็คือ เมืองที่มีร่องรอยของเมืองในสมัยโบราณที่มีแนวคูเมืองและกำแพงเมือง นับอายุได้หลายร้อยปี" ในระหว่างที่ปลั๊กคุยกับท้อปอยู่ ฝนกับแกมก็เข้ามานั่งใกล้ ๆ แกมได้ถามท้อปขึ้นว่า "คุยกันเรื่องอะไรอยู่นะ" ท้อปตอบว่า "อ๋อ ปลั๊กกำลังเล่าเรื่องเมืองโบราณให้ฟังอยู่" ฝนซึ่งนั่งฟังอยู่ใกล้ ๆ ก็พูดขึ้นว่า "แม่ของฉันเคยบอกว่าฉันว่า จังหวัดอุตรดิตถ์ของเราก็มีเมืองโบราณอยู่ตั้งหลายแห่ง" มีอยู่ที่ไหนบ้างละ" ปลั๊กถามขึ้น "ก็มีเมืองทุ่งยั้ง เมืองลับแล เมืองพิชัย เมืองตาชูชก เมืองสวางคบุรีหรือเมืองพระฝาง อ้อ แล้วก็เวียงเจ้าเงาะด้วยละ" ฝนตอบ แกมก็พูดขึ้นว่า "ตอนปิดเทอมนะ ฉันได้ไปเที่ยวน้ำตกแม่พูลด้วย และที่น้ำตกแม่ฉันก็นั่งเล่าตำนานเมืองลับแลให้ฉันฟังด้วยละ" "เล่าให้พวกเราฟังบ้างซิ" เด็กทั้ง 3 คน พูดขึ้นพร้อมกัน หลังจากนั้น แกมก็เล่าตำนานเมืองลับแลให้ทั้ง 3 คน ฟัง ซึ่งตำนานเมืองลับแลมีอยู่ว่า....




เมืองลับแลมีตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมาช้านาน ก่อนนั้น "ลับแล" เป็นเมืองมหัศจรรย์ที่มีหญิงสาวสวยอาศัยอยู่รวมกันในหมู่บ้านแห่งนี้ โดยยึดมั่นในความดีมีศีลธรรมและวาจาสัตย์ ตั้งเมืองอยู่ในภูมิประเทศที่ลี้ลับซับซ้อน คนแปลกหน้ายากที่จะดั้นด้นเข้าไปถึง ต่อมามีชายชาวเมืองทุ่งยั้ง(ปัจจุบันเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอลับแล) เกิดหลงทางเข้าไปในเมืองลับแลและได้พบกับหญิงสาวผู้หนึ่ง เกิดความรักใคร่ชอบพอกัน ฝ่ายชายจึงออกอุบายว่า หลงทางกลับบ้านไม่ได้ ฝ่ายหญิงจึงชักชวนให้อยู่ด้วยกันจนมีลูกอายุ 2 ขวบ อยู่มาวันหนึ่งหญิงสาวได้ออกไปเก็บผัก หาฟืน ส่วนฝ่ายชายอยู่บ้านเลี้ยงลูก ในขณะที่ลูกกำลังหลับสนิทก็ได้ผวาตื่นขึ้นมา ร้องไห้ไม่หยุด ฝ่ายชายจึงปลอบว่า "อย่าร้องไห้ไปเลย แม่เจ้ากลับมาแล้ว" เนื่องจากการครองเรือนในเมืองลับแล ห้ามมีการโกหกเช่นนั้น ฝ่ายชายจึงต้องออกจากหมู่บ้านไป ก่อนไปหญิงสาวได้มอบย่ามให้และกำชับว่า "ห้ามเปิดระหว่างทาง" และขณะที่เดินทางกลับชายหนุ่มทนความหนักไม่ไหวจึงเปิดย่ามดู พบว่าในย่ามเป็นขมิ้นจึงทิ้งไปเหลือไว้เพียงชิ้นเดียว เมื่อกลับมาถึงบ้านพบว่า ขมิ้นนั้นกลายเป็นทองคำ จึงเกิดความเสียดายที่เก็บกลับมาเพียงชิ้นเดียว "พ่อฉันก็เคยเล่าให้ฟังเหมือนกัน แต่นานมาแล้วนะ แต่ไม่เหมือนของแกมเลย" ท้อปแย้งขึ้น พ่อฉันเคยเล่าว่า "เมื่อในสมัยก่อนพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับยังหมู่บ้าน ซึ่งต่อมาเป็นชื่อเมือง คือเมืองทุ่งยั้ง พระองค์ได้แลไปยังที่ตั้งของเมืองลับแลนี้ แต่ปรากฎว่า มีต้นไม้ใหญ่บังมากมายดูเป็นที่ลี้ลับยากแก่การหยั่งรู้จึงเรียกต่อกันมาว่า "เมืองลับแล" เมื่อได้ฟังตำนานเมืองลับแลจบแล้ว เด็กทั้ง 4 คน ก็วิ่งไปหน้าเสาธง เพราะถึงเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติพอดี....















ที่มา : นิทานเรื่อง เล่าขานตำนานเมืองลับแล เอกสารประกอบการสอนในห้องศูนย์วิทยพัฒนา 2
โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ โดย อ.วิภา บุญส่ง (อ้างอิงตำนานจากหนังสือ อุตรดิตถ์ของชาติชาย มุกสง)



โดย : นาง วิภา บุญส่ง, โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ, วันที่ 3 มีนาคม 2545