ยาเสพย์ติดและการป้องกัน "ยาเสพย์ติด" เป็นภัยต่อชีวิต เป็นพิษต่อสังคม" คำกล่าวนี้ยังคงใช้ได้ดีในทุกยุคทุกสมัย เนื่องจากทุกคนต่างทราบถึงพิษร้ายของยาเสพย์ติดกันเป็นอย่างดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์อันเนื่องมาแต่สาเหตุนี้นับเป็นการสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นกับประเทศใด "ยาเสพย์ติด" หมายถึง สารเคมีหรือสารใดๆก็ตามที่เมื่อบุคคลเสพหรือรับเข้าทางร่างกายไม่ว่าโดยการฉีด สูบ กิน ดื่ม หรือวิธีอื่นๆติดต่อกันเป็นเวลานานในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งเมื่อเสพเข้าไปสักระยะหนึ่งจะทำให้ผู้เสพแสดงออกมาตามลักษณะเหล่านี้ - ผู้เสพต้องการอย่างแรงกล้าที่จะเสพชนิดนั้นต่อเนื่องไป - ผู้เสพจะเพิ่มปริมาณของยาที่เคยใช้มากขึ้นทุกระยะ - ผู้เสพจะมีความปรารถนาอยากเสพยาชนิดนั้นอย่างรุนแรงจนระงับไม่ได้ ลักษณะที่สังเกตได้ของผู้ติดยา 1. ตาโรย ขาดความกระปรี้กระเปร่า น้ำมูกน้ำตาไหล ริมฝีปากเขียวคลำ้แห้งและแตก 2. เหงื่อออกมาก กลิ่นตัวแรง พูดจาไม่สัมพันธ์กับความจริง 3. มีร่องรอยการเสพยาโดยการฉีดที่บริเวณแขนตามแนวเส้นโลหิต 4. ท้องแขนมีรอยแผลเป็นที่เกิดจากการกรีดด้วยของมีคม 5. ใส่แว่นตากรองแสงเข้มเป็นประจำเพราะม่านตาขยายและเพื่อปกปิดนัยน์ตาสีแดงก่ำ 6. มักสวมเสื้อแขนยาวปิดรอยฉีดยา พบเห็นบุคคลที่มีลักษณะเข้าข่าย 6 ประการข้างต้น ก็ไม่ควรปล่อยให้บุตรหลานของท่านร่วมเสวนาด้วย เพราะคนเหล่านี้อาจเป็นพาหะนำยาเสพย์ติดเข้ามาสู่ครอบครัวท่านก็เป็นได้ สาเ้หตุของการติดยาเสพย์ติด 1. ความอยากรู้อยากลองด้วยความคึกคะนอง 2. เพื่อนชวน หรือต้องการให้เป็นที่ยอมรับจากกลุ่มเพื่อน 3. มีความเชื่อในทางที่ผิด เช่น เชื่อว่ายาเสพย์ติดบางชนิดอาจช่วยให้สบายใจลืมความทุกข์ หรือช่วยให้ทำงานได้มาก 4. ขาดความระมัดระวังในการใช้ยา เพราะคุณสมบัติของยาบางชนิดอาจทำให้ผู้ใช้ยาเกิดการเสพย์ติดได้โดยไม่รู้ตัว 5. สภาพแวดล้อม ถิ่นที่อยู่อาศัยมีการค้ายาเสพย์ หรือมีผู้ติดยาเสพย์ติด 6. ถูกหลอกใช้ยาเสพย์ติดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ 7. เพื่อหนีปัญหา เมื่อมีปัญหาและไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับตัวเองได้
|