header

ดุสิตาชื่อสวยแฝงความตาย

ชื่อทางวิทยาศาสตร์  Utricularia delphinioides thorelex pellegrลักษณะของดุสิตา     เป็นดอกสีม่วง มีถุงลมขนาดเล็ก ขึ้นอยู่บนพื้นที่    แฉะๆเช่น เติบโตอยู่บนพรมมอส ภายในถุงมี  ประตูเปิดทางเข้าไปในถุง ผนังด้านในถุงมีประตูเปิดทางเข้าไปในถุง ผนังด้านในถุงมีหนวดเล็กราว ๕ ชุด แต่ละชุดมีหนวด ๔ เส้น

ขั้นตอนการดักแมลง  ในตอนแรกหนวดที่มีอยู่ภายในถุง จะคอยดูดน้ำในถุงออกไปข้างนอกบางส่วน ทำให้ภายในถุงเป็นกึ่งสุญญากาศ ซึ่งในขณะนั้นประตูตรงปากถุงจะยังคงปิดสนิทอยู่ ตรงปากถุงนี้จะมีขนยื่นออกมา เมื่อมีเหยื่อตัวใดว่ายเข้ามาชนขนนี้ ปากถุงก็จะเปิดออก ทำให้น้ำไหลพรั่งพรูเข้าไปในปากถุง เหยื่อก็จะถูกดูดเข้าไป หลังจากนั้นภายในถุงก็จะปล่อยน้ำย่อยออกมาย่อยเหยื่อ และดูดซึมสารอาหารไปใช้ในร่างกาย ดุสิตานั้นจะใช้เวลากินเหยื่อนาน ๑ ชั่วโมง จนถึง ๒0 วัน หลังจากนั้นก็จะทำถุงลมให้ว่าง เพื่อรอในการกินครั้งต่อไป นอกจากนี้ตรงที่ปากถุงของถุงลมจะมีต่อมผลิตเมือก และน้ำหวาน เพื่อไว้ล่อตาล่อใจแมลงเพื่อมาติดกับดักของดุสิตา

                นอกจากนี้ ยังมีพืชอีกหลายชนิดที่มีการดำรงชีวิตคล้ายกับดุสิตา ไม่ว่าจะเป็น หยาดน้ำค้างหม้อข้าวหม้อแกงลิง ซึ่งเป็นพืชกินสัตว์ที่ทุกคนรู้จักกันดี แต่หลายท่านคงสงสัยว่าทำไมพวกพืชเหล่านี้จะต้องมีการสร้างกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อทำการดักแมลงมากินเพื่อความอยู่รอด เหตุผลก็คือถ้าท่านได้ไปยืนอยู่ที่บริเวณพื้นดินที่ต้นพืชกินสัตว์ขึ้น ท่านจะสังเกตได้ว่าเป็นพื้นดินซึ่งไร้ความอุดมสมบูรณ์ เพราะขาดธาตุไนโตรเจนอย่างมาก ดังนั้นพืชเหล่านี้ต้องมีการสร้างกลยุทธ์เพื่อดักแมลง และใช้ไนโตรเจนจากสัตว์เพื่อมาเจริญเติบโต แต่ถ้าพื้นดินมีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอแล้วพืชกินสัตว์ก็ไม่จำเป็นต้องกินสัตว์เลย

                                              คำถาม

  1. ทำไมดุสิตาถึงสามารถดักแมลงได้ ทั้งๆที่ไม่มีหม้อดักแมลงเหมือนหม้อข้าวหม้อแกงลิง
  2. ตอบ เพราะบริเวณปากถุงของดุสิตาจะมีต่อมผลิตน้ำหวานไว้ล่อแมลงให้มาติดกับ

  3. ทำไมพืชกินสัตว์ต้องหาวิธีการเพื่อดักแมลง

ื             ตอบ เพราะพื้นดินที่พืชกินสัตว์ขึ้นเป็นพื้นดินที่ขาดธาตุไนโตรเจน

            



แหล่งอ้างอิง : หนังสือสารคดี FEATURE MAGAZINE,www.talaythai.com

โดย : นางสาว ฐิติพร ยศปิยะเสถียร, โรงเรียนพนัสพิทยาคาร, วันที่ 8 กันยายน 2545