ปลา ปอมปาดัวร์

ปลา ปอมปาดัวร์ . 2544 (ออนไลน์) . เข้าถึงได้จาก :
http://pet.sundayplaza.com/fish/story/discus.htm

ปลา ปอมปาดัวร์
ในปัจจุบันนี้บรรดาผู้เลี้ยงปลาสวยงามหันมานิยมเลี้ยงปลา "ปอมปาดัวร์" กันมากขึ้น แต่ยังมีบางท่านยังตัดสินใจว่า จะเลี้ยงดีหรือเปล่า สาเหตุมาจากชื่อเสียงด้านการเลี้ยง ปลา ปอมปาดัวร์ยากนั้นมีมากเหลือเกิน ผมก็เลยนำข้อมูลมาเสนอ ให้ท่านนักเลี้ยงปลามือใหม่ ได้ศึกษากัน ปอมปาดัวร์ จัดเป็นปลาสวยงามที่มีชีวิตน่าศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะพฤติกรรมของพวกมัน ต่างจากปลาชนิดอื่นๆ ดังนั้นผู้เลี้ยงควรที่จะศึกษาให้ดี มิฉะนั้นแล้วปลาราคาแพงของคุณอาจจะได้ไปสวรรค์ก่อนเวลาอันควรเป็นแน่แท้ (แล้วจะหาว่าผมไม่เตือน)เรามาดูกันก่อนว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง สิ่งแรกที่จะขาดไม่ได้คือ ตู้เลี้ยงปลา ตู้เลี้ยงควรจะมีขนาดใหญ่หน่อย เพื่อให้ปลาได้มีพื้นที่ว่ายน้ำ แนะนำว่าไม่ควรจะต่ำกว่า 36 นิ้ว ระบบกรองน้ำ เป็นแบบเครื่องกรองนอกตู้ที่มีถ่านกรอง (ถ่านสำหรับใช้กับตู้ปลา) เพื่อให้ดูดซับสารต่าง ๆ ในน้ำ และที่สำคัญมากคือ ฮีทเตอร์(Heater) หรือเครื่องปรับอุณหภูมิน้ำ ฮีทเตอร์ควรใช้แบบปรับระดับอุณหภูมิได้ เกือบลืมไปอีกอย่างต้นไม้ที่ใช้ประดับตู้ปาควรจะเป็นของจริงหรือเหมือนธรรมชาติมากที่สุด เพราะว่าต้นไม้ปลอมจะทำให้ปลาได้รับบาดเจ็บได้ในการปรับอุณหภูมิของน้ำ นอกจากจะใช้ฮีทเตอร์แล้ว คุณยังสามารถใช้อุปกรณ์อย่างอื่นมาทดแทนได้ เช่น
1. ใช้เครื่องทำน้ำร้อน ก็เครื่องที่เราใช้ทำน้ำอุ่นหรือต้มน้ำ
2. ใช้ตะเกียงน้ำมันลนใต้ตู้ปลา
3. ใช้หลอดไฟหลาย ๆ หลอด ก็สามารถช่วยได้
หลังจากเตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้วก็มาดูการเตรียมน้ำสำหรับเลี้ยงกันน้ำที่ใช้เลี้ยง ปลาปอมปาดัวร์ต้องเป็นน้ำที่สะอาด อุณหภูมิของน้ำที่ใช้เลี้ยงอยู่ระหว่าง 29-32 องศาเซลเซียส เพราะอุณหภุมิของน้ำนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับปลาปอมปาดัวร์ ถ้าต่ำกว่านี้ละก็ จะทำให้ปลาป่วยง่าย และตายในที่สุด (อันนี้ผมเจอมาแล้ว) ถ้าอุณภูมิสูงเกินไปก็จะทำให้ปลาตายได้เหมือนกันความกระด้างของน้ำ "ปอมปาดัวร์" อาศัยอยู่ในน้ำอ่อน (มีความกระด้างต่ำเราจึงต้องปรับน้ำ ให้มีความกระด้างต่ำ ด้วยสารเคมี ความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำ (pH) ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่ง ปอมปาดัวร์อาศัยอยู่ในน้ำที่มีค่า pH ประมาณ 5.5-6.8 แต่ไม่ควรเกิน 7.5ค่า pH เราสามารถปรับ โดยสารเคมี Sodium di Hydrogen phosphate หรือจะใช้น้ำยาสำเร็จรูปที่มีขายตามร้านขายปลาก็ได้ ตามที่กล่าวมานี้คุณก็จะได้น้ำที่มีคุณภาพสำหรับเลี้ยงปลาแล้วครับ ขั้นต่อมาคุณก็ปล่อยปลาลงในน้ำที่เตรียมไว้ การปล่อยนั้น ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยแช่ถุงปลาในน้ำที่เตรียมไว้ก่อนประมาณ 15-20 นาที แล้วตักน้ำในตู้ใส่ถุงปลาในอัตราส่วน 1:1 แล้วรออีกประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นก็ปล่อยลงตู้อย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันความบอบช้ำของปลาทีนี้เรามาดูเรื่องของอาหารที่ต้องให้กินว่าต้องทำอย่างไร ปอมปาดัวร์ ชอบกินสัตว์เล็กเป็นอาหาร เช่น หนอนแดง ไรสีน้ำตาล ไส้เดือนแดงเป็นตันบางคนฝึกให้กินอาหารสำเร็จรูป ในแต่ละวันควรให้อาหารประมาณ 2-5%ของน้ำหนักตัวปลา อาหารที่ให้ ถ้าเป็นอาหารสดก็ต้องทำความสะอาดด้วยน้ำด่างทับทิม และล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่มากับอาหารถ้าอาหารไม่สะอาดมีโอกาสมากที่ปลาจะติดโรคได้ง่าย และโรคส่วนมากที่จะเกิดกับปลาปอมปาดัวร์มีดังนี้
โรคที่เกิดจากปรสิตเซลล์เดียว (Protozoa)
 โรคที่เกิดจากชิโลโดเนลลา (Chilodonella sp.)
 โรคจุดขาว (White spot disease)
 โรคที่เกิดจาก คอสเตีย (Costia sp)
 โรคเห็บระฆัง (Trichodina sp.)
 โรคที่เกิดจากปลิงใส (Mono genetic trematode)
 โรคที่เกิดจากเชื้อรา (Fungus)
 โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
 โรคพุ่มพวง
 โรคขี้ขาว




โดย : นาย ปริญญา หงษ์ทอง, Rhajabhat Institue Petchburiwittayalongkorn phahonyothin Road,Kw 48 Klong Luang, วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2545