วัยเด็กร่างกายมีการเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลา จำเป็นต้องได้รับแคลเซียมในปริมาณสูง หากเด็กขาดแคลเซียมจะทำให้การเจริญเติบโตของกระดูกไม่สมบูรณ์ อาจทำให้เป็นโรคกระดูกอ่อน ตัวเตี้ยผิดปกติ โครงสร้างกระดูกแขนขา โก่งโค้งผิดรูป และอาจมีผลเสียต่อไปจนถึงวัยชรา
อาหารที่มีแคลเซียมสูงได้แก่ น้ำนม อาหารทะเล ปลาตัวเล็กที่กินได้ทั้งกระดูก หอยแครง หอยลาย กระดูกอ่อน เอ็น ไข่ ถั่ว ผักคะน้า เป็นต้น แหล่งแคลเซียมที่ร่างกายจะทำไปใช้ได้มากที่สุด คือ นม ร่างกายสามารถดูดซึมจากการดื่มนมไปใช้ได้มากกว่า 50% ขณะที่แคลเซียมจากอาหารอื่นร่างกายจะทำไปใช้เพียง 20-30% ผู้ไม่สามารถดื่มนมได้ แนะนำให้รับประทานเต้าหู้ ถั่ว และปลาตัวเล็กแทนได้
หากรับประทานอาหารต่างๆได้สัดส่วนเพียงพอก็ไม่จำเป็นต้องทานแคลเซียมสังเคราะห์เพิ่มเติม นอกจากว่ามีปัญหาเรื่องการดูดซึม มีปัญหาด้านการรับประทานอาหาร หรืออยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการขาดแคลเซียม ซึ่งการรับประทานแคลเซียมสังเคราะห์ควรอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์
ส่วนประโยชน์ของแคลเซียม ก็เช่น ช่วยให้ฟัน เล็บ เส้นผม แข็งแรง รักษาจังหวะการเต้นของหัวใจ ช่วยรักษาสมดุลของการทำงานของฮอร์โมน ช่วยระบบประสาทในการส่งสัญญาณทำงาน ช่วยลดความตึงเครียด ช่วยดูดซับวิตามิน B12 ที่ช่วยในการทำงานของประสาท ป้องกันอาการผิดปกติในวัยหมดประจำเดือน และป้องกันโรคกระดูกพรุน
ผลจากการได้รับแคลเซียมเกิดจากอาหารธรรมชาติ มักไม่ค่อยเกิด แต่การได้รับแคลเซียมสังเคราะห์ในรูปของยาเม็ด อาจทำให้เกิดอาการท้องผูก และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดนิ้วในไต นอกจากนี้แคลเซียมสังเคราะห์ มักจะเพิ่มสารอื่นเข้าไปโดยไม่จำเป็น เช่น วิตามิน C วิตามิน D ซึ่งการได้รับวิตามินมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการปวดศรีษะ และคลื่นไส้ได้
กองบรรณาธิการ. หน้าตาสุขภาพ. แม่เด็ก. 25,358 : 80-81
|