เรื่องจริงของ โลหิต
โลหิต หรือเลือด ของเหลวสีแดงข้นที่ไหลเวียนอยู่ทั่วร่างกายของเรานั้น มีความสำคัญต่อความอยู่รอดของชีวิตไมยิ่งหย่อนไปกว่าอวัยวะสำคัญอื่นๆ โลหิตเปรียบได้กับสายธารแห่งชีวิตววันใดที่สายธารเหือดแห้งชีวิตก็ถึงการอ่อนแอแลัดับศูนย์
อาจกล่าวได้ว่าเรื่องราวของโลหิตนั้นเป็นเรื่องหนึ่งที่มนุษย์ให้ความสนใจมาแต่ครั้งอดีต นับแต่มนุษย์เริ่มสังเกตเห็นว่า การที่โลหิตไหลออกจากร่างกายมากเกินไป เป็นเหตุแห่งความอ่อนแอและอาจนำมาซึ่งความตาย โลหิตจึงถูกเชื่อมโยงเข้ากับชีวิตซึ่งทำให้เกิดความเชื่อและวิธีกรรมต่างๆตามมาอีกมากมาย เช่น ข้อห้ามรับประทานโลหิตทุกชนิดของชาวยิว เนื่องงจากเชื่อว่าโลหิตคือวิญญาณ การกินโลหิตของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นจะทำให้วิญญาณของสิ่งมีชีวิตนั้นเข้ามาอยู่ในร่างกายของเราแตนายพรานนักล่าชาวนอร์เวย์กลับมีประเพณีการดื่มเลือดหมีเพื่อเพิ่มความแข็.แกร่ง คนเผ่านักล่าหัวมนุษย์ในเซลิเบสตอนกลาง (หมูเกาะอินเดียตะวันออก) ก็ดื่มโลหิตมนุษย์ด้วยกันเอง เนื่องจากมีความเชื่อว่าโลหิตมนุษย์จะทำให้มีความกล้าหาญ นอกจากนี้ การดื่มไวน์แดงและรับประทานขนมปังซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนเลือดและเนื้อของพระคริสต์ก็เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งในการประกาศตัวเป็นคริสตศาสนิกชน
ส่วนเรื่องราวของโลหิตใในแง่มุมที่เป็นวิทยาศาสตร์และวิทยาการทางการแพทย์ เริ่มต้นศึกษาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่17วิทยาการด้านโลหิตได้ก้าวหน้ามาตลอดระยะเวลากว่า 300ปี
กระบวนการห้ามโลหิต
เมื่อมีเลือดออกกระบวนการห้ามโลหิตมีสามกระบวนการหลักคือ
1.การหดตัวของเส้นเลือด
2.การหยุดเลือดโดยเกร็ดโลหิต
3.การหยุดเลือดโดย clotting factor