แสงสว่างที่ดวงจันทร์สาดส่องมายังผิวโลกเป็นแสงที่สะท้อนมาจากดวงอาทิตย์อีกต่อหนึ่ง ในคืนวันเพ็ญซึ่งเราจะเห็นผิวพื้นของดวงจันทร์ได้เต็มดวงและด้วยตาเปล่า จะเห็นรอยดำ ๆ ปรากฏทั่วไปในพื้นดินคล้ายกับเป็นรูปของกระต่ายหรือยายตำข้าว ตามความเชื่อของคนโบราณ แต่ถ้ามองดูผิวพื้นของดวงจันทร์ด้วยกล้องโทรทรรศน์แรงสูง ๆ และหุบเหวลึก ๆ อันเป็นลักษณะของภูเขาไฟที่ดับแล้วจำนวนนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ตามผิวพื้นราบยังปรากฏเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่มหึมาอีกมากมาย ซึ่งเข้าใจกันว่า เกิดจากการกระแทกอย่างแรงของสะเก็ดดาวนอกเวหาที่พุ่งเข้าชนดวงจันทร์ เช่นเดียวกับหลุมลึกที่เกิดจากดาวตกพุ่งเข้าชนผิวโลกในทะเลทรายมลรัฐอริโซนา สหรัฐอเมริกา เมื่อสมัยก่อนประวัติศาสตร์
หลุมลึกในดวงจันทร์หลุมหนึ่งชื่อว่า ไตโค ( Tycho ) มีปากหลุมกว้างถึง 50 ไมล์ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในคืนวันเพ็ญ มีตำแหน่งอยู่ทางด้านใต้ของขอบดวงจันทร์ ใกล้ ๆ กันกับหลุมไตโค ยังมีอีกหลุมหนึ่งชื่อ ดลาวิอุส ( Dlavius ) มีปากหลุมกว้างถึง 147 ไมล์