ทศชาติ 10 (เวสสันดรชาดก)


เวสสันดรชาดก เป็นเรื่องสุดท้ายในทศชาดก ที่นิยมกันมากและเป็นเรื่องที่ยาวที่สุด บางทีเรียกกันว่า มหาชาติ หรือมหาเวสสันดรชาดก เป็นเรื่องราวที่พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร โอรสของพระเจ้าสัญชัย และพระนางผุสดี แห่งนครสีพีรัฐบุรี ทรงบริจาคทานมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เมื่อพระชนมายุ 16 พรรษา ได้เสด็จขึ้นครองราชย์และอภิเษกสมรสกับพระนางมัทรี มีพระโอรสและพระธิดา คือ พระชาลีกุมาร และพระกัณหากุมารี ต่อมาเกิดกลียุคฝนแล้งที่เมืองกลิงครัฐ ประชาชนพากันเดือดร้อน อำมาตย์จึงให้ทูลขอช้างคู่บารมีของพระเวสสันดร ซึ่งถ้าไปอยู่ที่ใดก็จะทำให้เกิดฝนตก พระองค์ก็ทรงบริจาคให้ ทำให้ชาวเมืองสีพีรัฐบุรีพากันโกรธแค้น ให้พระเจ้าสัญชัยเนรเทศพระเวสสันดรออกไปจากพระนคร
พระเวสสันดร จึงพาพระมเหสี พระโอรส พระธิดา เสด็จออกจาเมือง ระหว่างทางก็ทรงบริจาคม้าและรถเป็นทานอีก จนต้องอุ้มพระโอรสพระธิดา เสด็จเข้าป่าหิมพานต์และทรงผนวชเป็นนักบวช บำเพ็ญศีลอยู่ในป่า วันหนึ่งพราหมณ์ชูชกได้ติดตามไปขอพระโอรสและพระธิดา เพื่อนำไปเป็นทาสรับใช้นางอมิตดา ภรรยาของตน พระเวสสันดรก็พระราชทานให้ ฝ่ายพระอินทร์เกรงว่าจะมีคนชั่วมาทูลขอพระนางมัทรีอีก จึงจำแลงกายเป็นนักบวชชรามาทูลขอพระนางมัทรี พระเวสสันดร ก็ทรงยินดีพระราชทานให้เช่นกัน แต่พระอินทร์ก็ถวายพระนางมัทรีคืนเพราะจุดประสงค์ก็เพียงลองพระทัยของพระเวสสันดรประการหนึ่งและเพื่อกันมิให้พรเวสสันดรพระราชทานพระนางมัทรีแก่ผู้ใดที่จะมาขออีกประการหนึ่ง
ฝ่ายชูชกซึ่งพาชาลีและกัณหา กลับมาบ้านเมืองของตน ระหว่างทางก็หลงเข้าไปในเมืองสีพีรัฐบุรี พระเจ้าสัญชัยทรงจำได้ จึงไถ่ถอนกุมารทั้งสองให้พ้นจากการเป็นทาสของชูชก บรรดาชาวเมืองที่เคยไม่พอใจต่างก็รำลึกถึงความดีของพระเวสสันดร ต้องการให่พระองค์เสด็จกลับบ้านเมือง พระเจ้าสัญชัยจึงยกทัพไปทูลเชิญพระเวสสันดรกลับมาครองเมืองตามเดิม หลักธรรมในเรื่องนี้เป็นการส่งเสริมการบริจาคทาน คือ "ทานบารมี"

ข้อมูลจาก "เกร็ดวรรณคดี" ชุดส่งเสริมเอกลักษณ์ไทย ฝ่ายวิชาการ หอสมุดกลาง 09


โดย : นาง อารมณ์ มงคลลักษณ์, ร.ร.วัดนาคนิมิตร, วันที่ 27 พฤษภาคม 2545