พุทธศาสนากับงานสาธารณสุข


พุทธศาสนาเกี่ยวข้องกับงานสาธารณสุขอย่างไร
พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจของคนไทยมาช้านาน พุทธศาสนาสอนให้เราเข้าใจธรรมชาติ เข้าใจในสิ่งที่มันเกิดขึ้นเอง โดยที่ไม่มีใครสามารถไปบังคับให้มันเกิดขึ้นได้ ทุกอย่างเป็นระบบโดยตัวของมันเองทั้งสิ้น แต่มนุษย์ก็พยายามที่จะฝืนธรรมชาติโดยการกระทำหรือสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาตอบสนองความต้องการของตนเองอยู่เสมอสิ่งแล้วสิ่งเล่า ซึ่งมนุษย์ก็จะได้ใช้สิ่งที่คิดว่ามีค่าเหล่านี้ได้ก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะชีวิตคนเราทุกคนนั้นเกิดมาก็เสื่อมลงและเข้าหาความตายไปทุกวันๆ โดยไม่มีใครสามารถกำหนดชะตาชีวิตของตนเองได้และไม่เคยเตรียมตัวเตรียมใจไว้ว่าจะต้องตาย เมื่อเจ็บไข้ก็ต้องหาทางรักษาชีวิตของตนเองไว้ สิ่งต่างเหล่านี้เป็นความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกผู้ทุกนามไม่เลือกชั้นวรรณะ จากทุกข์ที่เกิดจากการเกิด แก่ เจ็บและตายเหล่านี้จึงต้องมีสาธารณสุขเกิดขึ้น เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ส่วน ความสุขนั้นก็เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้นเพราะร่างกายเป็นของธรรมชาติเกิดมาตามสภาพกรรม ใครสร้างกรรมอย่างไรก็ต้องรับกรรมอย่างนั้น ดั่งพุทธสุภาษิตที่ว่า” กมฺมุนา วตฺตตี โลโก”สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่มีใครสามารถเลือกร่างกายที่สวยงาม ไม่มีใครห้ามความเกิด ความเสื่อมและความตายได้ บทบาทของสาธารณสุขนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิในครรภ์มารดา การเกิด ความเสื่อมและความตาย นอกจากทางด้านร่างกายแล้วสภาพจิตใจพุทธศาสนาก็เข้ามามีบทบาทด้วย การเจ็บป่วยอยู่บ่อยๆบางครั้งก็เกิดความทุกข์จิตใจท้อแท้เบื่อหน่ายเศร้าหมอง พุทธศานาได้สอนให้เข้าใจธรรมชาติอยู่แล้วเพื่อเป็นการกระทำทางใจให้ถูกต้องเป็นการเตรียมพร้อมกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งในสภาพปัจจุบันและในอนาคตและไม่ให้ยึดอดีตหรือความเศร้าหมองที่ผ่านมาแต่สามารถเอาอดีตมาเป็นบทเรียนสอนตนเองได้ มนุษย์เราถ้าสามารถทำใจได้อย่างนี้แล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะพร้อมรับกับเหตุการณ์ต่างๆได้เสมอเพราะนั่นคือธรรมชาติ เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องดับไม่มีธรรมชาติใดเกิดขึ้นแล้วทรงสภาพเดิมอยู่อย่างนั้นได้ไม่ว่าจะเป็นสภาพสุขหรือทุกข์ เมื่อมีผู้ป่วยก็ต้องมีคนดูแลซึ่งเรียกกันว่า “พยาบาล” พยาบาลที่ดีนั้นนอกจากจะมีวิชาความรู้ทางด้านการพยาบาลแล้วพยาบาลควรมีคุณธรรมในจิตใจ พุทธศาสนาก็ได้สอนหลักธรรมไว้สำหรับการอยู่ร่วมกันของมนุษย์เพื่อความสงบสุข และตัวพยาบาลเองก็ควรได้ศึกษาหลักธรรมให้เข้าใจเพื่อให้เกิดปัญญา(รู้ให้แจ้งไม่ใช่รู้จำ)เพื่อนำมาใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพ คุณธรรมที่พยาบาลควรมีคือ
-พรหมวิหาร 4 ได้แก่ เมตตา คือการปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ผู้ที่มีความเมตตาอยู่ในจิต
-สังคหวัตถุ 4 ได้แก่ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยาและสมานัตตา
-อิทธิบาท 4 ได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
คุณธรรมเหล่านี้ควรที่จะมีสำหรับผู้ที่เป็นพุทธมามกะและโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยแล้วสำหรับพยาบาลก็ควรจะมีคุณธรรมประจำใจเพื่อให้การปฏิบัติงานนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี



โดย : นาง มุขดา ธนันทา, ราชบุรี, วันที่ 19 พฤศจิกายน 2544