นิทาน
นิทานธรรม
เรื่องที่ 1 (ธรรมจากขอทาน)

           ในเมืองหลวงของจีนสมัยหนึ่ง มีเศรษฐีผู้ชอบบริจาคทาน ไม่ว่าจะเป็นเงิน ข้าว ปลา อาหาร เป็นประจำ กิจวัติของเศรษฐี คือการสวดมนต์ และให้ทาน โดยการให้ทานทุกๆครั้ง เศรษฐีจะเป็นผู้ให้ด้วยตนเอง โดยมีอยู่วันหนึ่ง ได้มีความคิดเกิดขึ้นในสมองของเศรษฐี ว่าการทำทานน่าจะทำด้วยตนเอง มิใช่สั่งให้ลูกน้องนำเงินไปให้แก่ผู้เรอรับการบริจาค จึงได้สั่งเลขาประจำตัวไว้ว่า " ถ้ามีใครมารอการบริจาค ถ้าข้าไม่ว่างให้เลขาบอกให้เค้าผู้นั้นรอก่อน ข้าต้องการให้ด้วยตัวข้าเอง " เมื่อเลขาได้รับฟังเช่นนั้นหลังจากนั้นมา เศรษฐีก็เป็นผู้ให้ทานแก่ผู้ที่มารอรับการบริจาคทุกๆ คนในเช้าวันหนึ่งเนื่องจากเป็นช่วงเช้ามาก มีขอทานคนหนึ่ง ต้องการมาขอเงินเศรษฐี 10 บาทเพื่อนำเงินไปซื้อข้าวทาน แต่ขณะนั้นเศรษฐีได้ สวดมนต์เพื่อสรรเสริญพระพุทธองค์อยู่ในห้องพระ เลขาจึงสั่งให้ขอทานรอก่อน
           ขอทานได้รออยู่ซักระยะเวลาหนึ่ง เค้ารู้สึกว่าเสียเวลาคอยเศรษฐีมานานมากแล้ว จึงจะเดินไปขอทานที่บ้านข้างเคียง เมื่อเลขาเห็นดังนั้น จึงสั่งให้ขอทานไปรอเศรษฐีหน้าห้องพระ ช่วงที่ขอทานเข้าไปยืนรอหน้าห้อง ขอทานได้ยินเศรษฐีขอพรจากพระพุทธองค์หลังจากสวดมนต์เสร็จแล้ว ว่า " ขอให้ข้าพเจ้ามีกำไรมากขึ้นอีก 300 ล้าน ขอให้มีรถอีก 5 คัน มีบ้านเพิ่มอีก 3 หลัง " เมื่อขอทานได้ยินเช่นนั้น ก็หันหลังจะเดินออกจากบ้านเศรษฐี
           ในขณะเวลาเดียวกันเศรษฐีเมื่อขอพรเสร็จได้หันมาเห็นขอทานกำลังจะเดินออกจากบ้าน เศรษฐีจึงได้ถามขอทานว่า " อ้าวท่าน ข้าพเจ้ายังมิได้ให้เงินท่านไปซื้อข้าวเลย ทำไมท่านจะไปแล้วละ มิเอาเงินก่อนหรือท่าน " เมื่อขอทานได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวกับเศรษฐีว่า " ข้าพเจ้ามิอยากได้เงินของท่านแล้ว เพราะข้าพเจ้าขาดเงินแค่10 บาท แต่ท่านสิ ยังขาดอีกตั้ง 300ล้านบาท กับทรัพย์สินอีกมากมาย " เมื่อขอทานกล่าวจบก็ได้เดินออกไปจากบ้านเศรษฐี

           * หมายเหตุ มิขอสรุปสิ่งใด ข้าพเจ้าคิดว่าท่านผู้อ่านคงจะได้ธรรมะจากนิทานเรื่องนี้พอสมควร สาธุ

ที่มา : http://www.geocities.com/tummasat/document/storyihtm

โดย : เด็กหญิง ภัชราพร เกิดสูงเนิน, โรงเรียนสูงเนิน, วันที่ 16 มกราคม 2547