ขาดกำลังใจทำอย่างไรดี
ท่านคงเคยได้ยินได้ฟังคนอื่นพูดหรือบ่นอยู่เสมอว่า "ไม่ค่อยจะมีกำลังใจจะทำอะไรเลย" โดยความเป็นจริงแล้วมนุษย์เราทุกคนเมื่อเกิดมาย่อมต้องการความรัก ความอบอุ่น ความสุขสมหวัง ความสำเร็จ ความร่ำรวย ตลอดจนร่างกายที่แข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บกันทั้งนั้น แต่ก็มิใช่ว่าจะประสบความสุขสมหวังเสมอไป บางครั้งอาจจะต้องประสบกับความผิดหวังกับสิ่งที่พึงปราถนาไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม บางคนก็สามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ แต่ก็มีหลายรายที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตามที่คาดหวังไว้จึงทำให้ขาดกำลังใจซึ่งสาเหตุของการหมดกำลังใจมีหลายสาเหตุดังนี้ ด้านร่างกาย อาจจะเป็นเพราะว่า ร่างกายไม่สมประกอบ มีโรคประจำตัว เจ็บป่วยเรื้อรัง ซึ่งจะต้องได้รับการรักษาติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ทำให้สุขภาพร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถประกอบอาชีพหรือทำงานได้เหมือนผู้อื่น สิ่งเหล่านี้มีผลต่อจิตใจ ทำให้เกิดความท้อแท้ เบื่อหน่าย หมดกำลังใจได้ ด้านจิตใจ แบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือ 1. โดยรู้ตัว คือ รู้ตัวว่ามีปัญหาและรู้สาเหตุของปัญหานั้นว่ามาจากอะไร แตไม่สามารถขจัดหรือแก้ปัญหานั้นได้ จึงเกิดความไม่สบายใจเมื่อไม่ได้ในสิ่งที่พึงปราถนา 2. โดยไม่รู้ตัวคือไม่รู้ว่าทำไมจึงไม่มีกำลังใจ ทั้ง ๆ ที่ดูแล้วไม่น่าจะขาดกำลังใจ เงินทองก็มีใช้ตำแหน่งหน้าที่การงานก็ดี แต่ถ้าเราค่อย ๆ พิจารณาไตร่ตรองดูก็จะรู้ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร สาเหตุจะอยู่ลึกๆ หรือฝังใจมาตั้งแต่เด็ก จนเราอาจนึกไม่ถึงก็เป็นได้ หรืออาจรู้สาเหตุแต่ไม่ยอมรับ จึงเกิดอาการท้อแท้ เบื่อหน่าย ไม่มีกำลังใจที่จะปฏิบัติกิจกรรมใด ๆ ให้เป็นผลดีได้เท่าที่ควร ด้านสังคมหรือสิ่งแวดล้อมจะไม่ค่อยถูกกับใคร ไม่มีใครรัก ไม่มีใครสนใจ เมื่อตนทำดีแล้วแต่ไม่มีใครเห็นความดี เช่น ทำงานมาหลายปี แต่เจ้านายไม่เคยเห็นความดีหรือความสำคัญของตนเลย วิธีที่จะทำให้เกิดกำลังใจ 1.ก่อนอื่นต้องพยายามหาสาเหตุเสียก่อนว่า การที่เรไม่มีกำลังใจนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร แล้วพยายามหาทางปรับปรุงแก้ไขและยอมรับเสีย 2.อย่าคิดหรืออย่ามองว่าตัวเองเป็นคนมีปัญหา ไร้ควารมสามารถ คนอื่นที่เขามีปัญหาไร้ความสามารถมากกว่าเราก็ยังมี พยายามตั้งใจกระทำใหม่ 3.อย่ามัวหมกตัวอยู่คนเดียว ลองพูดคุยกับผู้ที่เราไว้ใจหรือเชื่อถือ อย่างน้อยก็เป็นการระบายความอัดอั้นตันใจฃองเราได้ และเราอาจจะได้รับคำแนะนำ ชี้แนะ จากเขาผู้นั้น 4.มองโลกในแง่ดี พยายามทำจิตใจให้สดชื่น อะไรต่าง ๆ ก็จะดูดีขึ้น 5.อ่านหนังสือดีๆ อาจจะได้รับความรู้ สิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น และยังทำให้เราเกิดความเพลิดเพลินอีกด้วย 6.ออกกำลังกายตามที่ท่านชอบหรือถนัด ซึ่งอาจจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย 7.พยายามอย่าปล่อยให้มีเวลาว่างมากเกินไป ควรหางานอดิเรกทำ เช่นหัดทำกับข้าว เย็บปักถักร้อย ทำสวนครัว ฯลฯ เพราะเราอาจจะสนุกไปกับงานเหล่านั้น 8.เมื่อตื่นนอนควรรีบลุกจากที่นอนทันที ควรมีแผนการทำงานของแต่ละวันและทำงานด้วยความกระฉับกระเฉง ตั้งใจที่จะกระทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างจริงจัง จากวิธีการที่กล่าวมาข้างต้น อาจจะทำให้ท่านที่ขาดกำลังใจกลับมีกำลังใจขึ้นมาใหม่ซึ่งจะส่งผลทำให้ชีวิตของคุณมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
|