การแต่งบทร้อยกรอง(กลอนแปด)



               

            บทกลอน   นับเป็นบทร้อยกรองไทย ที่เป็นที่นิยมแพร่หลาย
มากกว่าบทร้อยกรองชนิดอื่น   อาจเป็นเพราะความอ่านง่ายแต่งง่าย
           อย่างไรก็ตาม การจัดประเภทของกลอน ยังไม่เป็นที่ยุติ นัก
วิชาการผู้เขียนตำรา เกี่ยวกับร้อยกรองไทย ก็แบ่งประเภทแตกต่าง
กันไป ตามความคิดเห็นของตนเอง
           สำหรับผู้เขียนขอแบ่งเป็น ๔ ประเภทหลัก ๆ  เนื่องจากกลอน
มีความหลากหลายมาก ในหัวข้อที่ ๔ จึงตั้งชื่อให้คลุม ๆ ไว้  หาก
ท่านสนใจกลอนประเภทไหน ก็คลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้ ตาม

สารบัญด้านซ้ายมือ
           ในหน้านี้ขออนุญาตให้รายละเอียด ของกลอนแต่ละประเภท
ในเบื้องต้นดังนี้
          
กลอนแปด    ... กลอนที่เป็นต้นแบบของกลอนทั้งหลาย คือ
กลอนแปด ซึ่งมีผู้เรียกว่ากลอนสุภาพ (เพราะไม่บังคับเอก-โท)
บ้าง  กลอนตลาด (เพราะใช้คำง่าย ๆ คนส่วนใหญ่ฟังได้) บ้าง การ
จำแนกชนิดของกลอนแปด มักจำแนกโดยถือเอาการนำไปใช้
เช่นเมื่อแต่งเป็นบทร้องสำหรับวงมโหรี   ก็เรียกว่าบทมโหรี ถ้านำ
ไปแต่งนิราศ ก็เรียกว่ากลอนนิราศเป็นต้น ... /ผศ.อัมพร   สุขเกษม
: ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับร้อยกรองไทย

                                            
       sub12.gif (7096 bytes)

อธิบายผังโครงสร้าง


                              ๑) แสดงผังโครงสร้างกลอนแปด
ความยาว ๒ บท
                              ๒) กลอน ๑ บท มี ๒ บาท คือ บาทเอกและบาทโท
                              ๓) กลอน ๑ บาท มี ๒ วรรคคือบาทเอกประกอบด้วย วรรค สดับ และวรรค รับ
                                   บาทโทประกอบด้วย วรรค รอง และวรรค ส่ง
                             ๔) กลอน ๑ วรรค มี ๘ คำ จึงเรียกว่ากลอน ๘
                             ๕) เส้นโยงภายในวรรค เรียกว่าสัมผัสใน มีหรือไม่มีก็ได้ ส่วนเส้นโยงคำท้ายวรรค เรียกว่า                                     สัมผัสนอก   เป็นกฎบังคับต้องมี
                             ๖) กลอนยาว ๒ บทขึ้นไป ต้องเชื่อมสัมผัส ท้ายวรรค ส่ง   ไปยังคำท้ายวรรค รับ   ของบท
                                  ถัดไปเสมอ

ลักษณะสัมผัสและเสียงท้ายวรรคของกลอน ๘
      มาถึงตอนนี้บางท่านอาจรู้สึกว่าการเขียนกลอนแปด เป็นเรื่องยุ่งยากไม่เบาเลย   พาลจะหมดความสนใจ
เอาดื้อ ๆ ผู้เขียนจึงยากจะขอแนะนำว่า ขอให้ลืม
เรื่องยุ่ง ๆ ข้างต้น ไปได้เลย   เพราะนั่นเป็นเรื่อง ของนักเรียนนักศึกษา ที่จะเรียนรู้ เอาคะแนน
เอาเกรดกัน   เรามาหัดเขียนกลอนแบบภูมิ ปัญญาชาวบ้านกันดีกว่า โดยมาเริ่มนับหนึ่ง
กันใหม่ ดังนี้

        ๑) กลอน ๑ บท มี ๔ บรรทัด
     ๒) บรรทัดหนึ่ง ๆ จะเขียน ๗ คำ ๘ คำ หรือ ๙ คำก็ได้
     ๓) ถ้าแต่งตั้งแต่ ๒ บทขึ้นไป คำสุดท้ายของบรรทัด
ที่ ๔ ในบทต้น ต้องสัมผัสกับคำสุดท้าย ของบรรทัดที่ ๒
ในบทถัดไปเสมอ   
       *** เห็นไหมครับ ว่าง่าย กว่าข้างต้นเยอะเลย ***
ปรดดูตัวอย่างคอลัมน์ถัดไป

         

                                     สัมผัสนอก สัมผัสใน

  บทที่ ๑         "
พระดูเดือน    เหมือนวง  นลาฏน้อง
                   สัมผัส
ผ่อง  ชวนจิต  พิมัย
                   รื่นรื่นกลิ่น   ลำดวน  รัญจวน
ใจ
                   เหมือนเข้า
ใกล้  กลิ่นนาง   เมื่อกลางวัน"
 
  บทที่ ๒
       ซึ้งเอยซึ้ง  กวีรัก สร้อยอักษร
                   หวานมนต์กลอน   พระ
อภัย  เคลิ้มใจฝัน
                   ดื่มด่ำถ้อย   สร้อย
คำ  ที่จำนรรจ์
                   รักรำพัน   เลื่อง
ชื่อ  ระบือนาม

         คำหรือพยางค์ ที่มี
เสียงสระ คล้องจองกัน ในบท
กลอนเรียกว่า สัมผัส   แบ่งเป็น ๒ ชนิดคือ  สัมผัสนอก
และ สัมผัสใน
          โปรดดูตัวอย่าง
บทที่ ๑ คำต่อไปนี้ น้อง สัมผัสกับ
ผ่อง   คำว่า  สมัย สัมผัสกับ ใจ + ใกล้  ำว่า  วัน
คำสุดท้ายบรรทัดที่ ๔ ในบทต้น สัมผัสกับ  ฝัน   คำสุด
ท้าย ของบรรทัดที่ ๒ ในบทถัดไป

                               (มีต่อกลอนแปด ๒)



แหล่งอ้างอิง : http://www.geocities.com/poetichome

โดย : นางสาว มยุรี ชารีพร, โรงเรียนพรเจริญวิทยา, วันที่ 7 พฤศจิกายน 2545