เวสสันดรชาดก กัณฑ์กุมาร(3)

 

ภาพพจน์ที่ปรากฏในกัณฑ์กุมาร

กลวิธีการเขียนที่ทำใหผู้อ่านเกิดภาพและทำให้งานเขียนมีชีวิตชีวาขึ้น ที่ปรากฏในกัณฑ์กุมารได้แก่

    1. อุปมา
    2. อุปมา คือ การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งว่าเหมือนอีกสิ่งหนึ่ง มักใช้คำว่า เหมือน ดุจ ราวกับเสมือน ข้อความที่ใช้อุปมา เช่น

      “อสสโม อันว่าพระอาศรมบรมนิเวศน์วงกต เป็นที่เจริญพรตพรหมวิหาร แสนสนุกรัมณิยรโหฐานทิพพาอาสน์ ดั่งชะลอบบัณฑุกัมพลศิลาลาดเลิศแล้วมาลอยลง”

      “เจ้าสิทรามคะนองปองแต่ที่จะแล่นแล่นลีลาศ เหมือนโปดกมฤคราชอันอ่อนแอ ครั้นพลัดแม่อยู่แต่ลำพังแล้วก็จะพากันผาดโผนโจนเล่นตามประสัตว์”

      “โส โพธิสตโต ปางนั้นสมเด็จพระบรมนราพิสุธิพุทธางกูร ได้ฟังพราหมณ์อธิบายทูลขอสองกุมาร มีน้ำพระทัยชื่นบานเอิบอาบด้วยกุศลลาภอันเลิศฟ้า อุปมาเหมือนบุรุษอันยากไร้ มีผู้นำทรัพย์มานับให้พันตำลึงถึงมือแล้วเมื่อใด น้ำพระทัยท้าวเธอก็ปราโมทย์เหมือนฉะนั้น”

      “น้ำพระอัสสุชลนัยน์เธอไหลลงหลั่งๆ ตกต้องหลังพระบาทพระบรมราชฤษี ผุลลปทุมํวิย ดั่งกลีบบุษยมาลีปทุเมศ มาเคียงสองรองรับน้ำชลเนตรพระเจ้าลูกท้าวเธอไว้ ส่วนสมเด็จพระนราธิปไตยพิสุทธิชินวงศ์ท้าวเธอก็พลอยทรงพระกันแสงไห้ จนพระอัสสุชลนัยน์ไหลลรินๆ โซมพระพักตร์ตกต้องพระปฤษฎางค์ พระลูกรักทั้งสอง ดุจแผ่นกระดานทองมารองรับไว้ทั้งคู่”

      “พระบรมราชฤษีเธอจึงคาดค่าสองกุมารเหมือนนายโคบาลอันสันทัดคาดค่าโค”

      “เธอก็หล่อหลั่งอุทวารีลงในมือพราหมณ์ ตั้งพระทัยไว้ให้งามดั่งดวงแก้ว แล้วก็ออกพระอุทานวาจาอันแจ่มใสว่า ว่าพราหมณ์เอ่ย ลูกทั้งสองของเรานี้นี่ เรารักดั่งดวงใจนัยนเนตร”

      “สะเทือนสะท้านเลื่อนลั่นอยู่ครืนๆ ดุจหนึ่งว่าปืนสักแสนนัดมากระหน่ำซ้ำยิงอยู่เปรี้ยงๆ เสียงฉะฉาน ทั้งพญาคชสารชาติฉัททันต์ ทะลึ่งถลันร้องวะแหวๆ ประแปร๋แปร้นแล่นทะลวงงวงคว้างาหงายเงย ประหนึ่งว่าจะสอยเสยเอาดวงดาว”

      “เสมือนพรานเบ็ดมาตีปลาหน้าไซ บรรดาปลาที่จะเข้าไปให้แตกฉาน ตัวเราผู้ทำทานเหมือนตัวปลา”

      “พระลูกรักทั้งสองศรีดั่งกระแสสินธุ์ พราหมณ์ประมาทหมิ่นมาด่าตี เสมือนกระทุ่มวารีให้ปลาตื่น”

      “ท้าวเธอก็ตั้งพระสมาธิระงับดับพระวิโยคกลั้นพระโศกสงบแล้วพระพักตร์ก็ผ่องแผ้วแจ่มใสดุจทองอุไรทั้งแท่ง อันบุคคลแกล้งหล่อแล้วมาวางไว้ในพระอาศรม”

    3. อุปลักษณ์
    4. อุปลักษณ์ คือการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเหมือนกับสิ่งหนึ่ง เป็นการเปรียบเทียบลึกกว่าอุปมา

      “พระโพธิญาณในภายหน้านั้นคือไซ”

      “ธรรมดาว่าสตรีนี้เป็นเกาะแก่งกีดกระแสกุศล”

    5. สัญลักษณ์
    6. สัญลักษณ์ คือ การใช้สิ่งแทน เช่น สำเภาทองเป็นสัญลักษณ์แทนพระโพธิญาณ

    7. อติพจน์

อติพจน์ คือ การกล่าวเกินจริง เช่น

“อกนางพระธรณีจะแยะแยกแตกกระจายอยู่รอนๆ



แหล่งอ้างอิง : วรรณสารวิจักษณ์ กรมวิชาการ

โดย : นาง ศิริพันธ์ พัฒรชนม์, โรงเรียนราชวินิต มัธยม, วันที่ 9 กันยายน 2545