การอ่านวรรณกรรมในสมัยปัจจุบันที่ผู้อ่านไม่ค่อยจะมีเวลามากนัก เรื่องที่ผู้อ่านสนใจจึงเป็นเรื่องที่มีขนาดสั้นๆ แต่งเป็นคำประพันธ์ง่ายๆ เช่น กลอน ที่สื่อความหมายเด่น และที่สำคัญคือสร้างอารมณ์ขันให้กับผู้อ่านได้อย่างทันที วรรณกรรมประเภทนี้ มีผู้รู้บางท่านเรียกว่า หัสคดี
หนังสือที่มีกลอนขำขันประเภทนี้มักเป็นหนังสือประเภทตลาดตลก ขายหัวเราะ ที่จุดขายอยู่ที่ภาพการ์ตูนตลก แต่พบว่า เรื่องประเภทหัสคดีนี้ ก็ได้รับความสนใจจากท่านผู้อ่านไม่น้อยเหมือนกัน
ในวันนี้ ขอนำเสนอหัสคดีให้อ่านกันสบาย ๆ สัก ๓ เรื่อง แต่ต้องขออภัยท่านผู้แต่งมาณ ที่นี้ด้วย ที่ไม่สามารถเอ่ยนามได้ ทั้งนี้เพราะ เมื่ออ่านเรื่องของท่านแล้วชอบ ได้คัดลอกเรื่องเหล่านี้เก็บไว้ในยามที่ต้องการสร้างอารมณ์ดี ๆ แต่ไม่ได้จดจำนามผู้แต่งไว้ และที่นำเรื่องของท่านมาเผยแพร่ในที่นั้ ก็เพื่อประสงค์จะให้ผู้อ่านท่านอื่นได้เห็นในแววอัจฉริยะของท่านทั้งหลาย จนมิอาจที่จะเก็บเรื่องเหล่านี้ไว้ได้คนเดียว ลองอ่านดูจะรู้ว่าท่านผู้เขียนเหล่านี้มีความเป็นกวีในยุคปัจจุบันที่น่าทึ่งทีเดียว
เรื่องแรก มีหน้าที่ปกปักและรักษา ช่วยเยียวยาคนทุกข์ร้อนหายหวั่นไหว
บ้านหลังน้อยโดดเดี่ยวว้าเหว่ใจ ผีสาวใดจะหลียวแลหนุ่มพระภูมิ
เรื่องที่ ๒ ตาแดงก่ำกำหมัดตะโกนก้อง เขากรีดร้องโมโหสุดโทสา
น้ำตาไหลพรั่งพรูโอ้นิจจา ซวยเป็นบ้าเหยียบรังมดคันไฟ
เรื่องที่ ๓ เธอชอบกินอะไรฉันไม่ว่า จะพิซซ่าหรือปลาร้าก็ยังได้
จะจ่ายถูกจ่ายแพงไม่เป็นไร ฉันขอแค่อาศัยในลำไส้เธอ
เป็นอย่างไรบ้างคะ คงสังเกตเห็นแล้วนะคะว่าข้อความที่แสดงความขบขันอยู่ที่การจบเรื่องแบบหักมุม ซึ่งเทคนิคนี้ผู้ที่เขียนเลือกใช้ให้มีเนื้อความตรงข้ามกับตอนต้นเรื่องที่เสนอมา หรือจบเรื่องแบบที่ผู้อ่านคาดเดาไม่ได้เลย พบกันใหม่ในตอนต่อไปค่ะ สวัสดี
|