นายยูโซะกับนางนิเนาะห์ สองสามีภรรยา ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ชายทุ่งแห่งหนึ่ง ทั้งคู่อยู่กินกันเป็นเวลาช้านาน ก็ไม่มีลูกแม้แต่คนเดียว อยู่มาวันหนึ่งนางนิเนาะห์กินข้าวกับปลาช่อนแห้งจิ้มน้ำจิ้มกับ บูดู บังเอิญกินพริกขี้หนูเข้าไปเม็ดนึงด้วย หลังจากนั้นสามวันต่อมา นางก็มีท้อง จนกระทั่งถึงกำหนดก็คลอดลูกชายมีความสูงเท่าพริกขี้หนู พ่อแม่จึงตั้งชื่อว่า" เจ้าพริกขี้หนู" (บูเต-ลาดา) เจ้าพริกขี้หนูกินข้าวเพียงวันละเม็ดแต่สามารถอิ่มตลอดวัน แต่ละวันเด็กชายประหลาดผู้นี้รู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องนั่งเฉยๆ โดยไม่ได้ช่วยเหลืองานพ่อแม่เลย เพราะท่านทั้งสองเป็นผู้มีพระคุณอย่างยิ่งใหญ่หลวงที่กำเนิดเขาขึ้นมา ถึงแม้จะผิดปกติกว่าผู้อื่นก็ตามที เขาจึงอาสาพ่อแม่ออกไปเลี้ยงวัวที่ทุ่งนา ขณะเจ้าพริกขี้หนูนั่งบังแดดอยู่ตามก้อนหินเพื่อเลี้ยงวัวอยู่นั้น ปร่กฎว่าวันหนึ่งมีผู้ร้ายมาขโมยวัวไปหมดทุกตัว เจ้าพริกขี้หนู้ไม่ตกใจแม้แต่น้อย จึงออกเดินตามหาวัวทันที ระหว่างทางก็พบเพื่อนๆ ซึ่งเป็นสัตว์ คือ ปลาดุก(อีกัน-กือลี) ,นกคุ่ม (บูรง-ปูโยห์) ,และเสือโคร่ง (ซีงา) ต่างก็ยินดีที่จะช่วยจับผู้ร้ายขโมยวัว ในที่สุดเจ้าพริกขี้หนูก็ติดตามฝูงวัวมาถึงซ่องโจรซึ่งอยู่ใกล้เชิงเขา เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เจ้าพริกขี้หนูก็กระโดดเข้าตาขโมย ทำให้ขโมยแสบตาและตกใจตื่น แล้วรีบเดินไปที่โอ่งน้ำ เพื่อเอาน้ำล้างตา ในที่สุดถูกปลาดุกที่รออยู่แล้วแทงเข้าที่มือทันที ขโมยจึงเดินไปที่ครัวเพื่อหยิบไม้ขีดมาจุดไฟ นกคุ่มจึงกระพือปีกทำให้ผงดินปลิวเข้าตาจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้ถนัด เจ้าขโมยรู้ตัวทันทีว่าตนถูกปองร้ายแน่แล้ว จึงรีบลงบันได เพื่อจะหนีไปให้พ้นบ้านหลังนี้ แต่เนื่องจากตายังปิดอยู่ จึงไม่สามารถมองเห็นเสือที่หมอบรออยู่ใต้ถุนบ้าน เสือโคร่งจึงได้จังหวะรีบตะปบและลากไปกินเป็นอาหารอันโอชะ เจ้าพริกขี้หนูจึงสามารถนำวัวของตนกลับไปบ้านได้อย่างสบาย
โดย : แวมูเนาะห์ แวสาเหาะ จากอำเภอรามัน จังหวัดยะลา
|