ผิวหนังเป็นระบบประสาทสัมผัสทางกาย ที่มีพื้นที่มากที่สุดของร่างกายเรา และถือว่ามีความสำคัญมากที่สุด ที่ทำให้เรารู้สึกถึงความมีตัวตน ไม่ว่าจะหูหนวกไม่ได้ยิน หรือตาบอดมองไม่เห็น แต่จากระบบประสาทสัมผัสที่ผิวหนัง เราสามารถรู้สึกถึงความมีอยู่ของวัตถุและตัวเราตลอดเวลา
การระลึกถึงความรู้สึกของผิวหนังในระดับที่ละเอียด สามารถทำให้เกิดสติ เกิดสมาธิได้ จะเห็นว่า ศาสตร์แห่งการเคลื่อนไหวทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นมวยจีน ไทเก็ก ปัญจสีลัต โยคะ ฝ่าหลุนกง ฯลฯ หรือแม้แต่การเดินจงกลม ล้วนแล้วแต่เป็นการกำหนดไปที่การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆทั้งสิ้น โดยสติถูกกำหนดให้จับไปที่ความรู้สึกของการเคลื่อนไป ในขณะที่ผิวหนังเคลื่อนที่ฝ่าโมเลกุลของอากาศ การกำหนดความเคลื่อนไหวเป็นหัวใจของการฝึกสมาธิและวิปัสสนากรรมฐาน การใช้สติจับที่ผิวหนังบริเวณท้องที่กำลังพองออกขณะหายใจเข้า (พองหนอ) และกำลังยุบลง (ยุบหนอ) สามารถทำให้เกิดสมาธิและปัญญาได้ ที่สำคัญคือต้องกำหนดไปที่อาการพอง อาการยุบ ไม่ใช่ความพอง ความยุบ หมายถึงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของผิวหนังหน้าท้อง ทุกขณะเสี้ยววินาทีที่กำลังพองและกำลังยุบ ไม่ใช่แค่พองกับยุบ (น.พ สมชาย สุธีรา)
ถ้าเราคลี่ผิวหนังทั้งหมดของร่างกาย แล้วกางออก จะได้พื้นที่ขนาดพอๆกับประตูห้องนอน 1 บาน ผิวหนังประกอบไปด้วยประสาทรับความรู้สึกต่างๆ รวมกันแล้วเป็นจำนวนประมาณ 3 ล้านหน่วย รู้ไหมว่า ผิวหนังของผู้หญิงบางกว่าของผู้ชาย และใต้ผิวหนังของผู้หญิงจะมีชั้นไขมันรองรับเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชั้น ทำให้ผู้หญิงมีผิวหนังที่นุ่มน่าสัมผัสมากกว่าผู้ชาย ผิวหนังของผู้หญิงจะมีความไวต่อการสัมผัสมากกว่าผู้ชาย 5-10 เท่า ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงชอบการโอบกอดลูบไล้มากกว่าผู้ชาย ในขณะที่ผู้หญิง เมื่ออยู่กับเพื่อนหญิงด้วยกัน มักจะมีการแตะเนื้อต้องตัวกันอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นเรื่องธรรมดาถ้าเห็นผู้หญิงจูงมือเพื่อนสาวเดินไปด้วยกัน แต่ถ้าเห็นผู้ชายเดินจูงมือเพื่อนชายละก้อ ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่าต้องมีอะไรผิดปกติ ไม่ธรรมดาแน่ๆ
ผู้ชายเวลาตกอยู่ในความเครียด หรืออยู่ในสถานการณ์คับขัน เขามักไม่ชอบให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัว เพราะผิวหนังของผู้ชายไม่สามารถรับความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนได้ กลับกลายเป็นความรำคาญไป แต่สำหรับผู้หญิง ช่วงเวลาที่รู้สึกท้อแท้ หรือเครียด เธอจะต้องการสัมผัส โอบกอดมากเป็นพิเศษ
ก็เพราะความหยาบกระด้างของผิวหนังผู้ชายนี่แหละ ทำให้การเล่นอะไรที่รุนแรงหรือการชกต่อยเป็นเรื่องธรรมดาของเพศชาย แต่ดูเป็นเรื่องน่าเจ็บปวดในสายตาเพศหญิง
นอกจาก ผู้ชายจะไม่ค่อยรู้สึกเจ็บ เพราะรับรู้ความเจ็บปวดได้น้อยกว่าผู้หญิงแล้ว ความอดทนของผู้ชายก็น้อยกว่าผู้หญิงมากด้วย ผู้ชายเราน่ะนะมีความอดทนต่อความเจ็บปวดน้อยกว่าผู้หญิงประมาณ 2-4 เท่าทีเดียวเชียว
เรามักจะสงสัยกันว่า ทำไมผู้ชาย กี่ปีกี่ปีใบหน้าก็เหมือนเดิม เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเหตุ ที่ผู้ชายมีผิวหนังที่หยาบและหนากว่าผู้หญิงนี่เอง การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ผิวหนังที่หยาบและหนาจึงมีน้อยกว่าผู้หญิง ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นบนผิวหนังไม่ง่ายเหมือนผู้หญิง
เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมผู้หญิงจึงไม่ค่อยลงพุง ก็เพราะผู้หญิงมีมดลูกบริเวณหน้าท้อง ทำให้ไขมันเลื่อนลงไปเกาะที่ต้นขาและสะโพกแทน ในขณะที่ผู้ชาย ไขมันส่วนใหญ่จะลงไปกองบริเวณพุงนั่นเอง
เฮ้อ! ผู้หญิงกับผู้ชายนี่มีอะไรแตกต่างกันมากเหลือเกิน
แล้วเรื่องของใจ ล่ะ ก็คงจะแตกต่างกันอีกตามเคย.
อ่านภาคภาษาต่างประเทศ ในเรื่องที่เกี่ยวกับผิวหนังได้ที่
เว็บไซต์ต่อไปนี้
