จากนั้นศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยปารีสได้ดุษฎีบัณฑิตทางกฎหมาย ( Docteur en Droit )ฝ่ายเนติศาสตร์และประกาศนียบัตรชั้นสูงทางเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยปารีส
ในระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ได้รับเลือกเป็นสภานายกแห่งสมาคมนักเรียนไทย
ในประเทศฝรั่งเศส
เมื่อเดินทางกลับประเทศไทยนายปรีดี พนมยงค์ ได้เข้ารับราชการเป็นผู้พิพากษาในกระทรวงยุติธรรมเมื่อ พ.ศ. 2469 แล้วย้ายไปเป็นเลขานุการกรมร่างกฎหมายและเป็นอาจาร์สอนกฎหมายปกครองในโรงเรียนกฎหมาย จนกระทั่งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นอำมาตย์ตรีหลวงประดิษฐ์มนูธรรม เมื่อปี พ.ศ. 2472
นายปรีดี พนมยงค์ เป็นบุคคลสำคัญในการก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 และได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวในครั้งนั้นเมื่อปีพ.ศ. 2476ได้ร่างเค้าโครงเศรษฐกิจแห่งชาติขึ้นเสนอรัฐบาล แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบและถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ นายปรีดี พนมยงค์ จึงต้องเดินทางออกนอกประเทศ ภายหลังเมื่อพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนาทำรัฐประหาร เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2476 รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการในคณะหนึ่งเพื่อสอบสวนว่านายปรีดี พนมยงค์ เป็นคอมมิวนิสต์หรือไม่ผลการสอบสวนปรากฎว่านายปรีดี พนมยงค์ ไม่มีมลทิน นายปรีดี พนมยงค์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลของพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา
ในขณะที่เกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา เมื่อปี พ.ศ. 2484 นายปรีดี พนมยงค์ถูกกันให้พ้นจากตำแหน่งทางการเมือง และได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และในขณะที่สงครามโลกครั้งที่2กำลังดำเนินอยู่นายปรีดี พนมยงค์ได้ก่อตั้งขบวนการเสรีไทยในประเทศ ติดต่อประสานงานกับขบวนการเสรีไทยภายนอกประเทศ ภายใต้การนำของหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เพื่อต่อต้านญี่ปุ่นอย่างลับๆ จนกระทั่งสงครามสิ้นสุดลง นายปรีดี พนมยงค์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐบุรุษอาวยุโสและร่วมกับรัฐบาลหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ดำเนินการประกาศว่า การที่รัฐบาลไทยประกาศสงครามกับอเมริกาและอังกฤษเป็นโมฆะ และได้หาทางผ่อนคลายสัญญาสมบูรย์แบบที่ผูกมัดไทยเนื่องจากผลของการแพ้สงคราม
นายปรีดีพนมยงค์เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 7 ของไทยเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2489 และนายปรีดี พนมยงค์ได้ลาออกเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม2489 และถึงแก่กรรมเมื่อวันที่
2 พฤษภาคม 2526 รวมอายุได้ 83 ปี
การแสดง
ได้เป็นบุคคลสำคัญในการก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองได้ดำรงตำแหน่งผู้ประศาสน์การของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นแห่งแรก
แหล่งที่มา
คอมพิวเตอร์
อ้างอิงจาก
www.google.com