ข่าวการแตกกรุสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก เพราะต่างฝ่ายต่างก็ปิดบัง และแหกตาเพื่อหลอกกันจะถูกล้วงตับไปติดต่อกับเจ้าของกรุ เพราะนอกจากจะไม่ได้ค่านายหน้า หรือค่าคอมมิชชั่นแล้ว ยังอาจถูกเจ้าของกรุชกเอาง่ายๆ เพราะอาจจะถูกจับดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์แผ่นดิน
ที่สุดเมื่อมีการเสนอเงินจำนวนหนึ่งให้ผู้ที่เป็นผู้เผยแพร่พระชุดนี้ ให้บอกถึงต้นกรุ ทำให้ความจริงเปิดเผย และมีการพาเซียนพระจากสุพรรณไปยังต้นกำเนิดคือ ที่ไร่ของชาวไร่จนๆ คนหนึ่งใน ต.ดอนกระโดน อ.หันคา จ.ชัยนาท ซึ่งยังคงเหลือพระอยู่จำนวนมากพอสมควร และที่น่าสนใจคือ ไหแบบลพบุรีอันเป็นที่บรรจุพระยังอยู่ให้เห็น แม้จะชำรุดไปบ้าง แต่ที่สุดก็ถูกซื้อไป
เจ้าของบ้านเปิดเผยว่า ได้ทำการปรับที่ดินที่รกร้าง และยังไม่เคยได้เปิดเพื่อทำไร่ แต่เมื่อปรับดินที่ได้เจอมูลดินเก่า จึงปรับมูลดินและพบหลุมที่มีอิฐก้อนใหญ่ๆ คล้ายก้อนแลงปิดอยู่ เมื่อรื้ออิฐที่ปิดอยู่ก็พบว่า ด้านในเป็นทรายละเอียด จึงคุ้ยนำทรายละเอียดขึ้นจึงพบไหอยู่ภายใน เมื่อนำไหมาเปิดดูภายในก็พบ พระสนิมแดงจำนวนมากอยู่ภายใน จึงคัดแยกที่ดีๆ นำมาฝากญาติที่ อ.เดิมบางขาย เพราะไม่ต้องการให้มีใครรู้ว่าขึ้นมาจากดอนกระโดนด้วยเกรงจะมีความผิด |